นักวิเคราะห์ชี้ ราคาขาย iPhone 14 นอกสหรัฐอเมริกา อาจแพงขึ้นกว่าเดิม !!!! สาเหตุเกิดจาก 5 ปัจจัยสำคัญ !!!!


หลังจากที่ Apple พึ่งจะทำรายได้บริษัทในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณนี้ สูงทะลุเป็นประวัติการณ์กว่า 9.73 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบเป็นรายปี

และบริษัทได้เห็นยอดขาย iPhone เพิ่มขึ้นอีกครั้ง และทำกำไรได้มหาศาล กับ iPhone 13 ซึ่งกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในประเทศจีน ในไตรมาสที่ 1 ปี 2022 โดยยอดขาย iPhone, Mac, Wearable, ผลิตภัณฑ์ในบ้าน และอุปกรณ์เสริม ต่างทำลายสถิติรายได้เมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นๆเช่นกัน

แต่กระนั้นดูเหมือนว่า Tim Cook CEO ของ Apple ได้ออกมาเตือนเมื่อวานนี้ว่า Apple มีแนวโน้มที่จะเห็นการขาดแคลนซัพพลายซึ่งทำให้บริษัทต้องสูญเสียต้นทุนตั้งแต่ 4 ถึง 8 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสนี้

โดย Tim Cook ได้ระบุเหตุผล 5 ประการ ที่คาดว่าจะส่งผลต่อรายรับของบริษัทในไตรมาส 3 อย่างมาก

1.) การขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบ

2.) การ LockDown ในประเทศจีน เนื่องโดยนโยบาย Set Zero ที่รัฐบาลต้องการให้ผู้ติดเชื้อเหลือ 0 ส่งผลอย่างมากต่อการเปิดโรงงานและสายการผลิต

3.) ความผันผวนในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ

4.) การสูญเสียยอดขายจากการคว่ำบาตรรัสเซีย

5.) ภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลต่อการลดอำนาจการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลก

อีกทั้ง Chris Caso นักวิเคราะห์เศรษฐกิจได้เตือนว่าปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอาจเป็นปัญหาระยะยาว และส่งผลให้ราคา iPhone อาจสูงขึ้นนอกสหรัฐอเมริกาเมื่อเปิดตัว iPhone 14 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

แปลง่ายๆว่าความผันผวนการค่าเงินทำให้เราต้องซื้อของแพงขึ้น แม้ว่าบริษัทจะเปิดตัวราคาตั้งต้นเท่าเดิม คล้ายกับสถานการณ์เงินเยนในขณะนี้ที่ทำให้เราซื้อของจากญี่ปุ่นได้ถูกลง แต่กับอเมริกานั้นตรงข้าม หากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรายังไม่เปลี่ยนแปลงก่อนเวลาเปิดตัว iPhone 14 มาถึง ก็อาจจะทำให้เราต้องซื้อในราคาที่แพงขึ้นก็เป็นได้

แต่ทั้งนี้นักวิเคราะห์หลายรายยังเชื่อว่า ปัจจัยข้ออื่นๆที่เกิดขึ้นกับ Apple ก็อาจส่งผลให้ราคาตั้งต้นของ iPhone 14 แพงขึ้นมาจากเดิมได้เหมือนกัน

Source : 9to5Mac
Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments