iPhone 12 Series จะรองรับ 5G แต่คำถามคือ "รองรับ 5G แบบไหน?" พร้อมทำความเข้าใจและรู้จักกับเทคโนโลยี 5G ขั้นพื้นฐานได้ในโพสนี้ !!!

ในอีก 3 เดือนนับจากนี้ Apple เตรียมที่จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆ Apple กำลังรอให้ 5G ปรากฏบนไอโฟน ในความเป็นจริงเราได้ยินมาว่า iPhone 12 จะรองรับเทคโนโลยี 5G  แต่เทคโนโลยี 5G นั้นจะถูกใช้งานอย่างไร?  ขณะนี้ไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง  นอกจากนี้รายงานใหม่จาก Supply Chain ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างสมบูรณ์  แต่มันก็เผยให้เห็นความเป็นไปได้เล็กน้อยที่ iPhones จะไม่ใช้มาตรฐานเครือข่าย 5G เดียวกัน

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลัก 5G สองตัวเรียกว่า Sub-6 และ mmWave ความถี่ทั้งสองถูกใช้โดยสัญญาณ 5G  ใน Sub-6 ใช้คลื่นความถี่ต่ำและกลางที่ต่ำกว่า 6GHz และ mmWave ใช้คลื่นความถี่สูงจาก 24GHz ถึง 39GHz

ในอดีต Sub-6 ถือว่าเป็นเทคโนโลยีการเปลี่ยนผ่านซึ่งให้ความเร็วที่เร็วกว่า 4G LTE และสามารถลด Waiting Time อีกทั้งไม่ต้องใช้สถานีฐานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่มีความหนาแน่นสูง เราหมายถึงสามารถใช้อุปกรณ์สถานีฐาน 4G ที่มีอยู่เดิมได้  ดังนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่จะสามารถใช้ความเร็วที่ 100-150 Mbps

แต่ mmWave เป็นมาตรฐานที่เร็วขึ้น ในทางทฤษฎีมีความเร็วประมาณ 500 Mbps  อย่างไรก็ตามความยาวคลื่นของมันสั้นมาก  ดังนั้นจึงมีความไวต่อสัญญาณรบกวน ซึ่งต้องการความหนาแน่นของสถานีฐานที่มากขึ้น  หมายความว่าจะให้บริการเฉพาะในพื้นที่จำกัด เช่น สนามบิน , สถานีขนส่งขนาดใหญ่ , สนามกีฬา และสถานที่ท่องเที่ยว

สถานการณ์ของทั้งสองนั้นคล้ายคลึงกับ 2.4GHz และ 5GHz ของเราเตอร์ในบ้าน แม้ว่าสัญญาณ 5GHz จะแข็งแกร่ง แต่ในคลื่น 2.4 GHz มีความสามารถในการเจาะทะลุกำแพงได้ดีกว่า

Apple จะแยกเทคโนโลยี 5G บน iPhone 12 อย่างไร

ก่อนหน้านี้ Digitimes รายงานว่า Supply Chain ของ Apple คาดว่าการจัดส่งไอโฟน 5G mmWave ในปีนี้จะลดลงครึ่งหนึ่งจากประมาณการเดิม

บางคนคาดการณ์ว่า Apple จะให้การสนับสนุน 5G ที่แตกต่างกันตามการจำแนกประเภทผลิตภัณฑ์  ตัวอย่างเช่นรุ่นต่ำสุดรองรับ Sub-6 เท่านั้น ในขณะที่รุ่นไฮเอนด์รองรับทั้งสองแบบ  นอกจากนี้ยังมีการคาดเดาว่า Apple จะแยกรุ่นเครือข่าย 5G ที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ

ข้อมูลปัจจุบันไม่ได้บอกเราว่า iPhone รุ่นใดที่สามารถใช้คลื่น 5G ได้ แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่คิดว่า iPhone บางรุ่นไม่สามารถรองรับคลื่น mmWave ได้

Source : GizChina

Article By : โลกไอทีวันนี้