#FullReview : Xiaomi - Purely Anti - Pollution Mask หน้ากากป้องกันฝุ่นและมลพิษ มาตราฐาน KN95 ที่มาพร้อมพัดลมกรองอากาศติดตั้งในตัว !!!



ก่อนหน้านี้ ผมเคยรีวิวหน้ากากกันฝุ่นละออง PM2.5 อย่าง Xiaomi - AirPOP ไปแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์เกี่ยวกับฝุ่นละอองและควันพิษในเมืองหลวงและจังหวัดใกล้เคียงนั้นยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องขออัพเกรดหน้ากากขึ้นมาอีก 1 ขั้นเป็น Xiaomi - Purely Anti - Pollution Mask หน้ากากป้องกันมลพิษติดตั้งพัดลมกรองอากาศ



โดย Xiaomi - Purely นั้นเป็นหน้ากากที่ยกระดับการป้องกันตามมาตราฐาน KN95*

(*KN95 เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม(ประเทศจีน) ที่สามารถกรองฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.3 ไมครอนได้ 95% และสามารถกรองฝุ่นระดับ PM10 และ PM2.5 ได้)

ซึ่งปกติหน้ากาก KN95 นั้นจำเป็นต้องมีการปิดทับที่แน่นหนากับใบหน้าและมีฟิลเตอร์การกรองที่ค่อนหนา ทำให้บางครั้งอาจจะหายใจไม่สะดวกนัก ทำให้เจ้า Xiaomi - AirPurely มีการติดตั้งพัดลมที่ดูดอากาศเข้ามา เพื่อช่วยให้เราหายใจสะดวกขึ้นนั่นเอง

Unboxing

ทีนี้มาดูกันว่าในกล่องเขาให้อะไรมาบ้าง




ตัวหน้ากากผ้าโพลีเอเตอร์ พร้อมพัดลม × 1
ฟิลเตอร์กรองแบบ Nano Fiber electret × 2
ฟิลเตอร์กรองพัดลม × 4
อุปกรณ์ถอดฝาครอบพัดลม × 1
คู่มือ และ ใบรับประกัน(ภาษาจีน)

Materials



โดยเจ้าหน้ากากนี้ถูกออกแบบการกรองถึง 2 ชั้น ด้านนอกชั้นแรกคือหน้ากากผ้ากำมะหยี่แบบโพลีเอเตอร์ ที่ปิดรัดหนาแน่น ด้วยการออกแบบโครงสร้างหน้ากาก 3 จุด (Three Dimentional) ครอบคลุมใบหน้า 360 องศา ตั้งแต่จมูกถึงคาง มีสายรัดปรับระดับได้ พร้อมตัวคล้องในกรณีที่ไม่อยากใส่รัดกับหู ก็รัดกับศรีษะได้เลย 



ส่วนด้านในเป็นฟิลเตอร์กรองฝุ่นระดับ KN95 ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Nano Filter Electret ถึง 4 ชั้น



ตัวพัดลมกรองอากาศ มีน้ำหนักประมาณ 50 กรัม ใช้แบตเตอรี่ Li - ion ความจุ 500 mAh ชาร์จไฟผ่านพอร์ต Micro USB ใช้งานต่อเนื่องได้ 4 - 8 ชั่วโมง สามารถปรับระดับความแรงพัดลมได้ 3 ระดับ 



ผลิตด้วยวัสดุ PP และ PC มาตราฐาน Food Grade จึงมั่นใจได้ว่าไม่ส่งผลต่อผิวหนังและการแพ้แน่นอน วิธีการใช้ให้กดปุ่มเปิดด้านบน ค้างไว้ 3 วินาที พัดลมก็จะติดขึ้นมา โดยมีไฟ LED แสดงสถานะอยู่ด้านหน้า , ส่วนการปรับความแรง ก็ให้กดปุ่ม Power 1 ครั้ง เป็นการเลือกระดับความแรง



โดยเจ้าพัดลมนี้ติดตั้งเพื่อช่วยดูดอากาศจากภายนอกเข้ามา ให้เราหายใจได้สะดวกขึ้น และการการติดตั้งฟิลเตอร์กรองอากาศทรงกลมไว้ และฟิลเตอร์จะอยู่ได้ประมาณ 8 ชั่วโมง วิธีการถอดเปลี่ยน ให้ใช้อุปกรณ์ที่อยู่ในกล่อง วางลงไปบนตระแกรงพัดลม แล้วบิดตามทิศทางที่เขียนว่า Open ก็จะถอดออกมาเจอกันฟิลเตอร์ที่วางอยู่เหนือพัดลม ก็เป็นอันเปลี่ยนได้เสร็จสิ้น



และตัวพัดลมยังสามารถถอดออกเพื่อเปลี่ยนฟิลเตอร์ KN95 ด้านในได้ วิธีการคือบิดตัวพัดลมให้หลุดจากล๊อคหน้ากาก โดยบิดตามเข็มนาฬิกา ซึ่งต้องออกแรงหน่อย เท่านี้ก็ถอดออกมาได้แล้วครับ ส่วนฟิลเตอร์ด้านในให้เราลองเปลี่ยนตามความเหมาะสมดูว่าตัวฟิลเตอร์มีความดำมากน้อยเพียงใด เพราะหนึ่งเปลี่ยนค่อนข้างยากและฟิลเตอร์มีราคาพอประมาณ(แต่ในกล่องแถมมาให้อีก 1 อัน)

การใช้งาน



ตัวผมทดลองใช้ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยสวมใส่เดินบนท้องถนนเป็นระยะทางยาวๆ พบว่ามันน่าจะป้องกันได้ดี เพราะตัวหน้ากากปิดรัดแน่นหนามาก ใส่นานๆก็แอบมีอึดอัดเล็กน้อย แต่ไม่ยักกะร้อนแบบหน้ากากทั่วไป

เพราะมันมีตัวช่วยคือพัดลมดูดอากาศ แต่ต้องปรับระดับที่แรงสุด ถึงจะพอรู้สึกนะครับ ระดับเบาสุดนี่ก็เบาไป แทบไม่ช่วยอะไรเลย

และสุดท้ายถ้าคุณเป็นคนพูดมาก คุณจะพบว่าเมื่อใส่หน้ากากนี้แล้วเดินไปพูดไป จะพบว่า "หายใจไม่ทัน" ครับ 5555 ถ้าจะใส่หน้ากากนี้อาจต้องประหยัดคำพูดลง เพราะมันแนบไปกับหน้าเราเลย มีพื้นที่ว่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ใช้ไปนานๆก็เริ่มจะชินครับ

สรุป

สั้นๆครับ มันเป็นตัวเลือกที่เก๋ไก๋ ส่วนการป้องกันก็ทำได้ในระดับที่ดี ส่วนจะดีแค่ไหนอันนี้ชี้วัดยากครับ เพราะผมก็ไม่ใช่สายสาธารณะสุข ขอใช้ประโยคว่า "เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรัก Gadgets ที่อยากรักษาสุขภาพ" แล้วกันครับ เพราะราคาค่าตัวมันก็ไม่ถูก มีราคาที่สามารถหาซื้อได้ตาม Lazada , Shopee และร้านหิ้วต่างๆ ตั้งแต่ 500 - 700 บาท หรือทาง Mi Store ก็จะมีวางจำหน่ายเช่นกัน แต่ราคาจะสูงกว่าออนไลน์ ส่วนเรื่องการสวมใส่ ก็มีทั้งจังหวะสบายๆปนอึดอัดบ้างสลับกันไป แต่ถ้าคิดว่าเพื่อสุขภาพของเรา ก็สามารถหาซื้อมาใช้กันได้ครับ 

Article by : โลกไอทีวันนี้

Comments