#FullReview : Sony - SRS XB22 และ SRS XB32 คู่พี่น้องบีทแน่นสะเทือนทรวง !!!! เหนือชั้นด้วยระบบเสียง Extra Bass และ 3D Live Sound พร้อมคุณสมบัติกันน้ำ IP67 และกันกระแทก พ่วงด้วย LED Lighting ที่จะทำให้ดนตรีมีสีสันมากยิ่งขึ้น !!!!
หากคุณกำลังมองหาลำโพงบลูทูธชั้นดีที่มีคุณภาพสำหรับความบันเทิงแล้ว ก็ไม่อยากจะให้มองข้ามคู่นี้เลยจริงๆครับกับ Sony - SRS XB22 และ SRS XB32 ลำโพงบลูทูธที่เกิดมาเพื่อสายปาร์ตี้และสายเอาท์ดอร์โดยเฉพาะ ด้วยพลังเสียงสะเทือนใจ ที่มาพร้อมกับเบสแน่นๆ , ไฟ LED เข้าจังหวะ และลูกเล่นอย่าง Wireless Party Chain กับ Speaker Add สำหรับขยายความสุขให้ทุกมุมของปาร์ตี้
เรามาเริ่มกันที่เจ้าตัวเล็กอย่าง Sony - SRS XB22 กันก่อนเลยครับ
สเปค Sony - SRS XB22
- SPEAKER TYPE : Full Range
- SPEAKER SIZE : Satellite Speaker 42 mm.
- SOUND MODES : LIVE SOUND, EXTRA BASS™, Standard
- FREQUENCY TRANSMISSION RANGE : 20 Hz–20,000 Hz (44.1 kHz sampling)
- FREQUENCY RANGE : 2.4 GHz band
INPUT AND OUTPUT TERMINALS : Stereo Mini Jack (IN), micro USB
- Connection : NFC/Bluetooth 4.2
- รองรับ LED Lighting (Sync with Beat)
- รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP67 (และรองรับการกันน้ำเค็มได้)
- รองรับการตกกระแทก (Shock Testing)
- สามารถเชื่อมต่อแบบ Wireless Party Chain ได้สูงสุด 100 ตัว
- รองรับ Hands Free Mode
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 12 ชั่วโมง
- สามารถเป็น PowerBank จ่ายไฟให้อุปกรณ์อื่นๆได้
- ขนาด : 201 x 72 x 68 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 540 กรัม
สเปค Sony - SRS XB32
- SPEAKER TYPE : Full Range
- SPEAKER SIZE : Satellite Speaker 48 mm.
- SOUND MODES : LIVE SOUND, EXTRA BASS™, Standard
- FREQUENCY TRANSMISSION RANGE : 20 Hz–20,000 Hz (44.1 kHz sampling)
- FREQUENCY RANGE : 2.4 GHz band
INPUT AND OUTPUT TERMINALS : Stereo Mini Jack (IN), micro USB และ USB A
- Connection : NFC/Bluetooth 4.2
- รองรับ LED RGB Lighting (Sync with Beat) และ Flash Strobe
- รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP67 (และรองรับการกันน้ำเค็มได้)
- รองรับการตกกระแทก (Shock Testing)
รองรับ LDAC
- สามารถเชื่อมต่อแบบ Wireless Party Chain ได้สูงสุด 100 ตัว
- รองรับ Hands Free Mode
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 24 ชั่วโมง (ในโหมดมาตราฐาน)
- สามารถเป็น PowerBank จ่ายไฟให้อุปกรณ์อื่นๆได้
- ขนาด : 238 x 84 x 83 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 900 กรัม
Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง
- สาย Micro USB
- Quick Start Guide และ Warranty Card
Design & Materials
XB - SRS22 และ SRS32 นั้นมีการออกแบบและวัสดุที่แทบจะเหมือนๆกัน โดยเป็นลำโพงบลูทูธรูปทรงกระบอก ใช้วัสดุยางซิลิโคนแบบหนาเคลือบผิว ทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อแรงตกกระแทก , รอยขีดข่วน และมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นด้วย อีกทั้งการใช้วัสดุเป็นยางซิลิโคนทำให้รู้สึกว่าจับถนัด ไม่ลื่นหลุดจากมือได้ง่ายๆ
ส่วนบริเวณลำโพงจะหุ้มผ้าถักอย่างดี ให้ความรู้สึกแน่นหนาและพรีเมี่ยม ด้านล่างมีปุ่มฐานยึดพื้น 4 จุด พร้อมโลโก้ Sony ที่โก้เก๋เกินใคร แถมลำโพงทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังถูกออกแบบมาให้วางแนวนอนหรือแนวตั้งก็ได้
ทีนี้เราลองมาแยกดูกันทีละรุ่นครับ เริ่มต้นที่ SRS - XB22
ที่ขอบด้านบน ซ้ายมือจะมีโลโก้ NFC สำหรับจุดแตะเพื่อเชื่อมต่อ ด้านขวาจะเป็นแผงควบคุม ประกอบด้วยปุ่ม Live , Play/Pause , Volume Down , Volume Up , ไฟแสดงสถานะ Bluetooth และ ปุ่ม Power พร้อมไฟแสดงสถานะการเชื่อมต่อ ตามลำดับ
ด้านหน้าเป็นแผงลำโพง โดยที่ตามขอบแนวลำโพงจะมีกรอบพลาสติกขุ่นสำหรับกระจายไฟ LED ที่อยู่ตรงกลางของแผงลำโพง 2 จุด ที่ขอบบนและล่าง โดยสีของ LED แสดงได้สีเดียวคือเหมือนกับสีตัวเครื่อง
ด้านหลังมีช่องระบายลมที่ขับออกมาจาก Passive Radiation ที่ด้านขวา จะมีช่องที่ถูกปิดไฟด้วยฝาครอบที่แน่นหนามาก เมื่อเปิดออกมาจะพบกับ
- ช่อง AUDIO IN
- ช่อง DC IN 5V
- ไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จไฟเข้าเครื่อง
- ปุ่ม Reset
- ปุ่ม ADD สำหรับฟังก์ชั่น Speaker Add เพื่อเพิ่มลำโพงเป็น Stereo แยกซ้าย/ขวา)
- ปุ่ม WPC (Wireless Party Chain) สำหรับพ่วงลำโพงให้เล่นจาก output เดียวกัน ทำได้สูงสุด 100 ตัว
- ปุ่ม BATT กด 1 ครั้งเพื่อให้ลำโพงพูดระดับแบตเตอรี่ที่เหลือ และเมื่อกดปุ่มนี้ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จะเป็นการเปิด/ปิดฟังก์ชั่นไฟ LED
ส่วน SRS - XB32 นั้นจะค่อนข้างมีรายละเอียดที่พิถีพิถันและมากกว่าอยู่พอสมควร
ที่ขอบด้านบน ซ้ายมือจะมีโลโก้ NFC สำหรับจุดแตะเพื่อเชื่อมต่อ ด้านขวาจะเป็นแผงควบคุม ประกอบด้วยปุ่ม Live , Play/Pause , Volume Down , Volume Up , ไฟแสดงสถานะ Bluetooth และ ปุ่ม Power พร้อมไฟแสดงสถานะการเชื่อมต่อ ตามลำดับ
ด้านหน้าเป็นแผงลำโพง โดยที่ตามขอบแนวลำโพงจะมีกรอบพลาสติกใสสำหรับกระจายไฟ LED ที่มีจุดกำเนิดที่ขอบซ้ายและขวาของลำโพง และที่พิเศษกว่าคือ ไฟ LED ของ XB32 นั้นเป็นแบบ RGB ที่สามารถแสดงสีได้มากถึง 256 สี อีกทั้งยังมีไฟ Flash Strobe สีขาว ที่จะยิงตามจังหวะเพลงเพื่อเพิ่มความสนุกถึง 2 จุด ซ้ายและขวา
ด้านหลังมีช่องระบายลมที่ขับออกมาจาก Passive Radiation ที่ด้านขวา จะมีช่องที่ถูกปิดไฟด้วยฝาครอบที่แน่นหนามากเหมือน XB22 เมื่อเปิดออกมาจะพบกับ
- ช่อง AUDIO IN
- ช่อง DC out สำหรับชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่น
- ช่อง DC IN 5V
- ไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จไฟเข้าเครื่อง
- ปุ่ม Reset
- ปุ่ม ADD สำหรับฟังก์ชั่น Speaker Add เพื่อเพิ่มลำโพงเป็น Stereo แยกซ้าย/ขวา)
- ปุ่ม WPC (Wireless Party Chain) สำหรับพ่วงลำโพงให้เล่นจาก output เดียวกัน ทำได้สูงสุด 100 ตัว
- ปุ่ม BATT กด 1 ครั้งเพื่อให้ลำโพงพูดระดับแบตเตอรี่ที่เหลือ และเมื่อกดปุ่มนี้ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จะเป็นการเปิด/ปิดฟังก์ชั่นไฟ LED
การใช้งาน
ทั้ง 2 ตัว มีการใช้งานที่ง่ายเหมือนกับลำโพงบลูทูธทั่วๆไป เพียงแค่คุณกดปุ่ม Power เพื่อเปิดเครื่อง และกดค้างไว้ 3 วินาที เพื่อเข้าสู่โหมดจับคู่(Pairing) จากนั้นก็เปิด Bluetooth ในโทรศัพท์และกดจับคู่ ก็เป็นอันเรียบร้อย หรือง่ายกว่านั้นหากโทรศัพท์คุณรองรับฟังก์ชั่น NFC ก็แค่เปิดขึ้นมา จากนั้นนำโทรศัพท์มาแตะที่จุดรับ NFC บนลำโพง เท่านี้ก็เชื่อมต่ออัตโนมัติครับ
ส่วนแผงควบคุมก็ตามมาตราฐานครับ เพิ่มเสียง , ลดเสียง , เล่น , หยุดเล่น/รับสาย ส่วนปุ่ม Live จะเป็นการเพิ่มมิติให้กับเสียง ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Sony
และความพิเศษเฉพาะของ Sony อีกประการคือ
- ฟังก์ชั่น Wireless Party Chain: คุณสามารถซิงค์ลำโพงนี้กับรุ่นอื่น ๆ ที่ใช้งานร่วมกันได้เพื่อเล่นเพลงเดียวกันพร้อมกัน (แต่ไม่ใช่เสียงสเตอริโอ) ทำงานร่วมกับ SRS-XB22, SRS-XB32, SRS-XB21, SRS-XB31, SRS-XB41, SRS-XB20, SRS-XB20, SRS-XB30, SRS-XB60, GTK-XB90 สามารถซิงค์รวมกันได้สูงสุด 100 ตัว
- ฟังก์ชั่น Speaker Add : คุณสามารถจับคู่ SRS-XB32 กับรุ่น SRS-XB32 ที่แน่นอนสำหรับเสียงสเตอริโอ โปรดทราบว่าลำโพงจะต้องเป็น XB-32 อีกตัวสำหรับเสียงสเตอริโอ (มันจะไม่ทำงานกับรุ่นก่อนหน้าเช่น XB-31 และ XB-30)
โดยการใช้งานก็ง่ายมากๆ เพียงแค่กดปุ่มของแต่ละฟังก์ชั่นที่ต้องการเท่านั้น ก็จะเชื่อมต่อให้อัตโนมัติ
คุณภาพของเสียง
ต้องบอกว่าทั้ง 2 รุ่น ให้เสียงที่ประทับใจมากๆ ด้วยการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของคุณสมบัติพลังและคุณภาพเสียง ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในช่วงราคานี้
เสียงที่ถ่ายทอดโดยลำโพงทั้ง 2 ตัวนี้ ไม่มีความผิดเพี้ยนและคงที่ทั้งระดับเสียงต่ำและระดับเสียงสูงมาก ลำโพงคู่นั้นทำมุมเอียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มเอฟเฟ็กต์สเตอริโอและมี DSP สำหรับ "โหมด Live Sound"
มีเบสที่ดี เนื่องจากมีการใช้ Passive Radiator นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่เรียกว่า "Extra Bass" ซึ่งจะเพิ่มเสียงเบส ซึ่งคุณสามารถเปิดใช้งานได้หากคุณต้องการเน้นโทนเสียงที่ลึก ผ่านแอพพลิเคชั่น Music Center
โดยเจ้าแอพพลิเคชั่น Music Center นี้จะเป็นตัวช่วยในการปรับแต่งเสียงของลำโพงทั้ง 2 รุ่น ให้มีตัวเลือกมากกว่าเดิม ซึ่งการใช้งานและติดตั้งนั้นง่ายมากๆ เพียงแค่คุณดาวน์โหลดและเปิดแอพ Music Center ขึ้นมา จากนั้นเปิดลำโพงทั้ง 2 ตัวไว้ ก็จะทำการเชื่อมต่อให้อัตโนมัติทันที
ภายในแอพจะมีตัวเลือกในการปรับมากมาย เช่น
Sound Mode : Standard/Extrabass/Live Sound
EQ : Bass/Mid/Tre
Clear Audio+
และ illumination สำหรับปรับการแสดงไฟ LED ที่มีตัวเลือกมากกว่า 12 รูปแบบ แต่ถ้ายังไม่สะใจให้ไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น "Fiestable" มา ก็จะปรับเลือกเฉดสีแบบเจาะจงได้ และยังมีฟีเจอร์ Motion Control มาให้เล่นอีกด้วย (ลูกเล่นปรับไฟ LED รองรับเฉพาะ XB32 นะครับ ส่วน XB22 มีเฉดสีเดียว ทำได้แค่เปิด/ปิด)
ตัวอย่างไฟ LED ของทั้ง 2 รุ่น
SRS - XB22
แบตเตอรี่
SRS-XB32 ให้คุณใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมงเมื่อปิดไฟและตั้งค่าโหมดเสียงเป็น“ มาตรฐาน” อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดไฟและเปิดใช้งานฟีเจอร์ Extra Bass จะเหลือ 12 ชั่วโมง และ XB32 ยังมีคุณสมบัติเป็น powerBank จ่ายไฟให้อุปกรณ์อื่นได้ด้วย
SRS-XB22 ให้คุณใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมงเมื่อปิดไฟและตั้งค่าโหมดเสียงเป็น“ มาตรฐาน” อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดไฟและเปิดใช้งานฟีเจอร์ Extra Bass จะเหลือ 10 ชั่วโมง
คุณสามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ได้ในแอพ Sony Music Center หรือโดยการแตะที่ปุ่ม“ BATT” ที่ด้านหลัง
สรุป
โดยรวมแล้ว Sony SRS-XB22 และ XB32 ให้เสียงที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับคุณสมบัติที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงดนตรีและเอ็นจอยกับปาร์ตี้เป็นหมู่คณะได้อย่างสบายๆครับ
รายละเอียดราคาและการจัดจำหน่าย
Sony SRS-XB22 ราคา 3,990.-
Sony SRS-XB32 ราคา 5,490.-
ที่ร้าน Studio 7 ทั่วประเทศ
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment