Qualcomm ประกาศเปิดตัวชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 เรือธงพันธุ์โหดระดับ 4 นาโนเมตร !!! มาพร้อมคอร์ซีพียู ARMv9 ใหม่ สถาปัตยกรรม Adreno GPU ใหม่ และรองรับความเร็ว Up - Link สูงสุด 10 Gbps !!!



ไฮไลท์ 

✓ Samsung 4nm process, ARMv9 Architecture

✓ CPU: 1x3.0GHz ARM Cortex-X2 + 3x2.5GHz ARM Cortex-A710 + 4x1.8GHz ARM Cortex-A510

✓ GPU: Adreno 730

✓ Qualcomm X65 5G modem, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2, 7th AI Engine, 18-bit triple ISP

ในงาน Snapdragon Tech Summit ของ Qualcomm ได้นำเสนอชิปเซ็ตเรือธงรุ่นใหม่ นั่นคือ Snapdragon 8 Gen1 ซึ่งมีการปรับปรุงหลายอย่างในนวัตกรรม เช่นการเปลี่ยนเป็นชุดคำสั่ง ARMv9 ใหม่ , สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร โดยการประกาศดังกล่าวยังยืนยันว่าสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มีวางจำหน่ายทั่วไปพร้อมชิปตัวใหม่จะออกมาก่อนสิ้นปีนี้

ระบบการตั้งชื่อใหม่ ประกอบด้วยตัวเลขสำหรับคลาส โดย เลข 8 คือซีรี่ย์เรือธง และ ตัวที่สองสำหรับรุ่น โดยเป็นเรือธงตัวแรกของ Qualcomm ที่ใช้สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตรและเป็นรายแรกที่ใช้แกน ARMv9

ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค Snapdragon 8 Gen1


CPU ออกแบบสามคลัสเตอร์ มี Prime Core ที่มีแกน ARM Cortex-X2 ที่มีความเร็ว 3.0 GHz  นอกจากนี้ยังมี Performance Core สามคอร์ตามมาตรฐาน ARM Cortex-A710 รุ่นใหม่ ทำงานที่ความเร็ว 2.5 GHz  สุดท้าย Efficiency Core จำนวนสี่คอร์ ชนิด ARM Cortex-A510 ใหม่ ทำงานที่ความเร็ว 1.8 GHz

โดยรวมแล้ว CPU ใหม่จะเร็วกว่าซีพียู Qualcomm Snapdragon 888 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย  

Adreno GPU ใหม่พร้อมการอัปเกรดที่สำคัญ


ในส่วนของ GPU ใหม่ คือ Adreno 730 พร้อมประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ และ ประหยัดพลังงานได้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ด้วยสถาปัตยกรรมใหม่  Qualcomm ได้พัฒนาคุณสมบัติ Elite Gaming สามแบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นจะช่วยให้นักพัฒนาสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพการประมวลผลและประสิทธิภาพด้านพลังงานได้ดียิ่งขึ้น

Adreno Frame Motion Engine ช่วยให้ GPU แสดงผลเกมด้วยอัตราเฟรมสองเท่าในขณะที่ใช้พลังงานในปริมาณเท่ากัน และยังสามารถรักษา FPS ไว้เท่าเดิมในขณะที่ลดกำลังประมวลผลลงครึ่งหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Desktop-class volumetric rendering และ Variable Rate Shading Pro ซึ่งถูกใช้สำหรับเอฟเฟกต์ขั้นเทพ โดยทาง Qualcomm ยังได้ประกาศพาร์ทเนอร์กับนักพัฒนาเกมจำนวนมาก เพื่อที่จะดึงประสิทธิภาพการทำงานของ Snapdragon 8 Gen 1 ออกมาให้ได้มากที่สุด

การเชื่อมต่อ และ ความปลอดภัย

Snapdragon 8 Gen 1 มีโมเด็ม X65 5G ในตัว  รองรับการทำงานทั้ง sub-6 และ mmWave  สามารถให้ความเร็วสูงสุดตามทฤษฎีที่ 10 Gbps เป็นครั้งแรกที่รองรับการcarrier aggregation สำหรับอัปลิงค์

รองรับ Wi-Fi 6 และ 6E รวมถึงการปรับปรุง Bluetooth  ชิปตัวใหม่นี้สามารถสตรีม CD Lossless Audio ผ่าน Bluetooth LE ได้  นอกจากนี้ยังรองรับ Bluetooth LE Audio นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกเสียงแบบสเตอริโอพร้อม voice-back channels และยังรับรองความปลอดภัยระดับสูงสุดด้วย  Trust Management Engine ใหม่  

ภาพถ่าย RAW 18 บิต และ วิดีโอ 8K HDR — หากกล้องของคุณรองรับได้


Qualcomm ให้ความสำคัญกับความสามารถของกล้องที่พัฒนาขึ้น ภายใต้แบรนด์ "Snapdragon Sight" ใหม่

Snapdragon 8 Gen 1 อัพเกรดสิ่งต่างๆ ให้เป็นระบบ 18 บิต (เพิ่มขึ้นจาก 14 บิตใน 888)  ซึ่งแปลเป็นข้อมูลกล้องมากขึ้น 4,096 เท่า และ ช่วงไดนามิกเพิ่มเติมสูงสุดสี่สต็อป สำหรับสถานการณ์ที่สว่างหรือมืดมาก  ISP สามตัว (ตัวประมวลผลสัญญาณภาพ) ยังช่วยให้สามารถถ่ายภาพ 240 ภาพ ขนาด 12 ล้านพิกเซล ในวินาทีเดียวหรือถ่ายวิดีโอ 8K พร้อม HDR แบบ Real Time ได้ 

รวมถึงการรองรับการถ่ายวิดีโอ 8K ด้วย HDR 10 Plus และการถ่ายภาพใน RAW 18 บิต (สมมติว่าสมาร์ทโฟนของคุณมีฮาร์ดแวร์กล้องที่สามารถรองรับทั้งหมดออกมาได้จริง)

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการถ่ายภาพอื่นๆ ที่หลากหลาย รวมถึงภาพในโหมดกลางคืนที่ดีขึ้น ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลจากภาพได้สูงสุด 30 ภาพในช็อตเดียว (เพิ่มขึ้นจาก 6 ภาพใน 888)  นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการประมวลผล AI ที่ดีขึ้นอีกจำนวนมาก โดยมีการปรับปรุงการเปิดรับแสงอัตโนมัติ โฟกัสอัตโนมัติ และเทคโนโลยีการตรวจจับใบหน้าอัตโนมัติ และ “Engine Bokeh” โดยเฉพาะสำหรับการเพิ่มเอฟเฟกต์ภาพบุคคลให้กับวิดีโอ 4K และ “Ultra Wide Tools” ที่สามารถแก้การบิดเบี้ยวและขจัดความคลาดเคลื่อนสีออกจากภาพ

Qualcomm ยังเพิ่ม ISP ที่สี่ ซึ่งอยู่ในฮับการตรวจจับเฉพาะบน SoC ซึ่งแตกต่างจาก ISP สามตัวสำหรับกล้องหลัก โดย ISP ใหม่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้พลังงานกับ Always On Camera ซึ่งทำงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง Qualcomm มีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ในสิ่งที่นักพัฒนาสามารถทำได้ด้วยกล้องที่เปิดตลอดเวลา เช่น การปิดหน้าจอโดยอัตโนมัติเมื่อคุณวางโทรศัพท์ลง หรือหากตรวจพบว่ามีใครบางคนพยายามอ่านข้อมูลบนหน้าจอที่ด้านหลังของคุณ

และในขณะที่แนวคิดเรื่องกล้องเปิดตลอดเวลาทำให้เกิดข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ชัดเจน Qualcomm โต้แย้งว่าคุณลักษณะนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้การใช้อุปกรณ์ของคุณมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยข้อมูลของกล้องสำหรับ Always On Camera จะอยู่ในอุปกรณ์ภายในชิปที่ปลอดภัย  นอกจากนี้ ผู้ใช้จะสามารถเลือกใช้ Always On Camera ได้ เช่นเดียวกับที่พวกเขาสามารถเลือกได้ว่าจะใช้คุณสมบัติไมโครโฟนที่ฟังตลอดเวลาสำหรับ Voice Assistant หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ความสามารถและวิธีที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะนำไปใช้ในอุปกรณ์ของพวกเขา จะเป็นสิ่งที่น่าจับตามองเมื่อสมาร์ทโฟนตัวแรกที่มี Snapdragon 8 Gen 1 เปิดตัว


ในด้าน AI ชิป Snapdragon 8 Gen 1 มีโปรเซสเซอร์ Hexagon ล่าสุดของ Qualcomm พร้อมเอ็นจิ้น AI รุ่นที่เจ็ด ซึ่ง บริษัทกล่าวว่าเร็วกว่ารุ่นก่อนถึงสี่เท่าและประหยัดพลังงานได้มากถึง 1.7 เท่า

บริษัท ได้แสดงให้เห็นกรณีการใช้งานที่หลากหลายที่สามารถเปิดใช้งานประสิทธิภาพของ AI ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการทำงานของกล้องใน "โหมด Leica Leitz Look" ที่เลียนแบบเอฟเฟกต์เลนส์ Leica 

ประสิทธิภาพของ AI ดีขึ้นสี่เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นปีที่แล้ว


สุดท้ายมีการปรับปรุงความปลอดภัย  Snapdragon 8 Gen 1 เพิ่มชั้นการรักษาความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์ใหม่ด้วย “เครื่องมือจัดการความน่าเชื่อถือโดยเฉพาะ” นอกเหนือจากการให้การสนับสนุนสำหรับมาตรฐาน Android Ready SE ทำให้รองรับกุญแจรถดิจิทัล , ใบขับขี่ ID และ กระเป๋าเงินดิจิตอล  นอกจากนี้ยังมีการรองรับ iSIM ในตัวสำหรับการเชื่อมต่อโดยตรงกับเครือข่ายเซลลูลาร์

สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่จะใช้ Snapdragon 8 Gen 1 ตามรายงาน Xiaomi , realme และ Motorola กำลังต่อสู้กันเพื่อดูว่าใครเป็นรายแรกที่จะเปิดตัวเรือธงด้วยชิปตัวนี้ โดยในปีหน้า บริษัทหลักส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเปิดตัวเรือธงด้วย Snapdragon 8 Gen1 

Source : GizChina
Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments