KnockOut Review : Samsung Galaxy A51 สมาร์ทโฟนที่พร้อมจะน๊อคคุณด้วยหมัดเด็ด กับกล้องหลัง 4 ตัว , 48 ล้านพิกเซล ชัดเต็มตาสว่างเต็มใจ, เลนส์ Ultra Wide ที่ถ่ายได้กว้างทุกมุมมอง , เลนส์ Macro ขยายโลกใบเล็กให้ใหญ่ขึ้นได้ , Live Focus กับหน้าชัดหลังเบลอระดับเรือธง พร้อมแบตเตอรี่ใหญ่ 4000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 15w ในราคา 10,690 บาท !



 
Samsung ได้ทำการเปิดตัวและวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy A51 มาได้ซักระยะ เพื่อสานต่อยอดขายที่ดีของรุ่นพี่อย่าง Galaxy A50 และ A50s  พร้อมมีการอัพเกรดในเรื่องของดีไซน์และสเปคตัวเครื่องมาใหม่ ให้น่าสนใจและตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น

ยิ่งในสภาวะช่วงนี้ เกิดเหตุโรคระบาดจากไวรัส COVID - 19 จนทำให้โลกต้องหยุดนิ่ง มีการกักตัวอยู่บ้าน หลายบริษัทต้องหยุดงานระยะยาว และชีวิตคนเราต้องรู้จักวิธีการใช้เงินให้รอบคอบขึ้น การที่คนเราจะซื้อสมาร์ทโฟนราคาแพงก็จะยากขึ้นเช่นกัน

แต่กระนั้นผู้ใช้ก็ยังคงต้องการสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ในระดับพึงพอใจขั้นสุดอยู่เสมอ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันกับการเป็นสมาร์ทโฟนที่ต้องถ่ายรูปได้สวยชนิดที่เอาไปอวดใน Social แล้วไม่อายเพื่อนฝูงได้

ถ้าจะมีสมาร์ทโฟนซักรุ่น ที่จะทำให้คุณได้ภาพสวยระดับเดียวกับสมาร์ทโฟนเรือธง ในราคา 1 หมื่นบาท จะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก Samsung Galaxy A51


ก่อนหน้านี้ทาง โลกไอทีวันนี้ ได้ทำการทดสอบ Blind Test กับผู้ชม โดยให้ภาพถ่ายที่ไม่ระบุว่าใช้กล้องอะไร ไปลองถามชาวโซเชี่ยลกันดู ผลปรากฎว่า 95% ส่วนใหญ่ตอบว่า ภาพถ่ายคุณภาพระดับนี้ต้องเป็นระดับเรือธงรุ่นท๊อปเป็นแน่ แต่อย่างที่ทราบ มันคือถาพถ่ายจาก Samsung Galaxy A51 

ซึ่งในวันนี้ เราจะมาเจาะลึกกันว่า Samsung Galaxy A51 มีกล้องขั้นเทพจริงหรือไม่ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ลองทบทวนรายละเอียดอื่นๆกันซักเล็กน้อยครับ




โดย Samsung Galaxy A51 มีการออกแบบใหม่ที่โดดเด่นด้วยลวดลายฝาหลังที่เป็นเอกลักษณ์ และเอฟเฟกต์โฮโลแกรมด้านหลังเครื่อง

หน้าจอยังคงใช้ Super AMOLED อันเป็นเอกสิทธิ์ของทาง Samsung และมีการอัพเกรดมาใช้งานกล้องหลัง 4 ตัว พร้อมเลนส์ Ultra Wide และ Macro ที่สวยงามลงตัว

แบตเตอรี่ให้มาใหญ่ถึง 4000 mAh บนตัวเครื่องที่บางเบา และมีระบบชาร์จเร็ว 15W ที่ทำให้การชาร์จไม่ต้องรอนาน

และรองรับบริการเต็มรูปแบบ เช่น Samsung Health , Knox (Secure Folder) และฟีเจอร์เรือธงที่มีใน Galaxy Note 10 อย่าง Link to Windows มาให้ด้วย

ถ้าให้ยกจุดขายหลักๆของ Samsung Galaxy A51 จะประกอบไปด้วย 

#AwesomeScreen หน้าจอใหญ่ชัดสะใจ

#AwesomeCamera กล้องความละเอียดสูง ได้รูปสวย เก็บทุกรายละเอียด

#AwesomeBattery แบตเตอรี่ความจุเต็มพิกัด 

สเปค Samsung Galaxy A51 

หน้าจอแบบ Infinity-O Display ชนิด Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+, รองรับระบบ Always On Display
CPU : Samsung Exynos 9611 Octa Core
GPU : Mali - G72MP3
RAM : 6 GB/8 GB
ROM : 128 GB
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ Micro SD Card
กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Rear Camera) ความละเอียด (48 ล้านพิกเซล) , f/2.0 + (12 ล้านพิกเซล) Ultra-Wide , f/2.2 + (5 ล้านพิกเซล) Macro Lens , f/2.4 + (5 ล้านพิกเซล) Depth Sensor , f/2.2 
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล , f/2.2
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
รองรับ Bluetooth 5.0
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 4000 mAh + 15W Adaptive Fast Charging
ระบบปฎิบัติการ : Android 10 + One UI 2.0
สี : Prism Crush Pink, Prism Crush Silver, Prism และ Crush Blue 
ราคา : 6 GB 10,490 บาท 8GB 10,690

Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย

 

- ตัวเครื่อง Samsung Galaxy A51 × 1 เครื่อง
- เคสใสแบบ TPU × 1 ชิ้น
- เข็มจิ้มซิมการ์ด × 1 ชิ้น
- สาย USB Type - C × 1 เส้น
- 15W Adapter × 1 ตัว
- Warranty Card & Manual × 1 ชุด

Design

 

Samsung Galaxy A51 มาพร้อมกับหน้าจอบากแบบ Infinity - O Display ขนาด 6.5 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ ชนิด Super AMOLED ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นอันดับต้นๆของทาง Samsung ด้วยความที่เป็นผู้ผลิตหน้าจออันดับ 1 ของโลก ดังนั้นคุณภาพของหน้าจอสมาร์ทโฟนจากค่ายนี้จึงไม่เป็นสองรองใครครับ หน้าจอให้ความสว่างที่ดีและสีที่สดใส , สีดำก็ดำสนิท และสู้แดดได้ค่อนข้างดี และขอบหน้าจอทั้ง 4 ด้านนั้นค่อนข้างบางมาก เมื่อเทียบกับหลายๆค่ายคู่แข่ง ทำให้โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในมาตราฐานที่ดีสุดๆครับ




ด้านหลังมาพร้อมกับดีไซน์ที่มองดูคล้ายๆกับ Hologram หรือแสง Prism ที่มีการตัดมุมแบบเลขาคณิต ให้อารมณ์โฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น สามารถเล่นกับแสงที่ตกกระทบได้อย่างสวยงาม วัสดุที่ใช้ยังคงเป็น Glossy Polycabonate หรือที่ทาง Samsung เรียกว่า Glasstic ก็คือพลาสติกเคลือบเงาให้ดูคล้ายกระจกนั่นเอง ข้อดีคือมีน้ำหนักเบาและทนทานต่อการแตกหักมากกว่ากระจก 



 
และที่สำคัญคือฝาหลังของ Galaxy A51 นั้นเรียบเนียนเพราะไม่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบปกติ แต่ย้ายไปไว้ใต้หน้าจอแทน ทำให้ความสวยงามมีมากขึ้น เมื่อรวมกับขอบโค้งมนทั้ง 4 ด้านก็ยิ่งลงตัว




การจัดวางกล้องหลังอยู่ที่ตำแหน่งมุมบนซ้าย โดยวางเรียงกันในกรอบสี่เหลี่ยม จำนวน 4 เลนส์ เป็นรูปตัว L และมีไฟแฟลช LED อยู่ด้านข้าง




ด้านขอบขวาของตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่ม Power

 

ขอบซ้ายนั้นเป็นที่อยู่ของช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot ที่สามารถใส่ซิมการ์ด 2 ใบ และ Micro SD Card ความจุสูงสุด 512 GB ได้พร้อมกัน

 

ขอบด้านล่างมี ช่องหูฟัง 3.5 mm. , พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C , ไมโครโฟนสนทนา และ ลำโพง Speaker ตามลำดับ

 

ส่วนขอบบนมีเพียง ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน อยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

มิติตัวเครื่อง 158.5 x 73.6 x 7.9 มม. และ น้ำหนัก 172 กรัม ถือว่าจับถนัดมือ ถือสะดวกใช้งานได้ด้วยมือข้างเดียว และมีน้ำหนักที่กำลังดีไม่มากเกินไป


Software & Performance




Samsung Galaxy A51 มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย One UI 2.0 ซึ่งเป็นหน้าตามาตราฐานเดียวกันทั้งค่าย ที่เน้นความเรียบหรู ใช้งานง่าย แต่ดูดี หน้าตาของไอคอนและการแจ้งเตือนก็จะมาในสไตล์ Samsung ที่ทุกคนคุ้นเคยครับ



ฟีเจอร์การใช้งานที่เพิ่มความสะดวกอย่าง Multi Windows , Pop up view ที่สร้างหน้าต่างขนาดเล็ก ก็ยังคงมีมาให้




ส่วนฟีเจอร์ Dual Messenger นั้นยังคงมีและรองรับทั้ง Facebook , Messenger และ Line เช่นเคย




ระบบ Gesture Control ที่ Samsung ให้มายังคงมีครบ และมากกว่าค่ายอื่นๆ ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของค่ายนี้ครับ



หน้าจอตั้งค่าต่างๆก็จัดวางตามสไตล์ Samsung ที่เป็นหมวดหมู่หาง่าย มาพร้อมกับ Maintainance หรือระบบการจัดการภายในตัวเครื่องที่เรียกว่า Device Care แบบม้วนเดียวจบ ไม่ต้องติดตั้งแอพภายนอกเพิ่มเติม




ฟีเจอร์ระดับสูงที่อยู่ในรุ่นเรือธงอย่าง Links to Windows ก็มีมาให้ คือความสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับพีซีที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows โดยไม่ต้องต่อสายใดๆ และทำให้เชื่อมต่อข้อมูลและความเคลื่อนไหวในสมาร์ทโฟนเข้าไปยัง PC ได้ ทั้งรูปภาพ(25 ภาพถ่ายล่าสุดด้วยกล้อง) , ข้อความ และการแจ้งเตือน




ด้านสเปคของหน่วยประมวลผล มาพร้อมชิปเซ็ต Samsung Exynos 9611 Octa Core , ขนาด 10 นาโนเมตร (Quad 1.7 GHz + Quad 2.3 GHz) และ GPU  Mali - G72MP3 โดยมี RAM 6 GB(รุ่นใหม่ 8 GB) และ ROM 128 GB 



ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม GeekBench ออกมาได้ คะแนน ซึ่งถือว่าค่อนสมดุล ไม่ได้สูงมากนัก แต่ว่าคะแนนทดสอบนั้นไม่ใช่ทุกสิ่ง เมื่อลองใช้งานจริงกลับพบว่า ค่อนข้างสวนทางกับคะแนนที่ได้

การใช้งานจริงในแบบทั่วไปนั้นลื่นไหวพอสมควร เนื่องด้วย One UI ของ Samsung ที่ค่อนข้างเสถียร โดยรวมแล้วในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งเปิด Social แอพต่างๆ หรือจะดู YouTube ก็ไม่ติดขัดใดๆครับ




ที่สำคัญคือ Samsung Galaxy A51 รองรับ Widevine L1 Certificate นั่นหมายความว่าคุณสามารถรับชม Netflix ได้ที่ความละเอียดระดับ HD ซึ่งตรงนี้หลายๆรุ่นของค่ายอื่น ที่มีราคาแพงกว่านี้บางรุ่นยังไม่รองรับเลยด้วยซ้ำ


Gaming




Samsung Galaxy A51 นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ Game booster สำหรับปรับทรัพยากรของระบบให้ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมส์



โดยทดลองเล่น PUBG mobile พบว่าสามารถตั้งค่ากราฟฟิคสูงสุดได้ที่ระดับ Balanced และเฟรมเรทระดับ High ในการเล่นจริงจะมีหน่วงๆบ้างเป็นบางจังหวะ แต่ก็ให้ประสบการณ์ที่ดีด้วยหน้าจอขนาดใหญ่แบบ Infinity O Display และ Super AMOLED สีสันสดใส


GPS




จับสัญญาณได้ยอดเยี่ยมมาก ได้ระดับ SNR สูง , ค่า Accuracy แม่นยำ +- 2 การใช้งานจริงพบว่าทำได้ดี มีการระบุตำแหน่งที่แม่นยำและรวดเร็วครับ


Sound




รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ยามที่เสียบหูฟัง สามารถปรับแต่งเสียงได้หลายรูปแบบ ส่วนการฟังผ่าน Speaker นั้นเป็นลำโพงเดี่ยวแบบ Mono อยู่ที่บริเวณขอบล่าง ในแง่ของระดับเสียงมีความดังชัด แต่โทนเสียงนั้นจะติดไปในโทนแหลมซะเยอะครับ สายบันเทิงอาจไม่ค่อยถูกใจนัก


ระบบความปลอดภัย




มาพร้อมกับเซนเซอร์สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical ที่ค่อนข้างแม่นยำ มีสแกนติดยากบ้างในบางจังหวะ ความเร็วในการสแกนช้ากว่าพวกรุ่นสูงๆ แต่ก็ถือว่าสอบผ่านครับ และแน่นอนว่ามีระบบสแกนใบหน้ามาให้ด้วย

Camera 

ระบบกล้องประกอบด้วย




- กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล , f/2.0 , Auto Focus , ขนาดเซนเซอร์ 1/2"

- Ultra Wide Lens (เลนส์อัลตร้าไวด์) 123 องศา , ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล , f/2.2

- Macro Lens (เลนส์มาโคร) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล , f/2.4

- Depth Sensors (เลนส์วัดระยะ) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล , f/2.2

- รองรับ Scene Optimizer , Live Focus และ การถ่ายวิดีโอ SlowMotion , ถ่ายวิดีโอ 4K , รองรับ Super Steady 

- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล , f/2.0


โดยจุดเด่นของรุ่นนี้บอกแต่แรกแล้วว่าคือ "กล้อง" ซึ่งทุกเลนส์นั้นสามารถถ่ายออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

เลนส์หลัก ความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล ด้วยขนาดเซนเซอร์ที่ใหญ่ถึง 1/2" ทำให้การเปิดรับแสงทำได้ดีกว่าเซนเซอร์ทั่วไปค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดภาพได้ดี 

กล้องมุมกว้าง หรือ Ultra Wide ที่กว้างมากถึง 123 องศา ซึ่งมากเกือบที่สุดในสมาร์ทโฟนปัจจุบัน ภายใต้สภาวะแสงกลางแจ้งถือว่าทำออกมาได้ดีมาก , แสงน้อยอาจดูดรอปลงนิดหน่อย  ตัวภาพมีอาการ Distort ตามสไตล์กล้องไวด์ แต่ ณ จุดนี้ต้องยอมรับว่าภาพถ่ายมุมกว้างแบบนี้ กิน Samsung ได้ยากจริงๆครับ องค์ประกอบของภาพสวยงามครบสมบูรณ์มากๆ

ไฮไลท์เด็ดที่ทางเราถือเป็นหมัดน๊อคเอาท์คือ การถ่าย Live Focus หรือหน้าชัดหลังเบลอ ที่ทำออกมาได้ดีมาก จนเกินหน้าเกินตาสมาร์ทโฟนเรือธงหลายๆรุ่น หนึ่งคือระบบการเบลอที่ใช้งานง่าย เพียงแค่หาระยะระหว่างบุคคลกับกล้องให้พอดีกัน ภาพที่ได้ออกมานั้นสมบูรณ์แบบ ในแง่ของการตัดขอบระหว่างบุคคลและฉากหลัง เป็นไปอย่างธรรมชาติ ไม่ดูประดิษฐ์จนเกินไป , Dynamic และ Contrast ของภาพลงตัว ที่สำคัญเรายังสามารถปรับระดับการเบลอฉากหลังได้ แม้จะถ่ายเสร็จไปแล้ว และเปลี่ยน Effect การเบลอได้ถึง 4 รูปแบบ คือ Blur , Spin , Zoom และ Color Point

เลนส์ Macro ด้วยความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถือว่ามากที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟน พร้อมระยะการถ่าย 3 - 5 cm. ทำให้ค่อนข้างยืดหยุ่นและถ่ายง่าย

โทนของภาพที่ได้ทั้งหมดอยู่ในโทน Nature ตามสภาวะจริงที่ตาเราเห็น จะไม่ VIVID จัดจ้านมากเกินไป

ส่วนโหมด Pro ปรับได้แค่ 3 ตัวคือ ISO , White Balance และ EV Brightness

มี Night Mode ทำให้ถ่ายภาพในเวลากลางคืนได้


ตัวอย่างภาพถ่ายเลนส์หลัก




ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Wide




ตัวอย่างภาพถ่าย Live Focus




ตัวอย่างภาพถ่าย Macro
 



ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล แบบ Fixed Focus มาพร้อมฟีเจอร์ AR sticker และ Beauty mode 3 ระดับ สามารถถ่าย Live focus โดยอาศัยซอฟแวร์ได้


ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
 



Battery




มาพร้อมความจุถึง 4000 mAh ซึ่งเมื่อเทียบกับฮาร์ดแวร์ที่ลงตัว ยิ่งทำให้อึดเป็นพิเศษ สามารถใช้งานข้ามวันได้แบบสบายๆ ดูคลิปต่อเนื่องได้ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับระบบ Fast Charge 15W ที่สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 100 นาที อีกด้วย

สรุป




Samsung Galaxy A51 ความคุ้มค่าในราคา 10,490 และ 10,690 บาท เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับไลฟ์สไตล์สบายๆ ภายใต้สภาวะการใช้เงินอย่างรอบคอบ แต่อยากออกนอกกรอบขีดจำกัดของการถ่ายภาพ ชนิดไม่อายใคร ด้วยคุณสมบัติโดดเด่น 3 ประการ

จอสวยคมตามแบบฉบับ Super AMOLED ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย

กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Rear Camera) ที่มาพร้อมเลนส์ Ultra wide สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง 123 องศา เก็บได้ครบทุกรายละเอียดที่ต้องการ , Macro Lens สำหรับเปิดโลกใบใหม่ และ Depth Camera สำหรับการถ่ายภาพ Live Focus ที่แม่นยำสวยงาม

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000 mAh พร้อมระบบ 15W Fast Charging ที่ชาร์จไวทันใจ



แน่นอนว่าเครื่องดีๆแบบนี้ Accesseries ก็เก๋ไก๋เช่นกัน กับเคสกันกระแทกของแท้ หลากสไตล์ ทั้งแบบ Silicone สี , เคสเนื้อแข็งไล่เฉดสี ดูดีไปหมด สามารถเลือกซื้อหาได้ที่เว็บไซต์ Samsung Online Store กันได้เลย


Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments