#FullReview : OnePlus Nord สมาร์ทโฟนระดับ High - Mid Range ที่คุ้มจัดๆ !!!! มาพร้อม หน้าจอ Fluid Amoled 6.44 นิ้ว , 90 Hz , ชิปเซ็ต Snapdragon 765G , กล้องหลัง 4 ตัว , กล้องหน้าคู่ และ แบตเตอรี่ 4115 mAh + Warp Charge 30T !!!!! ในราคาเริ่มต้นเพียง 14,990 บาท !!!
OnePlus Nord สมาร์ทโฟนที่เชื่อว่าผู้ใช้หลายๆคนรอคอย กับสโลแกน “Lite Flagship for New Gen” หรือแปลว่า สมาร์ทโฟนระดับกลางๆค่อนข้างไปทางเรือธง สำหรับคนรุ่นใหม่ กับราคาเริ่มต้นเพียง 14,990 บาท เท่านั้น
OnePlus Nord แสดงให้เห็นถึงการกลับมาอย่างเด่นชัดของการผสมผสาน สไตล์, คุณสมบัติ และ ราคา ที่ทำให้แบรนด์โดดเด่นในวงการสมาร์ทโฟนตั้งแต่ปี 2014 ด้วย OnePlus One
OnePlus Nord สามารถมอบประสบการณ์ใกล้เคียงกับระดับเรือธงในราคาที่ถูกกว่า OnePlus 8 Series อีกทั้งยังผสมผสานการออกแบบระดับพรีเมียม , ประสิทธิภาพที่ลื่นไหล และ กล้องที่ยอดเยี่ยม เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้ให้มากที่สุด
แน่นอนว่านอกจะสเปคที่จัดเต็มแล้ว เซอร์ไพรส์อย่างมากคือการประกาศช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ของทาง OnePlus ประเทศไทย ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ตามอ่านกันที่เนื้อหาด้านล่างได้เลยครับ
Unboxing
OnePlus เป็นแบรนด์ที่ใส่ใจในการทำบรรจุภัณฑ์มากๆ รอบนี้เปลี่ยนจากสีแดงที่เราคุ้นเคยมาเป็นสีดำฟ้า ตามสีเครื่องทั้งสองสี และมีการเลือกใช้วัสดุกล่องที่แข็งแรงและพรีเมี่ยมเช่นเคย แถมเนื้อกระดาษแข็งและกล่องใหญ่มากๆ เหมือนเครื่องราคา 2 หมื่นอัพ โดยภายในกล่องประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง OnePlus Nord
- Adapter Warp Charge 30T
- สาย Warp Type - C
- เคสซิลิโคน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน
- Logo sticker
- Welcome letter
สเปค OnePlus Nord
หน้าจอชนิด Fluid Amoled ขนาด 6.44 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , อัตราส่วน 20 : 9 , รองรับ Refresh Rate 90 Hz , supports sRGB and P3 color gamuts , ปรับระดับความสว่างได้ 2,048 ระดับ , ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5
CPU : Qualcomm Snapdragon 765G
GPU : Adreno 620
RAM : 8 GB/12 GB ชนิด LPDDR4X
ROM : 128 GB/256 GB ชนิด UFS 2.1
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G bands : N1, N78, 3, 7, 28, 78 (ในไทยที่รองรับคือ DTAC 700 MHz ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาระบบโครงข่าย)
กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48 + 8 + 5 + 2 ล้านพิกเซล , เลนส์หลัก Sony IMX586 , f/1.75 + f/2.25 + f/2.4 + f/2.4 , รองรับ OIS + EIS , รองรับ Ultra Wide 119 องศา , Macro Mode และ Depth Sensor
กล้องหน้าคู่ความละเอียด 32 + 8 ล้านพิกเซล , รองรับ Ultra Wide 105 องศา , เซนเซอร์หลัก Sony IMX616 , f/2.45
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
รองรับ Bluetooth 5.1/NFC
รองรับ Linear Motor Vibration
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 4115 mAh + Warp Charge 30T
ระบบปฎิบัติการ : Android 10 + Oxygen OS 10.5
สี : Blue Marble และ Gray Onyx
น้ำหนัก : 185 กรัม
Design
การออกแบบของ OnePlus Nord ได้รับการสร้างและการตกแต่งแบบเดียวกับ OnePlus 8 Series ที่เป็นรุ่นเรือธง แต่มีการเปลี่ยนมาใช้เฟรมพลาสติกคั่นกลางระหว่างกระจก Gorilla Glass ที่ด้านหน้าและด้านหลัง แทนที่เฟรมโลหะ แต่การถือจับอุปกรณ์ก็ยังคงให้ความรู้สึกระดับพรีเมี่ยม อีกทั้งยังมีขนาดใกล้เคียงกับ OnePlus 8 ซึ่งหมายความว่า OnePlus Nord สามารถใช้งานด้วยมือเดียวได้
OnePlus Nord มีขนาด 158.3 x 73.3 x 8.2 มม. และ น้ำหนัก 184 กรัม ซึ่งหมายความว่าสั้นกว่า OnePlus 8 แต่กว้างกว่า , หนากว่า และ หนักกว่าเล็กน้อย
ปุ่ม Power อยู่ทางด้านขอบขวา ตำแหน่งการวางจะอยู่ใต้นิ้วหัวแม่มืออย่างดี และอยู่ด้านล่างแถบเลื่อนการแจ้งเตือน(Alert Slider) ที่คุ้นเคย ซึ่งช่วยให้คุณสลับระหว่างโหมด เงียบ , สั่น และ เสียง ได้อย่างรวดเร็ว
ปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ขอบด้านซ้าย
ในขณะที่ขอบด้านล่างคุณจะพบพอร์ต USB Type - C บริเวณตรงกลาง ขนาบข้างด้วยลำโพง และ ถาดซิมการ์ดแบบคู่ ไม่รองรับ Micro SD Card อย่างไรก็ตาม ไม่มีช่องเสียบหูฟังบน OnePlus Nord
ที่ด้านหลังจะพบโมดูลกล้องขนาดใหญ่ เป็นรูปทรงรีวางแนวตั้ง ซึ่งมีกล้องสี่ตัว โดยกรอบโมดูลยกขึ้น 2 - 3 มิลลิเมตร จากฝาหลังของเครื่อง เช่นเดียวกับ OnePlus 8 และ 8 Pro แต่แตกต่างจากพี่น้องทััง 2 รุ่น คือโมดูลกล้องของ Nord อยู่ที่มุมซ้ายแทนที่จะอยู่ตรงกลาง
โดยภาพรวมของการออกแบบ OnePlus Nord นั้นทำออกมาได้ค่อนข้างดีมากๆ เมื่อสัมผัสแล้วยังคงรู้สึกได้ถึงความพรีเมี่ยมและงานประกอบที่แข็งแรงแน่นหนาอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างดี สีดำ Black Onyx ก็หรูหราดูน่าค้นหา และมีการเล่นเฉดแสงในมุมตกกระทบที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดีครับ
หน้าจอ
OnePlus Nord มีจอแสดงผลชนิด Fluid AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว , อัตราส่วน 20: 9 , ความละเอียด Full HD + , อัตรารีเฟรช 90 Hz , ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5
หน้าจอนั้นใหญ่เต็มตาและขอบบางมาก โดยส่วนที่หนาที่สุดอยู่ที่ขอบล่างของจอแสดงผล และช่องเจาะรูที่มุมซ้ายบนซึ่งเป็นที่อยู่ของกล้องหน้าคู่
จอแสดงผลสว่างและมีความคมชัดสูงมาก แต่แตกต่างจากหน้าจอของ OnePlus 8 โดยที่ Nord นั้นเป็นจอแบนแทนที่จะมีขอบโค้ง แต่ยังคงลื่นไหลด้วยอัตรา Refresh Rate 90 Hz ซึ่งต้องยอมรับว่าทำได้ดีมาก จนรู้สึกว่าดีกว่า 120 Hz ของค่ายอื่นๆบางรุ่นด้วยซ้ำไป
มีการรองรับ HDR10 + ด้วย ดังนั้นหากคุณรับชมเนื้อหาจากบริการต่างๆเช่น Netflix หรือ YouTube ก็จะพบว่ามันดูสวยงามมากๆบนหน้าจอของ Nord ทำให้การรับชมวิดีโอให้ประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจ ด้วยการแสดงสีที่อัดแน่นไปด้วยความสดใส
ในแง่การใช้งานกลางแจ้งสามารถสู้แสงได้ดี
และสุดท้ายคือมีการติดฟิล์มกันรอยมาให้จากโรงงานแล้ว ทำให้ไม่ต้องไปลำบากหามาติดเพิ่มเอง
Software
หน้าตา Home screen , AppDrawer นั้นค่อนข้างจะเรียบง่าย โดยเมื่อปัดไปทางซ้ายจะมีหน้า DashBoard ที่แสดงข้อมูลต่างๆที่สำคัญ เช่น พยากรณ์อากาศ , บันทึกโน๊ต , แอพที่เรียกใช้ประจำ เป็นต้น
ระบบควบคุมมีทั้งแบบ Navigation Bar หรือสามารถปรับไปใช้ Gesture Control ที่ตั้งค่าได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ScreenOff Gesture ที่ตั้งค่าวาดตัวอักษรเพื่อเป็นทางลัดให้แอพนั้นๆ เป็นต้น
ฟีเจอร์รักโลกรักคุณสุดคูลอย่าง Zen Mode ก็ยังคงมีมาให้ โดย ZenMode เป็นฟีเจอร์ที่จะสอนให้คุณอยู่ห่างจากการมองหน้าจอมือถือ แล้วหันไปทำอย่างอื่นให้มากขึ้น โดยเมื่อเปิดโหมดนี้จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากรับสายกับโทรออก โดยจะตั้งเวลาได้ว่าใน 1 วันคุณต้องการเข้า ZenMode นานแค่ไหน เริ่มต้นตั้งแต่ 20 นาทีขึ้นไป และยังมาพร้อมกับ 21 Days Challenge Mode แบบใหม่ ที่ให้คุณท้าทายตัวเองอย่างต่อเนื่องนานถึง 21 วัน
อัตราการรีเฟรชหน้าจอของ OnePlus Nord สามารถเลือกได้ระหว่าง 90Hz เพื่อการแสดงผลที่ลื่นไหล หรือ 60Hz เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานมากขึ้น
พร้อมกับฟีเจอร์ RAM Boost ที่สามารถเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้และจัดสรรหน่วยความจำ RAM อย่างชาญฉลาดให้กับแอพที่ต้องใช้พื้นที่หน่วยความจำมาก ช่วยให้โหลดแอพละเปิดเล่นเกมได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม
Hardware & Performance
OnePlus Nord มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 765G ที่ถือว่าเป็นชิปเซ็ตที่ดีที่สุดในกลุ่ม High Mid Range ของ Android ณ เวลานี้แล้ว
อีกทั้งมาพร้อม RAM 12 GB และ ROM 256 GB (รุ่นที่รีวิว)
ทำให้ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Geekbench ทำคะแนนในโหมด Multi Core ได้ 1939 คะแนน และ Single Core 608 ได้คะแนน
ทดสอบ Widevine ได้ L1 สามารถดู NETFLIX รองรับสูงสุดที่ระดับ HD ครับ
Gaming & Sound
สำหรับประสบการณ์ในการเล่นเกมส์ด้วย OnePlus Nord นั้นทำได้ดี จากการทดสอบด้วย Call of Duty Mobile นั้นพบว่าสามารถปรับกราฟฟิคเกมส์ได้ในระดับสูงสุดทั้งหมด และสามารถเล่นได้ต่อเนื่องโดยที่ไม่มีอาการกระตุก ต้องพูดเลยว่าลื่นมากๆด้วยซ้ำ แต่จะพบว่าเครื่องร้อนในระดับอุ่นๆอย่างต่อเนื่อง และเสียดายที่ใช้ลำโพงเดี่ยวแบบ Mono ทำให้ขาดมิติเสียงไป แต่ทดแทนด้วยความดังที่ถือว่าเยอะมาก เมื่อเทียบว่ามีลำโพงตัวเดียว
Camera
โดยภาพรวมการถ่ายภาพด้วยเลนส์หลักนั้น ให้รายละเอียดที่คมชัด และ มี Dynamic ของภาพที่ดี ภายใต้สภาวะกลางวันทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตามสไตล์ของเซนเซอร์ Sony IMX586 แต่กระนั้นสำหรับ OnePlus Nord ก็เหมือนว่าจะมีการปรับจูนซอฟแวร์ของกล้องให้ดีขึ้นกว่าราคาค่าตัว จนรู้สึกเกินหน้าเกินตารุ่นเรือธงหลายๆตัวเลย อีกทั้งยังมาพร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS + EIS ที่รองรับทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra Wide 119 องศา มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี มีมุมมองที่กว้างเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน มีอาการ Distort ของภาพให้เห็นบ้างเล็กน้อยที่มุมบนและล่าง ในตอนกลางวันทำออกมาดี แต่พอเวลากลางคืนเนื่องจากรูรับแสงแคบ ภาพที่ได้ก็จะทึมๆเล็กน้อย (ในโหมด Auto)
โหมดถ่ายภาพกลางคืน Night Scape ถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์ โดยทดสอบถ่ายในที่มืดพบว่าจะให้ภาพที่ออกมามี Quality ที่ดีโดดเด่น ให้โทนภาพที่มี Vivid ค่อนข้างสูงบนความสว่างที่เก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดี
ภาพถ่ายโหมดบุคคล ละลายหลังได้เป็นธรรมชาติ มีการตัดขอบได้ค่อนข้างเนียนตามาก แต่ไม่สามารถปรับระดับเบลอหลังแบบ Manual ได้
ภาพถ่าย Macro ในระยะใกล้สุด 2.5 cm. ใช้งานค่อนข้างง่าย แต่ประสิทธิภาพอาจจะไม่ถึงกับดีมากนัก
กล้องหน้าคู่ความละเอียด 32 + 8 ล้านพิกเซล นั้นค่อนข้างให้โทนภาพในแบบธรรมชาติ , มีการปรับแต่ง Beauty Mode ได้ 3 ระดับ และสามารถถ่ายแบบ Portrait ได้ อีกทั้งยังถ่ายภาพในโหมด Ultra Wide ที่มุมกว้าง 105 องศา ได้
ตัวอย่างภาพถ่าย
ระบบรักษาความปลอดภัย
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้หน้าจอ ทำงานได้ดีพอสมควร และสามารถลงทะเบียนได้หลายนิ้ว แม้ว่าจะไม่ใช่เซ็นเซอร์ที่เร็วที่สุดที่เราเคยใช้ แต่โดยภาพรวมถือว่าสอบผ่านครับ
วิธีหนึ่งในการเพิ่มความเร็วการปลดล็อคบน OnePlus Nord คือการจับคู่การสแกนลายนิ้วมือกับการปลดล็อคด้วยใบหน้า ซึ่ง Nord สามารถรวมคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยไบโอเมตริกซ์ทั้งสองพร้อมกันเมื่อคุณปลดล็อคและสามารถให้ผลลัพธ์ที่เร็วกว่า
แบตเตอรี่
มาพร้อมความจุ 4115 mAh ซึ่งค่อนข้างใหญ่และเพียงพอต่อการใช้งานแบบข้ามวันสบายๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบชาร์จ 30T Wrap Charge การันตีการชาร์จ 0 - 70% ภายในระยะเวลา 30 นาที ซึ่งก็เป็นจุดเด่นของ OnePlus เลยทีเดียว
สรุป
OnePlus Nord ครั้งแรกกับการชิมลางในตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่ม High Mid Range หรือที่ทางค่ายเรียกว่า "Lite Flagship" นั้นถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ โดยมีโดดเด่นค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับราคาค่าตัว มีของดีครบพร้อมใช้งานทั้ง หน้าจอ , ประสิทธิภาพเครื่อง , กล้อง , งานประกอบ และ แบตเตอรี่ ฟันธงว่าคุ้มจริงๆครับ
ราคาจำหน่าย
รุ่น RAM 8 GB/ROM 128 GB ราคา 14,990 บาท
รุ่น RAM 12 GB/ROM 256 GB ราคา 17,990 บาท (มีเฉพาะสี Blue Marble)
เปิด Pre - Order วันที่ 21 - 27 สิงหาคม รับฟรี VIP Card ประกันจอแตก 1 ปี และ กระเป๋า OnePlus รวมมูลค่า 10,900 บาท
ราคาติดโปรโมชั่นเครือข่าย AIS , DTAC และ TrueMove H เริ่มต้นเพียง 7,990 บาท
ช่องทางจัดจำหน่าย
ผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศแล้ววันนี้ ประกอบด้วย AIS , DTAC , TrueMove H , Banana , CSC , IT City , JayMart , TG Fone , JD Central , Lazada , Shopee , ThisShop
ศูนย์บริการ
สามารถนำสมาร์ทโฟน OnePlus เข้าศูนย์บริการ OPPO ได้ทั่วประเทศ ในเร็วๆนี้
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment