FullReview | vivo Y200 5G สมาร์ตโฟนน้องใหม่ สุดทน ! ท้าชนทุกสเปก !!!


vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ได้เปิดตัว Y200 5G น้องเล็กจากตระกูล Y Series ที่รอบนี้มาแบบไม่ธรรมดา โดดเด่นไม่แพ้รุ่นพี่ ด้วยดีไซน์ทันสมัยและสเปคการใช้งานที่อัดแน่น พร้อมความทนทานที่พร้อมท้าชนทุกรุ่น

ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว 120Hz และระบบเสียงแบบลำโพงสเตอริโอคู่ ควบคู่กับ RAM 8GB / ROM 256GB เพื่อการใช้งานที่ลื่นไหลไม่สะดุด อีกทั้งยังไร้กังวลเรื่องการใช้งานตลอดวันด้วยแบตเตอรี่จุใจ 5000mAh และระบบชาร์จไว 80W ตบท้ายด้วยดีไซน์ระดับพรีเมียมที่สุดทนมากกว่าที่เคย !!!


สเปค vivo Y200 5G

หน้าจอชนิด E4 AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , อัตรารีเฟรช 120Hz , ความสว่างสูงสุด 1800nits , ค่าสี 100% DCI-P3 , ความหนาแน่น 394 PPI และอัตราส่วนพื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.90%
CPU : Snapdragon 4 Gen 2
GPU : Adreno 613
RAM : 8GB/12GB ชนิด LPDDR4x
ROM : 256GB/512GB ชนิด UFS 2.2
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
รองรับ Micro SD Card สูงสุด 2TB
กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 50 + 8 ล้านพิกเซล , f/1.8 + f/2.2 , รองรับเลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 120 องศา พร้อมไฟวงแหวน Aura Light Portrait
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล , f/1.8
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
รองรับลำโพงคู่แบบ Stereo
รองรับการเชื่อมต่อ WiFi AC Dual Band , Bluetooth 5.0 , NFC
รองรับการทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP64
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 5000mAh + ระบบชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
ระบบปฎิบัติการ : Android 14 + FunTouch OS 14 (โดย FunTouch OS 15 บน Android 15 จะพร้อมให้อัปเดตภายในเดือนกุมภาพันธ์ 68)
มิติตัวเครื่อง : 163.23 × 75.93 × 7.79 มม. (สีดำ), 163.23 x 75.93 x 7.95 มม. (สีเงิน , สีม่วง)
น้ำหนัก : 188 กรัม 

Unboxing


กล่องของ​ vivo​ Y200 5G​ รอบนี้มาในโทนสีขาวสะอาดตาทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมด้วย​ 
รูปตัวเครื่องขนาดใหญ่​พิมพ์อยู่ด้านหน้ากล่อง

ภายในกล่องประกอบด้วย

- ตัวเครื่อง​ vivo​ Y200 5G​
- Adapter vivo FlashCharge 80W
- สาย USB Type - C
- เคสใส
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน


ดีไซน์ที่ให้ความสวย พรีเมี่ยม บนตัวเครื่องที่แข็งแรง ทนทาน


การออกแบบของ vivo​ Y200 5G​ จะมาคนละโทนกับ Y Series ที่ผ่านมา โดยให้ความรู้สึกถึงการเติบโตมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ vivo นั่นคือ คุณภาพงานประกอบระดับพรีเมี่ยม พร้อมความสวยงามและโฉบเฉี่ยวทันสมัย พร้อมกับการเพิ่มเติมในด้านความแข็งแรงทนทาน


โดยเครื่องที่นำมารีวิวนี้ประกอบด้วยกัน 2 สี ได้แก่ 


สี Titanium Silver สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธ์ เรียบง่าย และหรูหรา มาพร้อมกับการออกแบบที่ทันสมัย สะท้อนถึงเทคโนโลยีในอนาคต เพิ่มความหรูหราและทันสมัยด้วย Diamond Starry Texture แบบพิเศษ ช่วยเพิ่มประกายระยิบระยับบนตัวเครื่องหลังสะท้อนกับแสงไฟ และเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์จะเปลี่ยนสีได้ (ภาพสุดท้ายด้านบน)


สี Dreamy Violet สีม่วงที่มีความสว่างและนุ่มนวล ให้ความรู้สึกเสมือนกับอยู่ในโลกแหงความฝัน  มาพร้อมกับบรรยากาศสุดโรเเมนติกและมีสเน่ห์ เติมเต็มการออกแบบด้วยบุคลิกที่มีเอกลักษณ์และชีวิตชีวา 


พร้อมเสริมลูกเล่นด้วย 3D Petal Texture ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความงามของดอกไม้ เพิ่มการสะท้อนแสงเงาบนพื้นผิวของตัวเครื่อง


บอกเลยว่าสวยทั้ง 2 สีครับ อีกทั้ง vivo Y200 5G ยังมีตัวเลือกอีกสีที่ไม่ได้นำมาให้ดูกัน คือสีดำ Dynamic Black ที่ผสมผสานความสงบของเฉดสีดำ ที่วะท้อนความเงางามของโลหะ 

โฉบเฉี่ยว เพรียวบาง เหมาะแก่การจับถือ


vivo Y200 5G มีขนาด 163.23 x 75.93 x 7.95 มม. และ น้ำหนัก 188 กรัม ใช้ดีไซน์เฟรมเครื่องแบบแบน Metalic High-Gloss สร้างความสะดวกในการถือจับใช้งาน และมีน้ำหนักที่เบา ให้ความหรูหราสวยงาม


ช่องและพอร์ตต่างๆก็มีมาให้ทั้ง USB Type - C , ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Duo Slot ที่ใส่ 2 ซิม พร้อมกัน

Camera: Innovative Diamond Design


การออกแบบโมดูลกล้อง ได้รับแรงบันดาลใจจากเพชรทรงสี่เหลี่ยม เชื่อมโยงความงามแบบดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัย เพิ่มความหรูหราแต่ยังคงความคลาสสิก


โดยด้านหลังจะมีกล้องวางบนกรอบโมดูลทั้ง 2 เลนส์ พร้อมวงแหวนที่ 3 เป็นไฟ Aura Light Portrait วางเรียงกันบนโมดูลสีเดียวกันกับตัวเครื่อง มองแล้วดึงดูดตาดึงดูดใจสุดๆ


ด้านหน้ามาพร้อมกับจอแสดงผลชนิด E4 AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว​ , ความละเอียด​ Full HD+​ , รองรับอัตรา Refresh Rate 120Hz , DCI - P3 Color Gamut แสดงผล 1.07 พันล้านสี , ความสว่างสูงสุด 1800nits


ส่วนรูเจาะด้านบนมีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายรายละเอียดบนใบหน้าได้อย่างคมชัดครบถ้วน


อัปเกรดระดับความทนทานเพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ด้วยมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP64 และยังผ่านการทดสอบมาตรฐานความทนทานหลากหลายรูปแบบ


Micro Drop Test 
ทดสอบการถอดและเสียบ USB
Extreme Environment Testing
ทดสอบการกดปุ่มเพิ่มและลดเสียง
ทดสอบการกดปุ่มเปิดและปิดเครื่อง

ทำให้โดยภาพรวม​แล้ว vivo​ Y200 5G มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในแง่ของดีไซน์และความทนทานที่โดดเด่นขัดเจนมากยิ่งขึ้น


Performance


vivo Y200 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต​ Snapdragon 4 Gen 2 แบบ Octa Core ที่ใช้กระบวนการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร มาพร้อมกับ Performance Cores 2 คอร์ (Cortex-A78) ความเร็ว 2.0 GHz และ Efficiency Cores 6 คอร์ (Cortex-A55) ทำงานที่ความเร็ว 2.0 GHz ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่ารุ่นก่อน (Snapdragon 4 Gen 1) ถึง 10 เปอร์เซ็นต์


อีกทั้งมากับ RAM 8GB​ พร้อมด้วยฟีเจอร์ Extended RAM ที่จะซัพพอร์ตหน่วยความจำ RAM ตัวหลัก มอบประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น โดยจะดึงพื้นที่ ROM ที่ให้มามากถึง 256GB มาจำนวน 8GB เพื่อใช้เป็นพื้นที่ RAM ให้มากขึ้น ทำให้คุณสามารถสลับการใช้งานระหว่างแอปได้รวดเร็วและไม่สะดุดมากกว่าที่เคย

ทำให้ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Geekbench 6.0 ทำคะแนนได้ดังต่อไปนี้


โหมด Multi Core ได้  2163 คะแนน


โหมด Single Core ได้​  914 คะแนน



ระบบเสียงแบบ Stereo และ Audio Booster


อีกหนึ่งจุดเด่นของ vivo Y200 5G คือ ลำโพงคู่ Stereo ที่ให้เสียงดีมีมิติมากยิ่งขึ้น 


และนอกจากจะได้ลำโพงคู่แล้ว ยังมาพร้อมโหมดเร่งระดับเสียง (Audio Booster) ที่จะปรับเพิ่มจากระดับสูงสุดปกติ เพิ่มได้เป็น 200% จนถึง 300% โดยที่เสียงไม่แตกเลยทีเดียว

Gaming


สำหรับประสบการณ์ในการเล่นเกมด้วย​ vivo​ Y200 5G​ นั้นทำได้ดี จากการทดสอบด้วย PUBG Mobile นั้นพบว่าสามารถปรับกราฟฟิคเกมได้ในระดับ​ HD​ และ​ เฟรมเรทในระดับ High และสามารถเล่นได้ต่อเนื่องโดยที่ไม่มีอาการกระตุก พร้อมด้วยการสนับสนุนจากระบบ Ultra - Game Mode เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้เหมาะสำหรับการเล่นเกมอย่างแท้จริง​ โดยรองรับการควบคุมแบบ Motion Control ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะอีกด้วย

 
ซึ่ง Ultra Game Mode สามารถสลับระหว่างโหมด "ประหยัดแบตเตอรี่" "สมดุล" และ "ประสิทธิภาพ" ทันทีด้วยแถบด้านข้างที่ปรับให้เหมาะสม , แดชบอร์ดแบบไดนามิกแสดงพารามิเตอร์ประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึง CPU, GPU, เวลาเล่นเกม และพลังงานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ ด้วยการแสดงข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้อย่างชัดเจน


Camera ระบบกล้องประกอบด้วย


• เลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซล , f/1.8
• เลนส์ Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล , f/2.2
• ไฟวงแหวน Aura Light Portrait 


โดยเลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล จะใช้การรวมพิกเซลแบบ 4-in-1 Binning ยามเมื่อถ่ายในโหมด Auto ซึ่งทำให้ภาพถ่ายที่ได้มีความสดใสและสว่างมากยิ่งขึ้น เก็บรายละเอียดของวัตถุต่างๆได้ชัดเจน ระบบ HDR ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม และยังมีไฟวงแหวน Aura Light Portrait ช่วยตรวจจับแก้ไขปัญหาแสงสว่างไม่เพียงพออีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย



ส่วนโหมด Portrait ละลายหลังได้เป็นธรรมชาติ​ มีการตัดขอบได้ค่อนข้างเนียนตามาก สามารถปรับระดับเบลอหลังแบบ​ Manual ได้​ และยังสามารถใส่​ Filter ได้หลากหลายรูปแบบด้วย Bokeh Flare Portrait ที่สามารถปรับดวงไฟโบเก้ให้เป็นรูปแบบอื่นๆอีก 4 แบบนอกเหนือจากรูปแบบปกติ

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait


และกล้อง Ultra​ Wide​ มุมกว้าง 120 องศา​ มีประสิทธิภาพดี​ มีมุมมองที่กว้างพอเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน ไม่มีอาการ​ Distort ของภาพให้เห็น

ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Wide



Super Night Mode ถ่ายภาพกลางคืนได้ชัดพร้อมปรับฟิวเตอร์ได้หลากหลาย

โหมถ่ายภาพกลางคืนของ vivo Y200 5G สามารถใช้ได้ทุกเลนส์ ทั้งเลนส์หลักและ Ultra Wide ทั้งยังมีลูกเล่นอีกหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกใช้กันด้วยครับ

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Mode



กล้องหน้า


กล้องหน้าคมชัด 32 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายในโหมด Portrait มีการปรับแต่ง Beauty Mode ได้หลายระดับ​ เอฟเฟคหลายรูปแบบ ทั้งการปรับผิว , รูปหน้า การละลายฉากหลังรูปแบบต่างๆ​

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า



Aura Light Portrait


สมาร์ตโฟนรุ่นแรกในเรนจ์ราคาเดียวกันที่มี Aura Light และระบบปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะ พร้อมระบบ AI เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับภาพพอร์ตเทรต


ตัวอย่างภาพถ่าย Aura Light Portrait



AI Erase


ช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการบนภาพถ่ายได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ


Battery


มาพร้อมความจุ 5000mAh ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหญ่มากเมื่อเทียบกับขนาดความบางและน้ำหนักของตัวเครื่อง​ เพียงพอต่อการใช้งานแบบข้ามวันสบายๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบชาร์จ​ vivo​ Flash​Charge​ ที่ให้ความเร็ว​ในการชาร์จ​สูงถึง 80W (ชาร์จถึง 80% ใน 30 นาที และชาร์จเต็ม 100% ใน 43 นาที) และแบตเตอรี่ในรุ่นนี้ยังการันตีการมีสุขภาพแบตที่ไม่น้อยกว่า 80% แม้ใช้งานไปแล้วถึง 4 ปี หรือชาร์จ 1,600 ครั้ง จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานในทุกวันครับ

ราคาและการวางจำหน่าย



vivo Y200 5G มีตัวเลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ (Dynamic Black) , สีม่วง (Dreamy Violet) และ สีเงิน (Titanium Silver)

Y200 5G เปิดตัวพร้อมท้าทายทุกชาเลนจ์และให้ผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ใน รุ่นความจุ ได้แก่ 8GB+256GB ในราคา 9,999 บาท และ 12GB+512GB ในราคา 12,999 บาท

  • พิเศษสำหรับ vivo fans ที่สั่งซื้อ Y200 5G ทุกรุ่นความจุ ภายในวันที่ 25 ตุลาคม - 30 พฤจิกายน 2567 จะได้สิทธิ์ E-VIP รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ฟรี ครั้ง (มูลค่า 999 บาท) หากสุขภาพลดลงต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา ปีแรก
  • พิเศษยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 25 ตุลาคม - พฤจิกายน 2567 ณ vivo Brandshop ทั่วประเทศและตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา สามารถรับส่วนลด 1,000 บาทเพื่อแลกซื้อ Watch 3 ในราคาพิเศษ พร้อมรับฟรี หูฟัง TWS 3e (มูลค่า 1,799 บาท)

สรุป


vivo Y200 5G ถือเป็นพัฒนาการครั้งใหม่สำหรับสมาร์ตโฟนในตระกูล Y Series นอกจากสเปคที่มาแบบจัดเต็มแล้ว ซึ่งที่สำคัญคือ ความแข็งแรงทนทานของตัวเครื่องก็ต้องดีตามด้วย เพื่อให้สมกับสโลแกน "สุดทน ! ท้าชนทุกสเปก"



Article By : โลกไอทีวันนี้ 



Comments