#FullReview : Xiaomi - Mi Band 4 การกลับมาของสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ที่อัพเกรดใหญ่สดใสกว่าเดิม เพิ่มเติมคือยังคงคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ และมันคือ "ความดีงามอย่างแท้จริง" !!!! ด้วยหน้าจอ Amoled 16 ล้านสี ใหญ่ขึ้น 39.9% , เปลี่ยน Theme Wallpapers ได้ 77 รูปแบบ , กันน้ำ 5 ATM , รองรับกิจกรรม 6 รูปแบบ , บันทึกว่ายน้ำหลากสไตล์ , ควบคุมเครื่องเล่นเพลง และ มีเซ็นเซอร์ตรวจการเคลื่อนไหว 6 แกน ในราคาเบาหวิว !!!!!



ณ วันนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่า Xiaomi - Mi Band 4 ยังคงไม่มีการนำเข้ามาจำหน่ายผ่านทาง Xiaomi ประเทศไทย เครื่องที่นำมารีวิวนี้ เป็นเครื่องที่จัดจำหน่ายโดย Mi Authorized Store by Mi Fun (พูดง่ายๆคือตัวแทนจำหน่ายรายหนึ่งของ Mi หิ้วมาขายเอง) มี 2 สาขาคือ เซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 9 และ Terminal 21 พัทยา ซึ่งจะจำหน่ายในราคา 1,290 บาท แน่นอนว่าต้องบวกเยอะเป็นธรรมดา (ราคาออนไลน์ผ่าน Alibaba , Shopee สามารถซื้อได้ที่ 8,XX - 1,1XX บาท)

แต่เพื่อจะนำมารีวิวในทุกท่านได้รับชมกันโดยเร็ว ทาง โลกไอทีวันนี้ ก็ต้องยอมจ่ายแพงกว่าเล็กน้อยครับ เอาเป็นว่าลองไปฟังเบื้องต้นกันก่อน ว่าเจ้า Mi Band 4 นั้นคืออะไร

#หมายเหตุ รุ่นที่นำมารีวิวคือรุ่น Standard ที่ไม่รองรับ NFC และระบบ XiaoAI Voice Assistant


#ข้อมูลเบื้องต้น


Mi Band 4 เป็นรุ่นอัพเกรดของ Mi Band 3 ซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสสี AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว (ใหญ่ขึ้น 39.9%) ที่ให้ความละเอียด 240 x 120 พิกเซล 16 ล้านเฉดสี และหน้าจอของ Mi Band 4 ยังได้รับการปกป้องด้วยกระจกโค้ง 2.5D รองรับการเปลี่ยน Theme Wallpapers มากกว่า 77 รูปแบบ  จากลายลิขสิทธิ์ดัง



หน้าจอของ Mi Band 4 มีความสามารถในการแสดงการแจ้งเตือนหลายประเภทเช่น SMS, ข้อความ WhatsApp, รายละเอียดการออกกำลังกายและอื่นๆอีกมากมาย

ยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และคุณสมบัติการติดตามหลายอย่าง แต่คราวนี้มีการปรับปรุงที่ดีขึ้น  Mi Band 4 มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านการออกกำลังกายมากมาย เช่น การนับจำนวนก้าว , การเฝ้าสังเกตการนอนหลับ และอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถตรวจจับกิจกรรมต่างๆ เช่น การวิ่งจ๊อกกิ้ง , ปั่นจักรยาน และอื่นๆ 
Mi Band 4 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์หกแกน ที่อัพเกรดซึ่งตรวจจับกิจกรรมการว่ายน้ำที่แตกต่างกัน เช่น Freestyle, Backstroke, Butterfly stroke และ Medley แน่นอนว่ามันมีคุณสมบัติ 5ATM สำหรับการกันน้ำ

Mi Band 4 สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth 5.0 ได้  โดย Xiaomi อ้างว่า Mi Band 4 สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานถึง 20 วันในการชาร์จหนึ่งครั้ง กับแบตเตอรี่ความจุ 135 mAh โดยรุ่นก่อนมีแบตเตอรี่ 100 mAh 

#แกะกล่อง
หน้าตากล่องก็จะเป็นทรงเดียวกับ Mi Band 3 ครับ ภายในประกอบไปด้วย

- ตัวเครื่อง Mi Band 4 × 1 เครื่อง
- สายรัด TPU สีดำ × 1 เส้น
- แท่นชาร์จ × 1 ตัว
- คู่มือ × 1 ชุด

#การออกแบบ

การออกแบบของ Mi Band 4 นั้นคล้ายคลึงกับ Mi Band 3 มากๆ รวมถึงจอแสดงผลและสายรัดข้อมือ

สายรัดข้อมือยังคงใช้วัสดุ TPU ซึ่งใช้งานร่วมกับสาย Mi Band 3 ได้

เมื่อเทียบกับ Xiaomi Mi Band 3 ปุ่มโฮมบนหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นแบบแบนแทน #ฮาร์ดแวร์และการออกแบบ
ตัวเครื่อง Mi band 4 ยังคงเป็นทรงแคปซูลแบบเดียวกับ Mi Band 3 มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยมากๆ แต่หน้าจอใหญ่ขึ้น 39% จริงๆถ้าเทียบตามอัตราส่วน

โดยหน้าจอเป็นชนิด Amoled 16 ล้านเฉดสี ขนาด 0.95 นิ้ว , ความละเอียด 240 × 120 พิกเซล ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป ให้สีสันที่สว่างสดใสมากๆครับ ในที่ร่มนี่คือชนะเลิศเลย ส่วนการใช้งานในที่มีแดด ทดลองปรับความสว่างที่ระดับ 3 (สูงสุด 5) ก็ยังมองเห็นได้สบายๆครับ
รูปจอแสดงผลในที่ร่มเปรียบเทียบกับเวลาอยู่ในแดด ที่ความสว่างจอระดับ 3
กระจกด้านหน้ามีการเปลี่ยนมาใช้กระจกแบนและโค้งเฉพาะขอบแทน ตรงปุ่มโฮ่มก็เรียบไปกับผิวกระจก ในขณะที่ Mi Band 3 นั้นโค้งนูนทั้งกระจก และเป็นโฮมเป็นหลุมลึกลงไป ทำให้ติดฟิล์มกันรอยยากมาก แต่ถ้าเป็นแบบ Mi Band 4 ก็สบายๆครับ

ด้านหลังยังเป็นที่อยู่ของเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่ Xiaomi บอกว่าเป็นรุ่นปรับปรุงใหม่ ให้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น โดยตัวเซนเซอร์จะนูนออกมาจากฝาหลัง ทำกดแนบกันข้อมือได้มากขึ้น
ส่วนขั้วชาร์จ มีการย้ายตำแหน่ง จากเดิมใน Mi Band 3 จะอยู่ที่ท้ายเครื่อง ก็เปลี่ยนมาอยู่ที่ฝาหลังใต้เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแทน ทำให้แท่นชาร์จก็ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกขึ้นด้วยเช่นกัน

แต่ข้อเสียคือขั้วชาร์จมันก็อาจสกปรกได้ง่ายกว่าเดิม จากการโดนเหงื่อหรือน้ำโดยตรง เมื่อเทียบกับตำแหน่งเก่าใน Mi  Band 3
ส่วนสาย TPU ยังคงมีหน้าตาเหมือนเดิมทุกประการ สามารถใช้ร่วมกับสายของ Mi Band 3 ได้

#Software และการจับคู่อุปกรณ์เพื่อใช้งาน


การจับคู่อุปกรณ์กับสมาร์ทโฟน ยังคงทำผ่านแอพพลิเคชั่น Mi Fit เช่นเคย ซึ่งรองรับ Android 4.4 KitKat หรือ iOS 9 ขึ้นไป

เมื่อเปิดแอพ Mi Fit ขึ้นมา สำหรับคนที่ยังไม่ได้สมัคร Mi Account ก็จำเป็นต้องสมัครก่อนถึงจะใช้งานได้นะครับ ส่วนคนที่มีบัญชีแล้วก็ไปต่อเลย
โดยเข้าไปที่หน้า Profile -> Add Device จากนั้นกดเลือกอุปกรณ์ในหมวดหมู่ Band จากนั้นก็จะทำการค้นหา ให้วาง Mi Band 4 ไว้ใกล้ๆสมาร์ทโฟน ซักครู่ในหน้าจอของ Mi Band 4 ก็จะถามว่า "Pair with this Phone" ก็ให้กดตกลง

เมื่อจับคู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว หากท่านเคยจับคู่กับ Mi Band รุ่นเก่ามาก่อน แอพจะถามว่า "สามารถบันทึกข้อมูลได้ทีละ 1 Device เท่านั้น จะย้ายมา Active อุปกรณ์ใหม่หรือไม่" ก็ให้กดตกลงไปครับ
เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย Mi Band 4 ก็จะพร้อมใช้งานแล้ว

เริ่มต้นมาดูที่หน้าจอของ Mi Band 4 ก่อน


#การใช้งาน
: ปัดขึ้นเพื่อเข้าสู่เมนูต่างๆ , ปัดขวาหรือกดปุ่มโฮมเพื่อย้อนกลับ
- หน้าแรกเป็นหน้าหลัก สำหรับแสดงเวลา , วันที่ , จำนวนก้าว , แบตเตอรี่ และสถานะการเชื่อมต่อ

- Status สำหรับดูจำนวนก้าว , ระยะทาง และ แคลเลอรี่ ที่เผาผลาญไป
- Heart Rate สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

- Workout โปรแกรมสำหรับบันทึกกิจกรรมการออกกำลังกาย มีถึง 6 โหมด ได้แก่ วิ่ง , วิ่งลู่ , ปั่นจักรยาน , เดิน , ยกน้ำหนัก และ ว่ายน้ำ(สามารถแยกประเภทท่าได้ด้วย) แต่แน่นอนว่ามันไม่มี GPS ในตัว ฉะนั้นเวลาวิ่งถ้าจะ Tracking ก็ต้องพก SmartPhone ไปเพื่อระบุตำแหน่งด้วยครับ
- Weather ดูพยากรอากาศ ซึ่งละเอียดขึ้นครับ
- Notification ดูการแจ้งเตือน ซึ่ง ณ ตอนนี้ยังไม่รองรับภาษาไทย ส่วนเมื่อไหร่นั้นก็คงบอกได้แค่ว่าอีกพักใหญ่ๆถึงจะอัพเดทครับ ส่วนการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า แสดงชื่อที่บันทึกบ้างไม่แสดงบ้าง
- More สำหรับการตั้งค่าอื่นๆ เช่น ห้ามรบกวน (DND mode) , ตั้งปลุก , Music Control* , จับเวลา , ตั้งหน้าจอนาฬิกา , ความสว่าง , Find Device เป็นต้น

*Music Control นี่คือดีงามมาก ใช้ควบคุม Joox , Spotify ได้ด้วย โดยมีฟังก์ชั่น Play , Pause , เปลี่ยนเพลง , เพิ่ม/ลดเสียง

#แอพ Mi Fit

มีเมนูหลัก 3 เมนู คือ

- Workout สำหรับดูกิจกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย , การนอน , อัตราการเต้นของหัวใจ

- Friends สำหรับแอดเพื่อน เพื่อแลกกันดูกิจกรรมได้

- Profile เมนูนี้คือหัวใจในการตั้งค่า Mi Band ทั้งหมดครับ โดยให้กดไปที่ชื่อ Mi Band 4 เมื่อเข้ามาเราจะพบกับ

1.Band Display Setting ตรงนี้คือไฮไลค์เลยครับ เป็นการเปลี่ยน Theme Wallpaper ของหน้าจอ มีให้เลือกมากถึง 77 รูปแบบ (และอนาคตจะอัพเดทเพิ่ม)

2.Unlock Screen สำหรับใช้ Band ปลดล๊อคหน้าจอสมาร์ทโฟน
3.Incoming Call สำหรับตั้งให้สั่นเตือนเมื่อมีสายเข้า

4.Event Reminder แจ้งเตือนนัดหมายที่ตั้งไว้

5.Alarm ตั้งสั่นปลุก

6.App Alerts กำหนดแอพที่ต้องการให้แจ้งเตือนบน Mi Band

7.Idle Alert แจ้งเตือนเมื่อคุณนั่งนานเกิน 1 ชั่วโมง

จริงๆมันมีการตั้งค่ายิบย่อยอีกเป็น 10 เมนู ถ้าเอามาอธิบายอีก 3 วันคงยังไม่จบ หลังจากนี้จะขอหยิบเฉพาะตัวสำคัญๆมานะครับ

- Find band สำหรับสั่งให้สั่นเพื่อค้นหาเครื่อง

- Lift wrist to view info ตั้งให้ยกแขนขึ้นแล้วหน้าจอติดทันที ซึ่งสามารถกำหนดช่วงเวลาในการตั้งได้

- Night mode กำหนดช่วงเวลาในการหรี่แสงตอนกลางคืน

- Lab -> Band Lock สามารถตั้ง Password เพื่อปลดล๊อคหน้าจอของ Mi Band 4 ได้ (ตั้งได้ 4 หลัก แต่ใช้ตัวเลขได้แค่ 1 - 4 ทำให้เดาง่ายไปหน่อย)

#แบตเตอรี่

เพิ่งได้ลองใช้งานไป 3 วันเลยยังตอบอะไรไม่ได้มาก แต่ 3 วันนี้ลดมา 10% เฉลี่ยวันละ 3% โดยรวมแล้วชาร์จหนึ่งครั้งน่าจะอยู่ได้เฉลี่ย 20 - 25 วันครับ ก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว

#สรุป


Mi band 4 เป็นรุ่นพัฒนาของ Mi band 3 ที่ถือว่าทำได้ดีกว่าเดิมเยอะมากๆ มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน ทีเด็ดคือหน้าจอ Amoled สีสันสดใส ที่แสดงข้อมูลได้มากกว่าเดิม ลูกเล่นเยอะขึ้น แต่ติดแค่ยังไม่รองรับภาษาไทยเท่านั้น ซึ่งถามว่าจะรองรับเมื่อไหร่ ก็คงต้องรอศูนย์ไทยนำเข้ามา เพราะอย่างที่บอกไว้ตอนแรกครับ ว่าตอนนี้คือร้านหิ้วมาขายกันเอง Firmware จึงยังเป็น CH/ENG เท่านั้น แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสจุดนี้ ฟีเจอร์อื่นๆก็ชดเชยกันได้ครับ

#ราคา ตอนนี้จะเหวี่ยงๆอยู่ที่ 8,XX - 1,290 บาท ขึ้นอยู่กับแหล่งที่คุณซื้อครับ

#คะแนน

- Design : 8.5/10 คะแนน
- Hardware : 8.5/10 คะแนน
- Software : 9/10 คะแนน
- การใช้งาน : 9.5/10 คะแนน
- แบตเตอรี่ : 8/10 คะแนน

#คะแนนเฉลี่ย : 8.7/10 คะแนน
 
Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments