Samsung เปิดตัวมาตรฐานการชาร์จเร็ว 45W เมื่อปีที่แล้วสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง แม้ว่าจะมาพร้อมที่ชาร์จ 25W ในกล่องก็ตาม แต่กระนั้น Note 10+, S20 +, S20 Ultra ก็รองรับชาร์จ 45W แต่คุณต้องไปซื้ออแดปเตอร์แยกต่างหากเท่านั้น
ล่าสุดตอนนี้ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Galaxy Note 20 Series จะไม่รองรับการชาร์จที่ 45W แต่จะชาร์จได้ที่ 25W เท่านั้น
เหตุใด Samsung จึงยกเลิกมาตรฐานการชาร์จ 45W
ในขณะที่เราไม่ทราบแน่ชัด Samsung อาจยกเลิกการใช้ระบบชาร์จ 45W เนื่องจากอุปกรณ์ชาร์จมีราคาแพงและไม่ได้ชาร์จเร็วกว่า 25W มากนัก
ตอนนี้อาจฟังดูสับสนเล็กน้อย เนื่องจาก 45W เร็วกว่า 25W เกือบสองเท่า แต่ในการทดสอบระบบชาร์จ 45W สามารถชาร์จได้เร็วขึ้นถึง 80% แต่ 20% สุดท้ายจะชาร์จช้าลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โดยรวมแล้วเร็วกว่าระบบชาร์จ 25W เพียงไม่กี่นาที
และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ Samsung ตัดสินใจถอดระบบชาร์จ 45W ออกใน Galaxy Note 20 series มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเพิ่มต้นทุนเพื่อทำการชาร์จที่เร็วขึ้น แต่ไม่ได้แตกต่างจาก 25W มากนัก ไม่ต้องพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าลูกค้าส่วนใหญ่มักจะไม่ซื้อที่ชาร์จ 45W ที่จำหน่ายแยกต่างหากอีกด้วย
การชาร์จ 25W ยังคงเร็วมากเพียงพอ
แน่นอนว่ามีบริษัทอื่นๆที่เปิดตัวระบบชาร์จเร็วที่มากกว่า Samsung เช่น OnePlus ที่มี Warp Charge 30T หรือ Vivo และ OPPO ที่ชาร์จ 120W แต่มาตรฐานการชาร์จของ Samsung นั้นเชื่อว่า 25W ดีที่สุดแล้ว
เพียงเพราะปลอดภัยกว่า
คุณจะเห็นว่าบริษัทอื่นๆ ล้วนใช้พอร์ต USB-A ในระบบมาตรฐานการชาร์จเร็วเหล่านี้ ซึ่ง USB Type A ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อระบบชาร์จเร็วโดยตรงและเกิดการสะสมความร้อนได้เร็ว
ในทางกลับกัน Samsung ใช้ USB Type - C ทั้ง 2 ด้าน สำหรับมาตรฐานการชาร์จเร็วนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาสำหรับระบบชาร์จเร็วโดยเฉพาะและมีการตรวจสอบความปลอดภัยอีกมากมายรวมอยู่ด้วย
ในขณะที่เราทุกคนต้องการที่จะสามารถชาร์จสมาร์ทโฟนของเราให้เร็วที่สุดได้ แต่ความปลอดภัยควรเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นต้องขอชื่นชม Samsung ในการใช้แนวทางที่ถูกต้องและมอบมาตรฐานการชาร์จที่รวดเร็วที่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้ แทนที่จะทำระบบชาร์จให้เร็วที่สุดเพียงแค่เพราะทำได้
การชาร์จ Galaxy Note 20 และ Note 20 Ultra ที่ 25W อาจดูเหมือนเป็นการลดสเปค แต่ก็เป็นสิ่งที่เราสามารถใช้งานได้จริงๆ และจะมีซักกี่คนที่จะซื้อหัวชาร์จ 45W ของ Samsung มาใช้งานเพิ่มเติม ลองนับกันดูได้ครับ
Source : Android Headlines
Article By : โลกไอทีวันนี้