#FullReview : Huawei Watch GT 2 นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นอัพเกรด​ ที่คุ้มค่าราคาดีที่สุดในเวลานี้​ !!! ด้วยชิปเซ็ต Kirin A1 , Bluetooth 5.1 , ไมโครโฟนและลำโพงในตัวสำหรับรับสายและฟังเพลง , วัดอัตราการเต้นของหัวใจใต้น้ำ​ระดับ​ 5ATM และ อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 14 วัน !!!!



หลังจากที่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา​ทาง​ Huawei​ ได้เริ่มลุยตลาด​ Smart​Watch​ แบบเต็มตัว​ ด้วยการส่ง Huawei​ Watch​ GT​ ลงสู่ตลาด​ และผลตอบรับที่ได้นั้นเรียกว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก​ ด้วยราคาที่เปิดมาถูกกว่าเจ้าตลาดหลายๆแบรนด์​ แต่คุณสมบัติการทำงานนั้นแทบไม่แตกต่างกัน​ ล่าสุดจึงได้ทำการส่งรุ่นอัพเกรดอย่าง​ Huawei Watch​ ​GT​2 มากระตุ้นตลาดอีกครั้ง



โดย​ Huawei Watch​ GT​ 2 ที่ทางเราได้รับมานั้นเป็นรุ่น​ 46 mm. Sport Edition ครับ​ เราลองไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง


Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย



- Huawei Watch GT 2 จำนวน​ 1 เรือน
- Magnet Charging​ Adapter จำนวน​ 1 ตัว
- สาย​ USB Type -​ C จำนวน​ 1 เส้น
- Quick Start Guide จำนวน​ 1 เล่ม


สเปค​ Huawei Watch GT 2






หน้าปัดทรงกลมชนิด​ Amoled ขนาด​ 1.39 นิ้ว​, ความละเอียด​ 454 × 454 พิกเซล​, ครอบทับด้วยกระจก​ 3D Glass 

ชิปเซ็ต​ Kirin​ A1

รองรับ​ GPS

รองรับ​ Heart Rate Monitoring

รองรับการกันน้ำระดับ​ 5ATM

รองรับ​ Bluetooth 5.1 LE

แบตเตอรี่​ 455 mAh 

ระบบปฎิบัติการ​ Lite​ OS


ข้อมูลเบื้องต้น



HUAWEI Watch GT 2 โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรูที่มาพร้อมประสิทธิภาพอัดแน่น

ชิปเซ็ตแบบ Kirin A1 ผสานหน่วยประมวลผลและการเชื่อมต่อสัญญานบลูทูธ

ประหยัดพลังงาน ใช้งานได้นานสูงสุด 2 สัปดาห์

เป็นสมาร์ทวอชรุ่นแรกที่ใช้หน้าจอทัชสกรีน AMOLED แบบ 3 มิติ

HUAWEI TruSeen™ 2.0 และยังสามารถตรวจจับภาวะหัวใจเต้นในอัตราต่ำกว่าปกติหรือภาวะหัวใจล้มเหลวได้

ไม่พลาดทุกการติดต่อด้วยการโทรแบบ Voice Call ผ่านบลูทูธ

สามารถจุเพลงไว้ในเครื่องได้มากถึง 500 เพลง และยังสามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายกับหูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds 3

Design



Huawei Watch GT2  นำเสนอด้วยหน้าปัดนาฬิกาทรงกลมแบบ​ Amoled ขนาด​ 1.39 นิ้ว​ ที่มีขอบที่บางกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นแรก พร้อมครอบทับด้วยกระจกกันรอยแบบ​ 3D Glass​ ใหม่​ ที่สามารถวางกระจกแนบชิดกับ​พาแนลของจอได้แบบไม่มีช่องว่าง ซึ่งต้องบอกว่าหน้าจอมีความคมชัดสูงและสีสันสดใสมาก แม้อยู่ในกลางแจ้งก็ยังเห็นได้ดี



ตัวเรือนใช้วัสดุโลหะ​ น้ำหนักเบา​ ด้านขอบขวาจะมีปุ่มเม็ดมะยม​ 2 ปุ่มสำหรับควบคุมการใช้งาน​ โดยปุ่มบนเป็นปุ่มกดเข้าเมนู​ หรือ​ กลับสู่หน้า​ Home​ และปุ่มด้านล่างเป็นปุ่มอิสระ​ สามารถตั้ง
ค่าการเข้าถึงแอพหรือเมนูต่างๆแบบ​ Quick Launch ได้



ใต้ปุ่มควบคุมจะเป็นช่องลำโพงสนทนาในตัว​ ใช้สำหรับการคุยโทรศัพท์​, ฟังเพลง​ หรือฟัง​ Training Coach ส่วนตัวเวลาออกกำลังกาย



ส่วนขอบซ้ายจะปล่อยโล่งๆไว้



ด้านล่างมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ​ ซึ่งมีการติดตั้ง​ไว้​ 2 ประเภท​ คือแบบ​ Green Light สำหรับวัดในขณะออกกำลังกาย​ และ​ แบบ​ Infrared สำหรับวัดเวลานอน​ เพื่อไม่รบกวนสายตา​ และ​ Charging​ Pin



โดยรวมการออกแบบของ​ Huawei Watch​ GT​ 2 จะค่อนข้างเหมือนกับรุ่นแรก​ แต่มีการปรับรายละเอียดทางเทคนิคให้ดีมากยิ่งขึ้น​ ซึ่งทำให้นอกจากจะมีหน้าตาตัวเรือนที่สวยงามแล้ว​ ก็ยังมีลูกเล่นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

Hardware &​ Performance

Huawei Watch GT 2 มาพร้อม​ชิปเซ็ต Kirin A1 ใหม่ ใช้พลังงานต่ำและการเชื่อมต่อบลูทูธ ที่มีความเสถียรยิ่งขึ้นซึ่ง ด้วยมาตราฐาน Bluetooth 5.1 และ Bluetooth 5.1 LE ซึ่ง Huawei เคลมว่าสามารถถือได้ห่างถึง 150 เมตร​ จากโทรศัพท์ของคุณ

มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ , GPS และ ไจโรสโคป มาพร้อมกับไมโครโฟนและลำโพงในตัว สำหรับรับสายสนทนาและฟังเพลงได้ในตัว

นาฬิการองรับการออกกำลังกายได้ถึง 15 โหมด และสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจใต้น้ำได้​ ที่ระดับ​ 5 ATM  นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการติดตามการนอนหลับที่ปรับปรุงใหม่ด้วย Huawei TruSleep 2.0

จากข้อมูล Huawei Huawei GT 2 รุ่นใหม่สามารถใช้งานได้ 14 วัน และใช้งานได้ 30 ชั่วโมง​ ในโหมด GPS มาพร้อมแบตเตอรี่ 455 mAh

ใช้ระบบปฏิบัติการ LiteOS ของ Huawei มันยังคงรองรับการเชื่อมต่อทั้งโทรศัพท์ Android และ iOS

วิธีการเชื่อมต่อ​ และ​ Software

Huawei Watch​ GT 2 รองรับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่น​ HUAWEI​ Health ซึ่งจะมีติดตั้งไว้ในสมาร์ทโฟน​ Huawei ทุกรุ่นอยู่แล้ว​ แต่หากคุณใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น​ ก็สามารถดาวน์โหลดผ่าน​ Google​ Play​ S​tore มาติดตั้งได้เช่นกัน​ รวมถึงระบบ​ iOS ก็สามารถดาวน์โหลดผ่าน​ App Store ได้






โดยเมื่อเข้าแอพ​ Huawei Health แล้วให้ไปที่เมนู​ Devices​ เลือกติดตั้ง​ Smart​ Watch​ และเลือกรุ่น​ Watch​ GT​ 2 Series



จากนั้นให้กดปุ่มเม็ดมะยมบนเพื่อเปิดเครื่อง​ Watch​ GT​ 2 โดยเมื่อเปิดแล้วจะมีการเลือกภาษาในการแสดงผล​



จากนั้นจะเข้าสู่หน้า​ Pairing Mode ก็ให้กลับไปดูที่หน้าแอพ​ ให้กด​ Search Device จะพบชื่อ​ของ​ Watch​ GT​ 2 ให้กดเชื่อมต่อ​ จากนั้นรอเพียงไม่กี่อึดใจก็เป็นอันเสร็จสิ้น



ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อแล้ว​ ระบบจะพามาสู่หน้าหลัก​ สำหรับการตั้งค่าทั้งหมด​ดังต่อไปนี้

Watch​ Faces






สำหรับปรับเปลี่ยนหน้าจอ​ โดยมีทั้งแบบสำเร็จรูป​ และแบบ​ Custom ที่เราสามารถนำรูปในสมาร์ทโฟนมาทำเป็นหน้าปัดได้​  พร้อมการตั้งค่ารูปแบบต่างๆในการแสดงผล

Huawei TruSleep



ระบบตรวจสอบการนอนของผู้สวมใส่​ โดยคำนวณจากอัตราการหายใจ , การขยับของกล้ามเนื้อ​ แล้วสามารถวิเคราะห์ออกมาเป็นรูปแบบในการนอน​พร้อมกับปัญหาที่ควรแก้ไข




อีกทั้งยังสามารถแจงค่าสถิติรูปแบบในการนอนของแต่ละคืนออกมาได้อย่างละเอียด​ ซึ่งถือว่าน่าจะดีที่สุดในตลาดของ​ Smart​Watch​ ตอนนี้

พร้อมด้วยการแนะนำในการแก้ไขปัญหาการนอนเบื้องต้น​ เพื่อเพิ่มคุณภาพในการนอนให้มากกว่าเดิม

ระบบ​ Heart Rate Monitoring

สามารถตั้งค่าวัดหัวใจได้หลายรูปแบบ​ ทั้ง



Smart​ สำหรับตั้งค่าวัดแบบอัตโนมัติ​ โดยขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำ​ ณ​ เวลานั้นๆ

Real -​ Time  เป็นการวัดและเก็บข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา​ แต่ว่าจะเปลืองแบตเตอรี่



และยังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนในกรณีที่อัตราการเต้นของหัวใจ​มีความผิดพลาด​ ไม่ว่าจะเต้นเร็วเกินไปหรือช้าเกิน​ไป​ ต่อเนื่องนานเกิน​ 10 นาที

Stress Test หรือ​ ตรวจจับความเครียด






โดยในการใช้งานครั้งแรกจะเป็นการตอบคำถามสั้น ๆประมาณ​ 12​ ข้อ เพื่อประเมินระดับความเครียดของตัวเรา หลังจากนั้นหากระดับความเครียดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งประเมินจากอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นแบบกระทันหัน​ (ยกเว้นตอนออกกำลังกาย)​ จะมีการแจ้งเตือนที่ตัวนาฬิกา และเข้าสู่โหมดการฝึกหายใจ เพื่อช่วยระบายความเครียด​ และปรับสมดุลในร่างกายให้มีสภาพที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา



นอกนั้นก็จะเป็นการตั้งค่าอื่นๆทั่วไป​ เช่น​ การตั้งปลุก​, การแจ้งเตือน​, รายชื่อในสมุดโทรศัพท์​, สภาพอากาศ, เปิดหน้าจอเมื่อยกแขนขึ้น​ และ​ การอัพเดท​

*เมื่อเปิดเครื่องใช้งานครั้งแรก​ ให้เข้าไปกดรับการอัพเดทใหญ่ก่อน​ 1 ครั้ง​ เพื่อการทำงานที่สมบูรณ์



การแสดงผลบนตัวเรือนและวิธีการควบคุม

Huawei Watch GT 2 รองรับการสัมผัสหน้าจอเพื่อสั่งงานและมีปุ่มเม็ดมะยมทำงานร่วมกันอีก​ 2 ปุ่ม

โดยการสัมผัส​เลื่อนหน้าจอ​ไปซ้ายและขวา​ เพื่อเข้าสู่เมนูการทำงานต่างๆ​ ในหน้าแรกจะเป็นหน้า​  Watch​ Face



เมื่อเลื่อนไปทางซ้ายจะพบกับ

Heart Rate



Stress



Weather



Music Control



Activity Status



ตามลำดับ



เมื่อปัดจากบนลงล่าง​ จะพบกับหน้าการตั้งค่าต่างๆ​ เช่น​ Do​ not  Disturb , Show Time, Find Phone, Alarm และการเข้าสู่เมนูตั้งค่าหลัก

ในหน้าการตั้งค่าหลักนั้นสามารถตั้งค่าดังต่อไปนี้



Earbuds​ สำหรับเชื่อมต่อกับหูฟัง​ Freebuds​ 3

Display​ สำหรับตั้งค่า​ Watch​ Faces



Strength  สำหรับตั้งค่าระดับในการสั่นเตือน

Do​ not Disturb สำหรับปิดการแจ้งเตือนต่างๆในขณะนอนหลับ



Down​ Button สำหรับตั้งค่าปุ่มเม็ดมะยมด้านล่างให้เข้าสู่แอพหรือเมนูต่างๆแบบ​ Quick Launch ได้​ โดยจะมีให้้้เลือกครบทุกเมนู

System ดูรายละเอียดต่างๆของระบบ
About



และเมื่อปัดหน้าจอจากด้านล่างขึ้นบน​ จะเป็นการเรียกหน้าต่าง​ Notifications สำหรับแสดงการเเจ้งเตือนต่างๆที่้เกิดขึ้น

การรับสายและสนทนา



จุดที่อัพเกรดขึ้นมาจากรุ่นแรกอย่างโดดเด่นคือ​ การมีไมโครโฟนและลำโพงสนทนาในตัว​ ซึ่งสามารถใช้รับสายและสนทนาได้ที่ตัวนาฬิกาเลย​ โดยไม่ต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมา​ และระดับความดังของลำโพงนั้นถือว่าใช้ได้​ และมีขอบเขตการได้ยินอยู่ในรัศมีของตัวเรา ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นแรกที่ทำได้แค่เเจ้งเตือนสายโทรเข้า​ ถือว่ามีความสะดวกเพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ

แบตเตอรี่และการชาร์จ



แท่นชาร์จที่ให้มาในกล่องเป็นแบบ​ Magnet Charging​ ที่จะดูดติดกับตัวเรือนของ​ HUAWEI​ Watch​ GT​ 2 แบบอัตโนมัติ​ และชาร์จผ่าน​พอร์ต​ USB Type -​ C



แบตเตอรี่ของ​ Watch​ GT​ 2 มีขนาด​ 455 mAh​ ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหญ่​ เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ​ และ​ Huawei เคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 14 วัน และใช้งานได้ 30 ชั่วโมง​ ในโหมด GPS​ซึ่งจากที่ทดลองใช้มา​ 2 วัน​ ก็พบว่าแบตอึดพอสมควรเลยครับ​ ดังนั้นจึงน่าจะอยู่ได้ในระดับ​ 10 วันขึ้นไปตามที่​ HUAWEI​ กล่าวมา​

สรุป



Huawei Watch​ GT 2 เป็น​ Smart​Watch​ ที่มีการอัพเกรดปรับปรุงจุดต่่างๆในรุ่นแรก​ และเสริมประสิทธิภาพที่มีอยู่ให้มากยิ่งขึ้น​ และเมื่อเทียบกับแบรนด์คู่แข่งและราคาเพียง​ 6,490 บาท​ ก็ถือว่าคุ้มค่าและเป็นตัวเลือกที่ดีอันดับต้นๆในตลาดตอนนี้เลยครับ

Article By : โลกไอทีวันนี้​ 

Comments