FullReview | Xiaomi 13T Series สมาร์ทโฟน Flagship Killer ที่มาพร้อมระบบกล้อง Leica เต็มรูปแบบ และ สเปคชั้นเลิศแบบไร้คู่เปรียบ ในราคาชวนตะลึง !!!


Xiaomi ได้ประกาศเปิดตัว Xiaomi 13T และ 13T Pro ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของบริษัทใน 13T Series co-engineered with Leica ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Masterpiece in sight’ อย่างเป็นทางการไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ในวันนี้เราก็จะขอมารีวิวทั้ง 2 รุ่น ให้ทุกท่านได้รับชมกันครับ ว่ามีทีเด็ดอย่างไรบ้าง

ไฮไลค์สำคัญ

ทั้งสองรุ่นมาพร้อม จอแสดงผล CrystalRes 1.5K ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมอัตรารีเฟรช 144Hz มีความสว่างสูงสุดถึง 2600 nits นอกจากนี้ยังรองรับการลดแสง PWM 2880Hz , Dolby Vision และ Dolby Atmos พร้อมลำโพงคู่ในตัว

Xiaomi 13T Series มีกล้องสามตัวพร้อมเลนส์ Summicron ที่ออกแบบร่วมกับ Leica ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP ที่มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 24 มม. และเลนส์แอสเฟอริคัล 7P กับ เลนส์เทเลโฟโต้ 50MP ที่มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 50 มม. กล้อง Ultra Wide 12MP พร้อมทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 15 มม. 

มี Leica Authentic Look และ Leica Vibrant Look ที่ให้สีที่เป็นธรรมชาติ ความเปรียบต่างที่ชัดเจน และความคมชัดของเงา พร้อมด้วยความสวยงามของภาพ Leica แบบคลาสสิก พร้อมฟังก์ชันสไตล์การถ่ายภาพแบบปรับแต่งพิเศษภายใต้โหมด Pro ที่เปิดตัวครั้งแรกใน Xiaomi 13 Ultra ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับโทนสี และพื้นผิวได้ โดยยังคงรักษารายละเอียดและสีหลังการประมวลผลไว้ได้

คุณสมบัติอื่นๆ ของกล้อง ได้แก่ การบันทึกวิดีโอ LOG 4:2:0 H.265 10 บิต และมี Rec.709 LUT ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้ Xiaomi 13 Pro ยังมีรองรับการถ่ายวิดีโอ 8K และระบบกันสั่น OIS + EIS ด้วย

Xiaomi 13T Pro ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9200+ และ Xiaomi 13T มาพร้อมกับ MediaTek Dimensity 8200-Ultra  มีแผ่นสแตนเลสระบายความร้อนแบบ VC ขนาด 5,000 มม.² ซึ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่แบรนด์เคยใส่มา และ รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68

ทำงานบนระบบปฎิบัติการ Android 13 + MIUI 14 โดย Xiaomi ได้ยืนยันการอัปเดตเวอร์ชั่น Android เป็นเวลา 4 ปี และ การอัปเดตความปลอดภัยเป็นเวลา 5 ปี

Xiaomi 13T Series มีตัวเลือกสี Alpine Blue, Meadow Green และ Black โดยสี Alpine Blue ใช้วัสดุหนังวีแก้น Xiaomi BioComfort ระดับพรีเมี่ยมพร้อมพื้นผิวที่นุ่มและละเอียดอ่อน

ส่วนสี Meadow Green และ Black มีด้านหลังที่เป็นกระจกมันซึ่งเพิ่มความหรูหราโฉบเฉี่ยว 

ทั้งสองรุ่นมีแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh โดย Xiaomi 13T Pro รองรับ Xiaomi 120W HyperCharge ซึ่งช่วยให้ชาร์จ 0 - 100% ในเวลาเพียง 19 นาที และ Xiaomi 13T รองรับชาร์เร็ว 67W ซึ่งสามารถชาร์จได้ถึง 21% ในเวลาเพียง 5 นาที

🟠 สเปค Xiaomi 13T Pro

หน้าจอชนิด CrystalRes Amoled ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด 1220P (2712 × 1220 พิกเซล) , อัตรา Refresh Rate 144 Hz Adaptive Sync , Touch Sampling Rate 480 Hz , รองรับ TrueColor display 68 พันล้านสี , JNCD≈0.28, Delta E≈0.38 , ความสว่างสูงสุด 2600 nits , รองรับ HDR10+ , Dolby Vision , Adaptive HDR
, Adaptive reading mode, SGS Low Visual Fatigue Certification , ความหนาแน่น 446 PPI , 2880Hz high frequency PWM dimming ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5
CPU : MediaTek Dimensity 9200+
GPU : Immortalis - G715
RAM : 12 GB/16 GB ชนิด LPDDR5X
ROM : 256 GB/512 GB/1 TB ชนิด UFS 4.0
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
กล้องหลัง 3 ตัว Leica Vario - Summicron ความละเอียด 50 + 12 + 50 ล้านพิกเซล , f/1.9 + f/2.2 + f/1.9 , เซนเซอร์หลัก Sony IMX707 ขนาด 1/1.28 นิ้ว , 7P Aspherical Leica lens, 85° FOV , รองรับ OIS + EIS , รองรับ Leica Ultra Wide 120 องศา เซนเซอร์ Omnivision OV13B10 และ Leica TelePhoto Optical Zoom 2x เซนเซอร์ Omnivision OV50D

รองรับฟีเจอร์
Leica Photographic Style
Master Lens System
Xiaomi ProCut
Night mode, Ultra Night Video
Xiaomi ProFocus: Motion tracking focus, Motion capture, Eye tracking focus
8K video recording , HDR10+ Video

กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล , f/2.2
ลำโพงคู่แบบ Stereo
รองรับระบบเสียง Hi - Res Audio และ Dolby Atmos
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ VC heat plate
รองรับ WiFi7 / Bluetooth 5.4 / NFC
รองรับพอร์ต IR Infrared
รองรับ X-axis horizontal linear motor
รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP68
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mAh + 120W HyperCharge (0-100% ใน 19 นาที)
ระบบปฎิบัติการ : Android 13 + MIUI 14
มิติตัวเครื่อง : 162.2 × 75.7 × 8.62 mm.
น้ำหนัก : 206 กรัม
สี : Alpine Blue, Meadow Green และ Black

🟠 สเปค Xiaomi 13T

หน้าจอชนิด CrystalRes Amoled ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด 1220P (2712 × 1220 พิกเซล) , อัตรา Refresh Rate 144 Hz Adaptive Sync , Touch Sampling Rate 480 Hz , รองรับ TrueColor display 68 พันล้านสี , JNCD≈0.28, Delta E≈0.38 , ความสว่างสูงสุด 2600 nits , รองรับ HDR10+ , Dolby Vision , Adaptive HDR
, Adaptive reading mode, SGS Low Visual Fatigue Certification , ความหนาแน่น 446 PPI , 2880Hz high frequency PWM dimming ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5
CPU : MediaTek Dimensity 8200 Ultra
GPU : Mali - G610
RAM : 8 GB/12 GB ชนิด LPDDR5
ROM : 256 GB ชนิด UFS 3.1
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
กล้องหลัง 3 ตัว Leica Vario - Summicron ความละเอียด 50 + 12 + 50 ล้านพิกเซล , f/1.9 + f/2.2 + f/1.9 , เซนเซอร์หลัก Sony IMX707 ขนาด 1/1.28 นิ้ว , 7P Aspherical Leica lens, 85° FOV , รองรับ OIS + EIS , รองรับ Leica Ultra Wide 120 องศา เซนเซอร์ Omnivision OV13B10 และ Leica TelePhoto Optical Zoom 2x เซนเซอร์ Omnivision OV50D

รองรับฟีเจอร์
Leica Photographic Style
Master Lens System
Xiaomi ProCut
Night mode, Ultra Night Video
Xiaomi ProFocus: Motion tracking focus, Motion capture, Eye tracking focus

กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล , f/2.2
ลำโพงคู่แบบ Stereo
รองรับระบบเสียง Hi - Res Audio และ Dolby Atmos
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ VC heat plate
รองรับ WiFi6 / Bluetooth 5.4 / NFC
รองรับพอร์ต IR Infrared
รองรับ X-axis horizontal linear motor
รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP68
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mAh + 67W TurboCharge
ระบบปฎิบัติการ : Android 13 + MIUI 14
มิติตัวเครื่อง : 162.2 × 75.7 × 8.49 mm.
น้ำหนัก : 197 กรัม
สี : Alpine Blue, Meadow Green และ Black


มาเริ่มกันที่ Design ของ Xiaomi 13T Series

Xiaomi ยังคงยึดหลักการออกแบบสมาร์ทโฟนในสไตล์มินิมอล โดยดีไซน์การออกแบบมาในทิศทางเดียวกับ Xiaomi 13 Series และทั้ง Xiaomi 13T Pro กับ Xiaomi 13T ยังได้มีการแชร์ดีไซน์ร่วมกันทั้งสีสันและวัสดุ ซึ่งมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Alpine Blue, Meadow Green และ Black 

โดยสี Alpine Blue ใช้วัสดุฝาหลังเป็นหนังวีแกนแบบพิเศษที่เรียกว่า Bio Comfort ให้ความหรูหราพรีเมียม มีผิวสัมผัสนุ่มมือ ในขณะที่สี Black ใช้วัสดุกระจกเงา

โดยรุ่นที่เราใช้ในรีวิวนี้ Xiaomi 13T Pro จะเป็นสี Alpine Blue และ Xiaomi 13T เป็นสี Black ครับ

ซึ่งทั้ง Xiaomi 13T Pro และ Xiaomi 13T จะมีมิติตัวเครื่องเท่ากันทั้งความสูง ความกว้าง ความบาง แต่มีน้ำหนักที่ไม่เท่ากัน 

โดย Xiaomi 13T Pro มีน้ำหนัก 200 กรัม สำหรับสี Alpine Blue และ 206 กรัม สำหรับสี Meadow Green และ Black 

ในขณะที่ Xiaomi 13T เบากว่าเล็กน้อยที่ 193 กรัม สำหรับสี Alpine Blue และ 197 กรัม สำหรับสี Meadow Green และ Black


Display : จอแสดงผล CrystalRes 144Hz 2600 nits

ทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอแบบเดียวกัน สเปคเดียวกัน ได้แก่ หน้าจอชนิด CrystalRes Amoled ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด 2K (2712 × 1220 พิกเซล)

อัตรา Refresh Rate 144 Hz Adaptive Sync
Touch Sampling Rate 480 Hz
รองรับ TrueColor display 68 พันล้านสี
JNCD≈0.28, Delta E≈0.38
ความสว่างสูงสุด 2600 nits
รองรับ HDR10+ , Dolby Vision , Adaptive HDR, Adaptive reading mode, SGS Low Visual Fatigue Certification
ความหนาแน่น 446 PPI
2880Hz high frequency PWM dimming
ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5

ตัวหน้าจอมีขอบบางเฉียบ 4 ด้าน ที่ทำให้หน้าจอดูสมจริงยิ่งขึ้น 

โดยส่วนบนของจอแสดงผลมีรูเจาะสำหรับกล้องเซลฟี่ ใช้กลางแจ้งมองเห็นชัด​เจน

นอกจากนี้ยังให้ความละเอียดสูงและมีสีสันสวยจัดจ้าน และจัดเป็นหน้าจอระดับโปรเกรดที่มีความสมบูรณ์ในการแสดงผลด้วยสเปคชั้นเลิศและฮาร์ดแวร์ที่อัดแน่นอย่างมากเลยครับ เอาตรงๆว่าแค่หน้าจอก็คุ้มแล้ว


🟠 เริ่มพาร์ทรีวิวของ Xiaomi 13T Pro

Xiaomi 13T Pro มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9200+ ซึ่งได้รับการปรับปรุงมาจาก Dimensity 9200 ที่มีกระบวนการผลิตระดับ 4nm รุ่นที่ 2 ของ TSMC ประกอบด้วย CPU แบบ Octa Core ในสถาปัตยกรรมแบบ 1 + 3 + 4 ประกอบด้วย CPU Arm Cortex-X3 ความเร็วสูงสุด 3.35GHz + Arm Cortex-A715 ความเร็วสูงสุด 3.0GHz + Arm Cortex-A510 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz พร้อมด้วย GPU – Arm Immortalis-G715

โดย MediaTek Dimensity 9200+ ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้ง CPU และ GPU ให้เร็วขึ้น 10% เมื่อเทียบกับ Dimensity 9200 

อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่ที่สุดของ Xiaomi ที่ 5000 ตารางมิลลิเมตร อีกด้วย

มาพร้อม RAM LPDDR5X ขนาด 12GB จับคู่กับ ROM UFS 4.0 ขนาด 512GB 

โดยมีฟีเจอร์ Memory Extension ที่สามารถขยาย RAM ได้สูงสุดอีก 8GB จึงเปรียบเสมือนมี RAM สูงสุด 20GB

สามารถทำคะแนนทดสอบบนแอปพลิเคชั่น Geekbench 6.0 ได้ดังนี้

Single Core 1292 คะแนน
Multi Core 3421 คะแนน


📸 ระบบกล้องที่ดีที่สุดในเทียร์

ครั้งนี้ Xiaomi 13T Series มาด้วยความพิเศษเหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับ ด้วยความร่วมมือระหว่าง Xiaomi × Leica Camera 

ที่เป็นความร่วมมือเชิงลึกที่เรียกว่า "Multi-stage Imaging Process" โดยทาง Leica เข้าไปมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการผลิตและปรับแต่ง ได้แก่

- Optical Design
- Lens & Camera
- Image Quality & Tuning
- Assessment & Approval

ซึ่งเป็นการดูแลตั้งแต่เริ่มออกแบบเลนส์ ไปจนถึงการติดตั้ง , ปรับแต่ง และ ตรวจสอบขั้นสุดท้าย เพื่อให้ได้มาตราฐานของไลก้าอย่างดีที่สุด

อีกทั้ง Xiaomi 13T Series ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้แพลตฟอร์ม "Authentic Leica Imagery" ซึ่งเป็นการนำประสบการณ์การในกล้องไลก้าแท้ๆ มาใส่ไว้บนสมาร์ทโฟน กับเลนส์ Leica Summicron , Filters , เสียงชัตเตอร์ และ โทนอารมณ์กับประสบการณ์ทั้งหมด (Emotive & Experience)

โดยทั้งสองรุ่นจะใช้ชุดกล้องสเปคเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย

กล้องหลัง 3 ตัว Leica Vario - Summicron ความละเอียด 50 + 12 + 50 ล้านพิกเซล , f/1.9 + f/2.2 + f/1.9

- Leica Main Camera เซนเซอร์หลัก Sony IMX707 ขนาด 1/1.28 นิ้ว , 7P Aspherical Leica lens, 85° FOV , รองรับ OIS + EIS , ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 24 มม

- Leica Ultra Wide 120 องศา เซนเซอร์ Omnivision OV13B10 , ความยาวโฟกัส 15 มม. รูรับแสง f/2.2 ชุดเลนส์ 5P

- Leica TelePhoto Optical Zoom 2x เซนเซอร์ Omnivision OV50D , ความยาวโฟกัส 50 มม. รูรับแสง f/1.9 ชุดเลนส์ 5P

โดยกล้องหลักใช้ชุดเลนส์ 7P Aspherical Lens ช่วยให้จับแสงได้มากขึ้น ตัวเลนส์ยังผ่านการเคลือบ ALD (Atomic Layer Deposition) หลายชั้น เพื่อเพิ่มอัตราการส่งผ่านแสงและลดการสะท้อนของแสง ช่วยเพิ่มความคมชัดสมจริง เมื่อถ่ายภาพย้อนแสง ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน

ในส่วนของ UI กล้องมาพร้อมสไตล์ใหม่ที่เรียกว่า Classic UI ในอารมณ์ของเมนูกล้องสมัยก่อน เพิ่มความพรีเมี่ยมในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

มีลายน้ำ Leica แบบพิเศษที่ปรับแต่งมาเพื่อ Xiaomi 13T Series โดยเฉพาะ

โหมด Photo สามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.6x ไปจนถึง 20x

และเมื่อเลือกสไตล์ในโหมด Photo จะพบกับสไตล์การถ่ายภาพ Leica Vibrant Look และ Leica Authentic Look ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกล้อง Leica ช่วยให้ภาพถ่ายในฉากที่ทั้งส่วนมืดและสว่างสวยงามสมจริงตามแบบฉบับของกล้อง Leica โดยสามารถเปิดใช้งานสไตล์ที่มุมบนขวามือ ถัดจาก HDR

- Leica Vibrant Look ให้ความสว่างและความอิ่มตัวของสีเพื่อสร้างเงาที่คมชัดและสีสันที่สดใสในขณะที่ยังคงรักษาความแม่นยำไว้

- Leica Authentic Look รักษาความคมชัดได้อย่างดีในระหว่างพื้นที่สว่างและที่มืด และมีความแม่นยำในการรักษา White Balance ในภาพ

มีระบบ Master-lens system ซึ่งประกอบไปด้วย Documentary 35mm, Swirly bokeh 50mm และ Soft focus 90mm โดยทั้ง 3 แบบ ได้รับการพัฒนามาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพ Portrait ให้สวยงามราวกับมืออาชีพ ด้วยเอฟเฟกต์ละลายฉากหลังโบเก้แตกต่างกันไปตามระยะโฟกัส

ในการถ่ายวิดีโอ สามารถถ่ายที่ความละเอียดสูงสุดได้ 8K ที่อัตรา 24 เฟรมต่อวินาที และยังรองรับการบันทึกวิดีโอ 10-bits LOG 4:2:0 H.265 ด้วย Rec.709 LUT ซึ่งปกติจะพบได้เฉพาะกล้องใหญ่ระดับโปรเท่านั้นด้วย

นอกจากนี้ Xiaomi 13T Pro ยังรองรับการถ่ายภาพแบบ Candid Snapshots ด้วยเทคโนโลยี Xiaomi Imaging Engine ช่วยให้กล้องบันทึกภาพช่วงเวลาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้คมชัดทุกรายละเอียด แบบ Zero Lag Shutter

และใน Pro Mode ยังมีฟีเจอร์ Leica Custom Tone ที่สามารถเลือกปรับโทนภาพในสไตล์ Leica แบบ Manual ได้ทันทีก่อนถ่ายแบบ Real - Time ซึ่งเป็นครั้งแรกในวงการสมาร์ทโฟนอีกด้วย

พูดมาเยอะขนาดนี้คงไม่ต้องบอกซ้ำแล้วว่ากล้องมันดีขนาดไหน แต่ต้องรีแคปจริงๆว่า Xiaomi 13T Pro เป็นกล้องชั้นเลิศที่ดีที่สุดในกลุ่มราคาเดียวกันแล้ว โดยการปรับจูนของ Leica นั้นลงตัวแบบขั้นเทพอย่างมาก ทั้งสีสันที่ได้ คุณภาพของไฟล์ และ ลูกเล่นการปรับแต่งต่างๆที่จัดมาให้แบบเต็มสูบ  ลองไปชมตัวอย่างภาพถ่ายกันเลยครับ

ตัวอย่างภาพถ่าย

เลนส์หลัก


Ultra Wide


TelePhoto


Macro


Leica Filters


กล้องหน้า

Xiaomi 13T Pro มีกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ชุดเลนส์ 5P Aspherical Lens มีฟีเจอร์ Beautify สามารถปรับบิวตี้ได้อย่างละเอียด รวมถึงมี Filters สำหรับเปลี่ยนโทนสีภาพถ่าย อีกทั้งยังรองรับโหมด Portrait สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้อีกด้วย (รองรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าสูงสุด 1080p เท่านั้น)

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า


🔋Battery

Xiaomi 13T Pro มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh ที่รองรับ 120W HyperCharge ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0 - 100% ภายในระยะเวลาเพียง 19 นาที หรือ ชาร์จถึง 36% ในเวลา 5 นาที แต่น่าเสียดายที่ไม่แถมอุปกรณ์ชาร์จ 120W Power Adapter มาให้ในกล่อง ต้องหาซื้อแยกต่างหาก (แต่มีโปรช่วงพรีออเดอร์แถมให้อยู่นะ) และยังมีชิป Surge G1 ของ Xiaomi ที่ช่วยจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และยังมีเทคโนโลยี ISP (Internal ShortagePrecaution), SOA (Safety Operating Area) และ DTPT (DynamicTurbo Power Technology) เพิ่มความปลอดภัยให้กับแบตเตอรี่ตลอดการใช้งานและการชาร์จอีกด้วย


🟠 พาร์ทรีวิวของ Xiaomi 13T

ในส่วนของ Xiaomi 13T ต้องบอกว่ามีความคล้ายคลึงกับ 13T Pro ในแง่ของสเปคหลายๆส่วน เช่น หน้าจอ , ดีไซน์ และ ระบบกล้อง ดังนั้น เราจะขอพูดถึงในส่วนที่แตกต่างกันนะครับ

โดย Xiaomi 13T มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8200-Ultra ที่มีสถาปัตยกรรมระดับ 4nm ประกอบด้วย CPU แบบ Octa Core ความเร็วสูงสุด 3.1GHz พร้อมด้วย GPU – Arm Mali-G610

มี RAM LPDDR5 ขนาด 12GB จับคู่กับ ROM UFS 3.1 ขนาด 256GB สามารถขยาย RAM ได้ด้วย Memory Extension สูงสุดอีก 8GB

ทำผลทดสอบ Geekbench 6.0 ได้ผลดังนี้

Single Core 1124 คะแนน
Multi Core 3863 คะแนน


📸 ระบบกล้อง

ต้องบอกว่า Xiaomi 13T ใช้ระบบกล้องทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ชุดเดียวกับ Xiaomi 13T Pro ทุกประการแบบฝาแฝดเลย ดังนั้นจึงสามารถย้อนไปอ่านรายละเอียดด้านบนได้ครับ ถ้าดึงลงมาให้กลัวว่าจะยาวยืดเกินไป

แต่สิ่งที่น่าแปลกคือ เมื่อลองถ่ายจริง Xiaomi 13T กลับให้อารมณ์และโทนในการถ่ายที่แตกต่างจาก 13T Pro อยู่ประมาณหนึ่ง โดยมีมีความหม่นและติด Under กว่า อาจเป็นเพราะใช้ CPU ประมวลหลักคนละรุ่นก็เป็นได้

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง Xiaomi 13T


ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า Xiaomi 13T


🔋Battery

Xiaomi 13T ให้ความจุแบตเตอรี่ 5000 mAh เท่ากับรุ่น 13T Pro แต่รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging แทนที่ 120W ครับ
 

💵 ราคาจำหน่าย 

Xiaomi 12GB + 256GB  15,990 บาท

Xiaomi 13T Pro 12GB + 512GB – 19,990 บาท

Xiaomi 13T Pro 16GB + 1TB – 23,990 บาท

ราคาติดสัญญาเครือข่าย

Xiaomi 13T Pro เริ่มต้น 13,190 บาท
Xiaomi 13T เริ่มต้น 9,690 บาท

พิเศษ สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ Xiaomi 13T Pro ล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน - 6 ตุลาคม นี้ รับฟรี Xiaomi Watch S1 และ 120W Adapter รวมมูลค่า 8,589 บาท (จำกัด 1,000 ชิ้น)

สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ Xiaomi 13T ล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน - 6 ตุลาคม นี้ รับฟรี Xiaomi Watch S1 และ 67W Adapter รวมมูลค่า 8,089 บาท (จำกัด 1,000 ชิ้น)

โดย Xiaomi 13T Series จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

สรุป

สั้นๆ "ซื้อเถอะครับ" ไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนในกลุ่มราคาเดียวกันที่จะให้คุณสมบัติได้เท่า Xiaomi 13T Series อีกแล้ว ทั้ง ระบบกล้อง Leica เต็มรูปแบบ , หน้าจอ Pro Grade , ชิปเซ็ตระดับเรือธง , การกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 , แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ พร้อม ระบบชาร์จความเร็วสูง ไม่รู้จะหาเหตุอะไรที่จะบอกว่าอย่าซื้อจริงๆครับ อยากให้ทุกท่านได้ลองสัมผัสกับประสบการณ์ระดับมืออาชีพ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมจริงๆ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments