Escobar Fold 2 สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ ของบริษัทเจ้าพ่อยาเสพย์ติด ที่ขายในราคาหมื่นต้น ที่แท้คือ Samsung Galaxy Fold ที่ติดสติ๊กเกอร์สีทองทับลงไป !!! และถ้าคุณสงสัยว่าทำไมขายถูก นั่นก็เพราะแม้คุณจะซื้อแต่มันก็จะไม่ส่งของมาให้ !!!! และถ้าใครกล้าทวงก็เชิญ !!!!!

หลายเดือนที่ผ่านมา มีการพูดถึง Escobar Fold 2 บริษัทที่อยู่เบื้องหลังการจำหน่ายสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้นี้คือตระกูล Escobar พ่อค้ายาเสพย์ติดอันดับ 1 จากประเทศโคลอมเบีย

Escobar Fold 2 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนจาก Escobar Inc. บริษัทสัญชาติโคลอมเบียที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมเดยิน ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม ปี 1984 โดยผู้ก่อตั้งก็คือ Pablo Escobar และพี่ชายของเขา Roberto de Jesús Escobar Gaviria สองพี่น้องอดีตราชายาเสพติดแห่งโคลอมเบีย

บริษัทได้ทำการส่งอุปกรณ์ให้กับ Youtubers ที่มีชื่อเสียงหลายคน ดังนั้นหลังจากพวกเขาได้รับ จึงเปิดเผยความลับของอุปกรณ์นี้ นักรีวิวหลายคนได้บอกคุณแล้วว่า กลยุทธ์ของบริษัท Escobar คือการหลอกลวงผู้ใช้โดยใช้ระบบขายตรงแบบปิรามิด อุปกรณ์ที่ประกาศนั้นเป็น Galaxy Fold ที่เห็นได้ชัดว่ามีการปรับเปลี่ยนบางอย่าง ดังนั้นราคาจำหน่ายที่ตั้งไว้ 399 USD (ประมาณ 12,560 บาท) จึงไม่สามารถเป็นไปได้เลย วันนี้เราจึงมีเรื่องมาเปิดเผยถึงความจริงของแบรนด์ Escobar กัน

Escobar Fold 2 คือ Galaxy Fold ที่ติดสติ๊กเกอร์สีทอง

https://youtu.be/O8FJSjy3bXA

Marques Brownlee เป็นหนึ่งใน Youtubers ที่ได้รับ Escobar Fold 2 และพยายามวิเคราะห์มัน วิดีโอต่อไปนี้ที่เขาเผยแพร่ทำให้เราทราบชัดเจนเกี่ยวกับกลยุทธ์ของ บริษัทที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์นี้

เรารู้แล้วว่ามันเหมือนกับ Samsung Galaxy Fold แต่ไม่ทราบว่าพวกเขาทำการเปลี่ยนแปลงในต่างประเทศได้อย่างไร เป็นที่ชัดเจนอย่างสมบูรณ์ว่า Escobar Fold 2 ถูกปกปิดด้วยสติกเกอร์เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเขา

หลังจากลอกสติ๊กเกอร์เหล่านี้ออก ก็แสดงให้เห็นถึงโลโก้ Galaxy Fold และตราแบรนด์ Samsung นอกจากนี้ยังแสดงภาพพื้นหลังที่แตกต่างออกไป แม้ว่าไอคอนจะยังคงมาจาก One UI

ผู้ใช้สามารถนำสติกเกอร์ออกจาก Escobar Fold 2 ได้อย่างง่ายดายและเปลี่ยนกลับเป็น Galaxy Fold คุณอาจคิดว่าเป็นการดีซะด้วยซ้ำ เพราะการซื้ออุปกรณ์นี้อยู่ในราคาเพียง 399 USD (ประมาณ 12,560 บาท) แต่ความจริงก็คือบริษัท Escobar จะเก็บเงินของคุณไว้และจะไม่จัดส่งอุปกรณ์ให้กับคุณ (พูดง่ายๆว่าโดนโกงนั่นแหละครับ)

Source : GizChina
Article By : โลกไอทีวันนี้