#FullReview : Samsung Galaxy A80 สมาร์ทโฟนนวัตกรรมกล้องหมุนได้สุดล้ำ!!! ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติครบครัน ในราคา 21,990 บาท!!!
เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลาจริงๆกับ Samsung Galaxy A80 ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ที่โดดเด่นเกินใคร และหลังจากที่ทาง โลกไอทีวันนี้ ได้ใช้งานอย่างจริงจังมาซักระยะหนึ่งก็ถึงเวลาที่จะนำมารีวิวให้ฟังกันแล้วครับ ว่าเจ้า Galaxy A80 มีดีอะไรบ้าง
เริ่มต้นที่สเปคกันก่อนเลย
สเปค Samsung Galaxy A80
หน้าจอชนิด Super Amoled แบบ New Infinity Display ขนาด 6.7 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+
เทคโนโลยี Sound On Display ใช้หน้าจอเปล่งเสียงแทนลำโพงสนทนา
CPU : Qualcomm Snapdragon 730G Octa Core (Dual 2.2 GHz + Hexa 1.7 GHz)
GPU : Adreno 618
RAM : 8 GB
ROM : 128 GB
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 4G + VoLTE
*ไม่รองรับ Micro SD Card
กล้อง 3 ตัว(Triple Camera) ความละเอียด 48 + 8 ล้านพิกเซล + 3D ToF Camera , f/2.0 + f/2.2
*ไม่รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
*ไม่รองรับช่องหูฟัง 3.5 mm.
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 3700 mAh + 25W SuperCharge
ระบบปฎิบัติการ : Android 9.0 Pie + OneUI
สี : สีทอง (Angel Gold) สีขาว (Ghost White) และ สีดำ (Phantom Black)
#Unboxing ภายในกล่องประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง Galaxy A80 × 1 เครื่อง
- เคสกันกระแทกเนื้อแข็ง × 1 ชิ้น
- เข็มจิ้มซิม × 1 ชิ้น
- หูฟัง In Ears แบบ USB Type - C × 1 ชุด
- สาย USB Type - C × 1 เส้น
- 25W Power Adapter × 1 ชิ้น
- Manual & Warranty Card × 1 ชุด
#การออกแบบ
เริ่มต้นที่หน้าจอของ Samsung Galaxy A80 จะเป็นหน้าจอชนิด Super Amoled ที่เรียกว่า New Infinity Display ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+ (2400 × 1080 พิกเซล) ที่ใหญ่เต็มตาแบบไม่มีรอยบากให้เกะกะ และที่สำคัญคือมีความคมชัดสูงและให้สีสันที่สดใสตามสไตล์ค่ายนี้ ทำให้หลงรักมันได้ไม่ยากเลยครับ
นอกจากนี้ Galaxy A80 ยังใช้เทคโนโลยี Sound On Display ที่ใช้หน้าจอเปล่งเสียงแทนลำโพงสนทนา อีกทั้งชุดเซนเซอร์ต่างๆที่ขอบบนก็ยังถูกซ่อนไว้ใต้หน้าจอ ทำให้ขอบมีความบางมากๆ และสมดุลกันทั้ง 4 ด้าน ใช้คำว่างดงามได้เลยครับ
ด้านหลังใช้วัสดุกระจกที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมน่าสัมผัส โดยชุดกล้อง 3 ตัวจะอยู่ด้านบน ซึ่งมาพร้อมกับนวัตกรรม Rotating Camera ที่เป็นกลไกในการยกและหมุนโมดูลกล้องไปใช้ที่ด้านหน้า โดยที่ได้รับการทดสอบความแข็งแรงเป็นอย่างดีจากทาง Samsung แล้วว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน แต่ยังพบว่าระบบ Fault Detection หรือการพับกล้องเก็บในกรณีทำตกนั้นยังไม่สามารถพับได้สมบูรณ์ ซึ่งคงต้องรออัพเดทซอฟแวร์ใหม่อีกรอบ
รอบๆตัวเครื่องมีดีไซน์ที่เรียบง่าย โดยขอบด้านขวาจะมีเพียงปุ่ม Power เท่านั้น
ส่วนขอบด้านซ้ายจะมีปุ่มปรับระดับเสียง
ขอบด้านบนจะเป็นที่อยู่ของไมค์ตัดเสียงรบกวนเพียงอย่างเดียว
ส่วนขอบด้านล่างมาพร้อมถาดใส่ซิมการ์ด, พอร์ต USB Type - C, ไมโครโฟนสนทนาและลำโพง Speaker หลัก ตามลำดับ
ด้านถาดใส่ซิมการ์ด จะใส่ได้ 2 ซิมแบบวางประกบ และไม่มีช่องใส่ Micro SD Card
โดยรวมแล้วค่อนข้างประทับใจมากในแง่ของการออกแบบที่สวยงามและหรูหราไม่แพ้รุ่นเรือธง มีน้ำหนักที่อาจจะไม่ถึงกับเบา(220 กรัม) ด้วยเหตุมีกลไกกล้องหมุนได้อยู่ แต่ก็ถือใช้งานมือเดียวได้
#ซอฟแวร์และประสิทธิภาพ
Samsung Galaxy A80 ใช้งานระบบปฎิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย OneUI ทำให้ลักษณะการใข้งานจะไม่แตกต่างกับสมาร์ทโฟน Samsung รุ่นอื่นๆ คือมีการใช้งานที่ง่ายและสามารถสั่งงานด้วยมือเดียวได้สะดวก
ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพพลิเคชั่น Antutu Benchmark อยู่ที่ 200,369 คะแนน
อันเป็นผลมาจาก ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 730G โดยตัว G ย่อมาจาก Gaming เพราะมีการเพิ่ม Clock Speed ของ GPU พ่วงด้วย RAM 8 GB และ ROM 128 GB ทำให้การใช้งานทั่วไปไม่ติดขัดหรือมีปัญหาใดๆ
ส่วนการเล่นเกมส์ก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยองค์ประกอบเสริมของหน้าจอแบบเต็มตา ที่ต้องยอมรับเลยว่าสวยมากๆ
โดยเราทดลองเล่นเกมส์ PUBG เปิดกราฟฟิกได้ที่ระดับ HD และเฟรมเรท High
ผลที่ได้คือไม่มีอาการกระตุกหรือเฟรมเรทตกให้เห็น (มีอาจจะน้อยมากจนแทบไม่รู้สึก) และแม้ว่าหน้าจอจะไม่รองรับ HDR แต่แสงและเงาภายในเกมส์ก็ดูกลมกลืนสวยงามสมจริง จัดเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่คู่ควรต่อการเล่นเกมส์เลยครับ
#ฟีเจอร์พิเศษ
- Quick Measure
ด้วยคุณสมบัติของ 3D ToF Lens ทำให้ Galaxy A80 สามารถวัดระยะเเละปริมาตรของวัตถุจริงได้
- Bixby Voice
ตามปกติแล้วสมาร์ทโฟนของ Samsung ที่จะรองรับ Bixby Voice หรือการสั่งงานด้วยเสียงนั้นมักจะมีเฉพาะในรุ่นเรือธงอย่าง Galaxy S Series หรือ Note Series เท่านั้น (รุ่นกลางจะรองรับแค่ Bixby Home กับ Reminder)
แต่ Galaxy A80 นั้นรองรับ Bixby Voice เต็มรูปแบบได้เหมือนกับรุ่นเรือธงทุกประการ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความคุ้มค่าครับ
- Game Launcher
อีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับเพิ่มความสะดวกสบายและลดการรบกวนจากผู้อื่นในการเล่นเกมส์ เช่น Screen Touch Lock สำหรับล๊อคหน้าจอโดยไม่ต้องปิดหน้าจอ เพื่อป้องกันเผลอไปโดนโดยไม่ได้ตั้งใจยามเปิดบอท
หรือการบล๊อคสายโทรเข้าและปิดการเเจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นยามเล่นเกมส์ก็ทำได้เช่นกัน
- Digital Wellbeing
ฟีเจอร์สำหรับช่วยลดการเสพย์ติดสมาร์ทโฟนแสดงกิจกรรมระยะเวลาในการใช้สมาร์ทโฟนของเรา ว่าเราใช้แอพอะไรบ้าง นานแค่ไหน ใช้ในช่วงเวลาไหนบ้าง โดยแสดงเป็นกราฟรายแอพต่างๆ รวมถึงสถิติข้อความแจ้งเตือนในแต่ละวัน, กำหนดระยะเวลาในการใช้แอพ และ Wind Down หรือ โหมดก่อนนอน ที่จะปรับสีของหน้าจอเป็น Grey Scale เพื่อเป็นการเตือนว่าถึงเวลาที่คุณต้องเข้านอนแล้ว
#ความปลอดภัย
Galaxy A80 มีระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical มาให้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวเดียวกับใน Galaxy A70 มีความเร็วในการปลดล๊อคพอประมาณ และมีสแกนติดยากบ้างเล็กน้อย
#ระบบเสียง
มีลำโพง Speaker 1 ตัวแบบ Mono อยู่ที่ด้านล่าง ให้เสียงในโทน Flat ติดแหลม
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ยามเสียบหูฟัง ซึ่งเป็นแบบ USB Type - C เพราะไม่มีช่องหูฟัง 3.5 mm.
คุณภาพเสียงจากหูฟังก็ได้มาตราฐาน Samsung ที่เน้นเสียงกลางเป็นหลักครับ
#คุณสมบัติกล้อง
โมดูลกล้องของ Galaxy A80 นั้นเรียกว่า Rotating Camera หรือ 'กล้องหมุนได้' ประกอบไปด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, f/2.0, Auto Focus + PDAF
- กล้องตัวที่ 2 แบบ Ultra Wide Lens ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, f/2.2 , มุมกว้าง 123 องศา
- กล้องตัวที่ 3 แบบ 3D ToF Camera สำหรับวัดระยะตื้นลึก
พร้อมไฟแฟลช LED
หน้าตา UI กล้อง
สำหรับ UI นั้นยังคงมีหน้าตาเหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆของ Samsung โดยมี Scene Optimizer สำหรับปรับเลือกโหมดการถ่ายแบบอัตโนมัตินั่นเอง
โหมดอื่นๆยังเหมือนเดิม เช่น Live Focus, Panorama และ Night Mode
ส่วนโหมด Pro จะปรับได้แค่ 3 อย่างคือ ISO, White Balance และ EV Brightness
แต่ที่พิเศษคือ Galaxy A80 สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Live Focus หรือหน้าชัดหลังเบลอได้
คุณภาพของภาพที่ได้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ยิ่งภายใต้สภาวะแสงมาก ภาพจะออกมาสด, Dynamic ดี, WB ตรง แต่พอถ่ายกลางคืนอาจจะมี Noise ถามหาพอประมาณ
#ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
#ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคลกล้องหลัง
#ตัวอย่างภาพถ่าย Night Mode
#ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
แม้ว่าจะใช้โมดูลชุดเดียวกัน แต่ดูเหมือนซอฟแวร์ในการเรนเดอร์จะมีอัลกอริทึมที่ต่างกัน เพราะภาพจากกล้องหน้าจะให้อารมณ์อีกแบบ ออกไปทาง Beauty ฟุ้งๆเยอะๆ แต่ข้อดีคือคุณจะได้ Ultra Wide Lens สุดกว้างมาถ่ายกล้องหน้าด้วย
จะเห็นได้ว่ากล้องหน้าสามารถเลือก Wide ได้ 3 ระยะ
ตัวอย่างกล้องหน้า Ultra Wide
ส่วนการถ่ายวิดีโอรองรับ 4K@30fps และFull HD@60fps
#แบตเตอรี่
มีความจุที่ให้มาน้อยสวนทางกับหน้าจอใหญ่ที่ 3700 mAh แต่ก็มีความอึดพอประมาณ ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 730G ค่อนข้างประหยัดไฟ แต่หน้าจอที่ใหญ่ก็กินไฟเยอะทดแทน ทำให้ถ้าเล่นบ่อยๆก็แบตไหลได้ ระยะเวลาใช้งานโดยเฉลี่ย 9 - 10 ชั่วโมง
ส่วนระบบชาร์จนั้นเป็นแบบ 25W หรือ Samsung เรียกว่า Super Fast Charging
หัวที่ให้มาจะเป็นมาตราฐาน Power Delivery 3.0 ซึ่งเป็น USB Type - C แบบ2 ทาง
มีอัตราการชาร์จ 0 -100% ที่ราวๆ 80 นาที
#สรุป
Samsung Galaxy A80 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องและเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ที่พยายามจะนำเสนอให้กับผู้ใช้ ซึ่งจัดเต็มจนเกือบเทียบเท่าเรือธง พร้อมด้วยการออกแบบที่ลงตัวและวัสดุคุณภาพพรีเมี่ยมในราคา 21,990 บาท ซึ่งด้านราคาต้องขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละท่านจะพิจารณาว่าถูกหรือแพงครับ
ซึ่ง ณ วันที่รีวิวออกน่าจะเริ่มรับเครื่องกันแล้วสำหรับผู้ที่ Pre - Order ส่วนรุ่น BLACKPINK Exclusive Edition จะเปิดจองเป็นวันสุดท้าย (21 กรกฎาคม)
VDO Review :
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment