FullReview | realme C75 สมาร์ทโฟนสุดแกร่ง “กันน้ำ กันกระแทก ไร้กังวล” ในระดับ IP69 พร้อมแบตเตอรี่ 6000mAh + ชาร์จเร็ว 45W ในราคาสุดคุ้ม !!!

realme ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล C ซีรี่ส์ ที่ทุกคนน่าจะชื่นชอบและให้การตอบรับอย่างดี กับ "realme C75" ที่พร้อมด้วยสเปคคุณภาพในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง ภายใต้สโลแกน “กันน้ำ กันกระแทก ไร้กังวล”  ด้วบความสามารถ ป้องกันน้ำที่ผ่านการรับรองระดับ IP69 และยังทนทานต่อแรงกระแทกรอบด้าน ด้วยโครงสร้าง ArmorShell ป้องกันการตกหล่นได้อย่างดีเยี่ยม

🟡 สเปค realme C75

หน้าจอชนิด IPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , อัตรารีเฟรช 90Hz  , ความสว่างสูงสุด 690 nits
CPU : MediaTek Helio G92 Max
RAM : 8GB ชนิด LPDDR4x
รองรับ Dynamic RAM สูงสุด 8GB
ROM : 128GB/256GB ชนิด eMMC 5.1
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 4G VoLTE
รองรับ Micro SD Card สูงสุด 2TB
กล้องหลังคู่ ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล , รองรับเลนส์ AI Camera
กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล , f/2.2 , รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080P@30fps
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วที่ปุ่ม Power
ลำโพง 400% UltraBoom Speaker
รองรับการกันละอองน้ำละอองฝุ่นมาตราฐาน IP66 + IP68 + IP69
พอร์ต USB Type - C
แบตเตอรี่ : 6000mAh + 45W SuperVOOC Charging
ระบบปฎิบัติการ : Android 14 + realme UI 5.0
ขนาด : 165.69 x 76.22 x 7.99 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 196 กรัม
มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Lightning Gold และ Storm Black

📦 Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย

- ตัวเครื่อง realme C75
- สาย USB Type - C
- อะแดปเตอร์ชาร์จ 45W SuperVOOC
- เคสกันกระแทกแบบ TPU
- คู่มือ

📲 Design

เริ่มต้นด้วยการออกแบบและโครงสร้าง realme C75 ที่ถือเป็นก้าวสำคัญในวิวัฒนาการของแบรนด์  ในฐานะเจเนอเรชั่นใหม่ของ “C series” ที่เน้นความคุ้มค่าของราคาและประสิทธิภาพ ทำให้ realme C75 มีความสวยงามและแข็งแรงทนทานกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆในกลุ่ม

โดย realme C75 มีตัวเลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Storm Black และ สีทอง Lightning Gold ซึ่งมีพื้นผิวฝาหลังแบบ cross-arc ที่สร้างขึ้นจากกระบวนการถ่ายโอนระดับไมครอน แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของแสงและเงาแบบไดนามิก ขณะที่กล้องหลังก็ติดตั้งอยู่บนแผ่นอะลูมิเนียมอัลลอย ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น

มีโลโก้ realme ที่ส่วนล่างซ้าย

และกล้องหลังคู่วางอยู่ด้านบน  โดยโมดูลใช้การตกแต่งกล้องแบบอลูมิเนียม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในช่วงราคานี้ ทำให้มีความแข็งแรงกว่า

ตัวเครื่องใช้โครงสร้างพลาสติกที่แข็งแรง ได้รับมาตรฐาน IP69 สำหรับการป้องกันฝุ่นและน้ำ

มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh แต่ด้วยขนาดตัวเครื่องเพียง 165.69 x 76.22 x 7.99 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 196 กรัม ทำให้ realme C75 เป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในกลุ่มที่มีแบตเตอรี่ขนาด 6000mAh ณ เวลานี้

เฟรมเครื่องแบนทุกด้านโดยมีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิดปิดซึ่งทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออยู่ทางด้านขวา

ทางด้านซ้ายเป็นช่องเสียบถาดซิมการ์ดแบบ Triple Slot พร้อมรองรับนาโนซิม 2 ซิม และช่องเฉพาะสำหรับ Micro SD Card ใส่ได้สูงสุด 2TB

ด้านล่างจะมี ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ต USB-C และ ช่องลำโพง Speaker

ทนน้ำและฝุ่นขั้นสุดยอดด้วยมาตรฐาน IP69/68/66 พร้อมฟังก์ชันไล่น้ำออกจากเครื่อง เพียงหนึ่งเดียวในช่วงราคานี้

realme C75 ได้รับการออกแบบมาให้มีความทนทานเป็นพิเศษ เหมือนกับสโลแกน “กันน้ำ กันกระแทก ไร้กังวล” ด้วยระดับการป้องกันเต็มรูปแบบ IP69/68/66 ซึ่งสูงกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงในบางรุ่นด้วยซ้ำ

มาตรฐาน IP69, IP68 และ IP66 มีความหมายอย่างไร

เริ่มตั้งแต่ตัวเลขหลักหน้า หมายถึงความสามารถในการป้องกันฝุ่น ซึ่งเลข 6 เป็นระดับสูงสุด และตัวเลขหลักที่สอง หมายถึงความสามารถในการป้องกันน้ำ โดย

ความทนทานต่อแรงดันน้ำระดับ IP66 คือ ทนต่อแรงฉีดน้ำจากทุกทิศทาง (100±5 ลิตรต่อนาที แรงดัน 100kPa ด้วยระยะหัวฉีด 2.5 – 3 เมตร รวมเวลา 3 นาที) ป้องกันน้ำกระเด็นใส่จากการใช้งานในชีวิตประจำวันได้

ความทนทานในการแช่น้ำระดับ IP68 คือ ทนน้ำได้อย่างสมบูรณ์ สามารถแช่น้ำได้นาน 30 นาที ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร

การกันน้ำที่ระดับ IP69 คือ สามารถทนการฉีดน้ำที่มีอุณหภูมิสูง 80±5 องศาเซลเซียส และทนต่อการฉีดน้ำความแรงสูง 15 ลิตรต่อนาที จาก 4 มุม 0, 30, 60, 90 องศา เป็นเวลา 30 วินาที ของแต่ละมุม (รวมเป็น 2 นาที)

นอกจากนี้ realme C75 ยังมีฟังก์ชันขับไล่น้ำด้วย SonicWave โดยอาศัยแรงสั่นสะเทือนจากลำโพง ช่วยขจัดน้ำออกจากตัวเครื่องได้ไวขึ้น 50%  และถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในอุตสาหกรรม ที่มีเทคโนโลยีขับน้ำ Sonic แบบ Active ในตัวเครื่อง

ความแข็งแกร่งระดับเรือธง ทนต่อแรงกระแทกรอบด้าน 360 องศา

นอกจากป้องกันฝุ่นและน้ำได้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว realme C75 ยังมีโครงสร้างภายนอกและภายในที่แข็งแกร่งอย่างมาก โดยด้านหน้าได้รับการป้องกันด้วย ArmorShell Glass กระจกที่เสริมแรงให้ดีขึ้นพร้อมวัสดุที่ได้รับการอัปเกรด ทนทานต่อแรงกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 2.6 เท่า และ 4 เท่า ตามลำดับ

ในส่วนของโครงสร้างตัวเครื่อง realme C75 ได้รับการปกป้องด้วย ArmorShell Protection ซึ่งมีการอัปเกรดวัสดุให้มีคุณภาพสูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม Lithium Aluminum Borate ถึง 35% รวมถึงธาตุอื่นๆ เช่น Al2O3, Li2O และ B2O3 ทำให้โครงสร้างภายในแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

realme C75 ยังถูกยกขอบให้นูนขึ้น 0.23 มิลลิเมตร เพื่อการปกป้องรอบด้าน จากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง เสริมด้วยถุงลมกันกระแทกชิ้นส่วนกล้อง มอเตอร์สั่น รวมถึงส่วนประกอบภายในอื่นๆ ที่มีความสำคัญ และป้องกันแผงวงจรหลักด้วยฝาครอบอะลูมิเนียมหล่อที่มีความแข็งแรงสูง ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดี ทำให้โครงสร้างมีความทนทานต่อการดัดงอ จนสามารถป้องกันการตกหล่นจากที่สูงถึง 2 เมตรได้

ใบรับรองสมาร์ทโฟนที่ทนทาน" ฉบับแรกของโลก

ด้วยการรองรับกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP66/68/66 , กระจก ArmorShell ที่ทนทาน และ การป้องกัน ArmorShell ที่ดูดซับแรงกระแทก ทำให้ realme C75 ผ่านมาตรฐานการทดสอบอันเข้มงวดของ TÜV Rheinland ได้อย่างง่ายดาย และได้รับ "ใบรับรองสมาร์ทโฟนที่ทนทาน" ฉบับแรกของโลก นอกจากนี้ยังได้มาตรฐานการกันกระแทก MIL-STD 810H อีกด้วย

ซึ่งหมายความว่าคุณภาพอันยอดเยี่ยมของ C75 ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากสถาบันที่เชื่อถือได้ ทำให้สามารถจัดการกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ในชีวิตประจำวันและแม้แต่สภาพแวดล้อมที่รุนแรงได้อย่างง่ายดาย

🔋Battery

realme C75 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh สามารถตอบสนองความต้องการการใช้งานตลอดทั้งวันได้อย่างง่ายดาย และยังรองรับความเร็วในการชาร์จที่เร็วที่สุดกับ 45W SuperVOOC รับประกันการใช้งานที่ราบรื่นเป็นเวลา 4 ปี บนตัวเครื่องที่เพรียวบาง 7.99 มิลลิเมตร

realme C75 นำเสนอการชาร์จที่รวดเร็วที่ทนทานที่สุดในระดับเดียวกัน แม้ผ่านการชาร์จไปแล้ว 1,460 รอบ ก็ยังสามารถรักษาระดับความจุแบตเตอรี่ได้เกิน 80% โดยคิดจากการชาร์จหนึ่งครั้งต่อวัน รับประกันการใช้งานที่ยาวนานถึงสี่ปี เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งเสนอได้เพียง 1200 รอบ ทำให้แบตเตอรี่ทนทานยิ่งขึ้น

🖥️ Display

realme C75 มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาดใหญ่ถึง 6.75 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ 

พร้อมอัตรารีเฟรช 90Hz โดยจอแสดงผลยังสามารถให้ความสว่างสูงสุดถึง 690nits

ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้การรับชมคอนเท้นต์ความบันเทิงค่อนข้างเต็มตาและให้อรรถรสที่ดีอย่างมาก อีกทั้งยังรองรับ DC Dimming ทำให้รับชมได้สบายตายิ่งขึ้นด้วย

พร้อมฟีเจอร์แสดงการแจ้งเตือนที่ออกแบบมาสำหรับ realme โดยเฉพาะ เรียกว่า Mini Capsule 3.0 ใหม่ โดยจะเห็นการแจ้งเตือนและตัวบ่งชี้สถานะ เช่น การชาร์จ , การนับก้าว ปรากฏบนหน้าจอพร้อมภาพเคลื่อนไหวที่สวยงาม

💻 Hardware & Performance

realme C75 มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Helio G92 Max Octa Core มี RAM ขนาด 8GB

พร้อมด้วยฟีเจอร์ RAM Expansion เสมือนเพิ่มเติมขนาดสูงสุด 16GB ทำให้สามารถแปลง ROM ขนาด 8GB ให้เป็นหน่วยความจำเสมือนได้ และมีพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 128GB/256GB

การรับรอง Fluency การันตีใช้งานลื่นไหลเป็นเวลา 48 เดือนโดยห้องปฏิบัติการ realme ด้วยมาตรฐานเดียวกันกับ TÜV SÜD และเป็นการทดสอบที่เข้มงวดซึ่งวัดประสิทธิภาพของอุปกรณ์เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยการทดสอบเกี่ยวข้องกับการรันงานที่หลากหลาย เช่น การเปิดแอป การสลับระหว่างแอป และการเล่นเกม และอุปกรณ์ยังอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น อุณหภูมิและความชื้นที่สูงเกินไป

โดยสามารถทำคะแนนทดสอบ Geekbench 6.0 ได้ดังนี้

Single Core : 429 คะแนน
Multi Core : 1386 คะแนน

📀 Software

realme C75 ทำงานภายใต้ระบบปฎิบัติการ Android 14  ครอบทับด้วย realme 5.0 เวอร์ชั่นล่าสุด ที่มาพร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ครอบคลุม รวมถึงการปรับแต่งเพิ่มเติมด้วย AI

ฟีเจอร์ AI Boost กับประสบการณ์ AI ระดับเรือธง

• โหมด AI Boost ประกอบด้วยสองส่วน ได้แก่ Smooth Boost และ Game Boost ซึ่งสามารถปรับปรุงความราบรื่นของระบบและปรับปรุงประสิทธิภาพของเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Air Gestures หนึ่งเดียวในเซกเมนต์

ฟีเจอร์ตรวจจับการกระทำด้วยท่าทางโดยอาศัยกล้องหน้า และกลไกอัลกอริธึม AI แยกจุดคุณลักษณะสำคัญจากท่าทาง เช่น อนุญาตให้ผู้ใช้รับและปิดเสียงสายเรียกเข้าผ่านการใช้ท่าทางเมื่อไม่สะดวกที่จะสัมผัสโทรศัพท์มือถือด้วยมือทั้งสองข้าง , ปัดเพื่อสลับการสตรีมวิดีโอบนแอปวิดีโอสั้น tiktok, youtube, Instagram, facebook โดย

• รับสาย : เมื่อมีสายเข้า ให้ท้ำท่าทางขึ้นไปด้านหน้ากล้องด้านหน้า 20-40 ซม. เพื่อรับสาย

• ปิดเสียงสายเรียกเข้า : ยกฝ่ามือตรงกับกล้องหน้าและค้างไว้ 1.5 วินาที เพื่อปิดเสียงการโทร

• ท่าทางวิดีโอสั้น : เมื่อเล่นวิดีโอสตรีมบน tiktok, youtube, Instagram, Facebook ให้ปัดขึ้นและลงเพื่อสลับระหว่างวิดีโอ

AI Smart Loop

สามารถแนะนำแอปพลิเคชันที่คาดว่าผู้ใช้งานต้องการได้อย่างแม่นยำ ขณะเปิดดูคอนเท้นต์บนหน้าจอและต้องการแชร์ออกไปด้วยวิธีการแตะค้างไว้บนหน้าจอ realme C75 ก็จะแนะนำแอปที่คาดว่าผู้ใช้งานต้องการทางขวามือในรูปแบบวงล้อ

หลักการทำงานของ AI Smart Loop ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Smart Recognition ช่วยระบุคอนเท้นต์หรือรูปภาพที่ต้องการ พร้อมคาดเดาการใช้งานในขั้นตอนถัดไป, Simplified Operations อินเทอร์เฟซวงล้อใหม่ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดขั้นตอนการทำงานให้น้อยลง และ Increased Efficiency ด้วยการคาดการณ์ของ AI ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความยุ่งยากในการสลับระหว่างแอปต่างๆ ทำให้การใช้งานรวดเร็วยิ่งขึ้น

🎮 Gaming

ต้องบอกว่าไม่ได้คาดหวังในระดับสูง แต่ก็ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ โดยทดสอบด้วยเกม PUBG Mobile สามารถปรับความละเอียดได้ที่ระดับ HD และ เฟรมเรทที่ระดับ High แล้วเล่นได้ไม่มีสะดุด ตัวเครื่องไม่ร้อน

🔊 ระบบเสียง ลำโพง Ultra-linear + UltraBoom 400%

ด้วยการอัปเกรดจากลำโพงปกติเป็นลำโพงอัลตร้าลิเนียร์ให้คุณภาพฮาร์ดแวร์ที่ดีขึ้น คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น เพิ่มความถี่และความดังเป็นสองเท่า โดยเพิ่มขึ้น 30% ในความถี่ต่ำ , ความดังเพิ่มขึ้น 50% ด้วยอัลกอริธึมเสียงที่พัฒนาขึ้นเอง เพิ่มระดับเสียงเป็นสองเท่ากับฟีเจอร์ UltraBoom 400%

📸 Camera

realme C75 มาพร้อมกับระบบกล้องคู่ความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล + เลนส์ AI Camera รองรับคุณสมบัติทั่วไป เช่น การบันทึกวิดีโอ 1080P, โหมดกลางคืน, โหมดบุคคล , HDR, การจดจำฉากด้วยระบบ AI ซึ่งให้ผลลัพท์ที่น่าพอใจ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง

กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล 

ให้ผลลัพท์ที่ค่อนข้างดี มีฟีเจอร์ Beauty สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดกว่ากล้องหลังไม่ว่าจะเป็นผิว, แก้ม, ขนาดดวงตา, ขนาดจมูก พร้อม Portrait Mode

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า

🟡 สรุป

โดยภาพรวมของ realme C75 คือสมาร์ทโฟน C Series ที่ให้ทุกอย่างมาคุ้มค่าเกินราคาไปมาก ทั้งวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน หน้าจอใหญ่ สเปครอบด้านครบครัน กันน้ำกันฝุ่น IP69 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6000mAh และ ชาร์จไว 45W SuperVOOC เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นอย่างดีครับ

💸 ราคาและการวางจำหน่าย

realme C75 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 6 ธันวาคม 2567

ในรุ่นความจุ 8GB+128GB ราคา 5,999 บาท
และรุ่นความจุ 8GB +256GB ราคา 6,999 บาท

ตามช่องทางที่กำหนด

Article By : โลกไอทีวันนี้