รวมสมาร์ทโฟนรุ่นเด่นยอดนิยม TOP 3 ในงบไม่เกิน 9,000 บาท !!!!



หากท่านใดที่กำลังสนใจจะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนซักหนึ่งเครื่องในช่วงเวลานี้จะเห็นได้ว่า กลุ่มสมาร์ทโฟนในระดับกลาง (Mid - Range) ที่มีราคาอยู่ในเกณฑ์จับต้องได้นั้นมีให้เลือกสรรกันค่อนข้างมาก ทั้งนี้เป็นเพราะแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ ทโฟนส่วนใหญ่เริ่มหันมาเจาะตลาดกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป โดยเน้นการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีราคาวางจำหน่ายไม่สูงมาก และมีคุณสมบัติตัวเครื่องที่ครอบคุลมทุกการใช้งานเป็นหลัก ส่งผลให้ในปัจจุบันมีมือถือระดับกลางนั้นมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันออกไป

สมาร์ทโฟนระดับกลางในปัจจุบันส่วนใหญ่ มาพร้อมจุดเด่น เช่น หน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมหน่วยความจำ RAM และ ROM ที่สูงขึ้น , ระบบกล้องหลังที่มีเลนส์หลากหลายประเภท และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) รูปแบบต่างๆ ซึ่งคุณสมบัติข้างต้นที่กล่าวมานี้ มีอยู่ในราคาหลักพันเท่านั้น 




วันนี้ทาง โลกไอทีวันนี้ จึงได้ทำการคัดเลือกสมาร์ทโฟน TOP 3 ที่มีสเปกครบครันในราคาไม่เกิน 9,000 บาท (อัพเดทล่าสุด ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2020) มาให้ทุกท่านได้รับชมกัน


สเปค Samsung Galaxy A31 



หน้าจอแบบ Infinity-U Display ชนิด Super Amoled ขนาด 6.4 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+, รองรับระบบ Always On Display
CPU : MediaTek Helio P65 Octa Core
GPU : Mali - G52MP3
RAM : 4 GB/6 GB ชนิด LPDDR4X
ROM : 128 GB ชนิด UFS 2.1
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 4G + Dual VoLTE
รองรับ Micro SD Card สูงสุด 512 GB
กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Rear Camera) ความละเอียด (48 ล้านพิกเซล) , f/2.0 + (8 ล้านพิกเซล) Ultra-Wide 123 องศา , f/2.2 + (5 ล้านพิกเซล) Macro Lens , f/2.4 + (5 ล้านพิกเซล) Depth Sensor , f/2.4 
กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล , f/2.0
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
รองรับ Bluetooth 5.0/NFC
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mAh + 15W Adaptive Fast Charging
ระบบปฎิบัติการ : Android 10 + One UI 2.0
สี : Prism Crush Blue , Prism Crush Black และ Crush White 
ราคา : 7,999 บาท (RAM 4 GB) และ 8,999 บาท (RAM 6 GB)


สเปค​ OPPO - A92

หน้าจอเจาะรูแบบ​ Neo Display ขนาด​ 6.5 นิ้ว​, ความละเอียด Full HD+, รองรับ​ Sunlight Screen และ​ Blue Light Filter 
CPU : Qualcomm Snapdragon 665
GPU : Adreno 610
RAM : 8 GB ชนิด​ LPDDR4X
ROM​ : 128 GB ชนิด​ UFS 2.1
รองรับ​ 2 Sim Cards แบบ​ Triple Slot
รองรับ​ Micro SD Card สูงสุด​ 256 GB
กล้องหลัง​ 4 ตัว​ (Quad Rear Camera) ความละเอียด​ 48 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล​, f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 , รองรับ​ Ultra Wide Lens 119 องศา​
รองรับ​ Ultra Night Mode 2.0
กล้องหน้าความละเอียด​ 16​ ล้านพิกเซล​, f/2.0 + ระบบ​ AI​Beauty​
รองรับลำโพงคู่แบบ​ Stereo + ระบบเสียง​ Dolby Atmos
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power
รองรับ​ Bluetooth 5.0
รองรับช่องหูฟัง​ 3.5 mm.
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ​ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ​ : 5000 mAh​ + 18W Fast Charging
ระบบปฎิบัติการ​ : Android 10 + Color​OS​ 7.0
สี​ : Shining White และ​ Twilight Black
ราคา : 8,990 บาท

สเปค​ Vivo - Y50


หน้าจอเจาะรูแบบ​ Ultra O Screen Display ขนาด​ 6.53 นิ้ว​, ความละเอียด Full HD+
CPU : Qualcomm Snapdragon 665
GPU : Adreno 610
RAM : 8 GB ชนิด​ LPDDR4X
ROM​ : 128 GB ชนิด​ UFS 2.1
รองรับ​ 2 Sim Cards แบบ​ Triple Slot
รองรับ​ Micro SD Card สูงสุด​ 256 GB
กล้องหลัง​ 4 ตัว​ (Quad Rear Camera) ความละเอียด​ 13 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล​, f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 , รองรับ​ Ultra Wide Lens , Macro และ Depth Sensor 
กล้องหน้าความละเอียด​ 16​ ล้านพิกเซล​, f/2.0 + ระบบ​ AI​Beauty​
รองรับลำโพงเดี่ยว
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง
รองรับ​ Bluetooth 5.0
รองรับช่องหูฟัง​ 3.5 mm.
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ​ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ​ : 5000 mAh​ + 18W Fast Charging
ระบบปฎิบัติการ​ : Android 10 + FunTouch OS​ 10.0
สี​ : Glacier Blue, Streamer Silver และ Obsidian Black
ราคา : 7,999 บาท

จุดเด่นร่วมกัน




สมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ เกิน 6.3 นิ้ว ทุกรุ่น ทำให้มีการแสดงผลที่เต็มตาไม่แตกต่างกันมากนัก และยังมีแบตเตอรี่เท่ากันทั้งหมดที่ 5000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่จัดว่าสูสีคู่คี่กันเลยทีเดียวครับ

จุดที่แตกต่างกัน


OPPO A92, Samsung Galaxy A31 และ​Vivo​ Y50


Samsung Galaxy A31 จะมาพร้อมกับพาแนลหน้าจอแบบ Super Amoled ที่เป็นจุดขายของทางค่ายด้วยสีสันสดใสสมจริง ในขณะที่ OPPO - A92 และ Vivo Y50 จะมาพร้อมกับพาแนลแบบ IPS LCD ที่จะทำให้เสียเปรียบกว่าเล็กน้อย

หน่วยประมวลผล




OPPO A92 และ Vivo Y50 ใช้ชิปเซ็ตเดียวกันคือ Qualcomm Snapdragon 665 ในขณะที่ Samsung Galaxy A31 นั้นใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio P65 ซึ่งเอาจริงๆแล้ว ประสิทธิภาพด้านการประมวลนั้นจัดว่าเป็นชิปประมวลผลในระดับกลาง ที่ค่อนข้างไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ถ้าอ้างอิงตามผลทดสอบของโปรแกรม Antutu Benchmark จะพบว่า Helio P65 จะมีคะแนนทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่า Snapdragon 665 อยู่ 28% 




หน่วยความจำ

ทั้ง 3 รุ่น มีหน่วยความจำภายใน (ROM) ให้มาเท่ากันที่ 128 GB และ รองรับการเพิ่ม Micro SD Card ได้ แต่ Samsung Galaxy A31 จะได้เปรียบกว่าตรงที่เพิ่มได้สูงสุด 512 GB ในขณะที่ OPPO และ Vivo เพิ่มได้สูงสุด 256 GB

ระบบกล้อง




ทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว เหมือนกัน แต่ให้ความละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้

Samsung Galaxy A31

กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล , f/2.0
กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล , f/2.2
กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล , f/2.4
กล้อง Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล , f/2.4

OPPO A92

กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล , f/1.7
กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล , f/2.2
กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล , f/2.4
กล้อง Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล , f/2.4

Vivo Y50

กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล , f/2.2
กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล , f/2.2
กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล , f/2.4
กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล , f/2.4




ในบรรดาชุดเลนส์ทั้งหมดนี้ จุดร่วมกันคือการมี เลนส์ Macro และ Depth Sensor แต่ Samsung Galaxy A31 ค่อนข้างโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น เพราะมีความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซล ในขณะที่อีกสองรุ่นจะมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนเลนส์ Ultra Wide มีความละเอียดเท่ากันหมดที่ 8 ล้านพิกเซล และ เลนส์หลัก Samsung Galaxy A31 กับ OPPO A92 มีความละเอียดเท่ากันที่ 48 ล้านพิกเซล ส่วน Vivo Y50 จะน้อยที่สุดที่ 13 ล้านพิกเซล




ส่วนกล้องหน้า Samsung Galaxy A31 ยังคงให้มามากที่สุด ที่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และยังมีฟีเจอร์เรือธงอย่าง  AR Doodle แถมมาให้เล่นด้วย ในขณะที่ OPPO A92 และ Vivo Y50 จะมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

ระบบสแกนลายนิ้วมือ




Samsung Galaxy A31 นั้นใจป้ำสุด โดยให้มาเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ แบบ Optical ในขณะที่ OPPO A92 ให้สแกนนิ้วแบบ Capasitive มาที่ปุ่ม Power และ Vivo Y50 ให้มาที่ด้านหลังตัวเครื่องแบบ Capasitive เช่นกัน จุดนี้ข้อดีของสแกนนิ้วใต้หน้าจอคือตัวเครื่องจะเรียบเนียนสวยกว่า ไม่มีอะไรมาเกะกะที่ฝาหลัง หรือ ขอบเครื่องที่ต้องมีปุ่ม Power หนาขึ้น 

แบตเตอรี่




ให้มาเท่ากันหมดทั้ง 3 รุ่น ที่ความจุ 5000 mAh แต่ OPPO A92 และ Vivo Y50 นั้นรองรับระบบชาร์จเร็วเท่ากันที่ 18W ในขณะที่ Samsung Galaxy A31 รองรับที่ 15W แต่โดยรวมอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

สรุป 




สมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่น จัดเป็น TOP 3 ของสมาร์ทโฟนขายดีในกลุ่มราคาไม่เกิน 9 พันบาท แน่นอนว่ามีอะไรหลายๆอย่างๆที่คล้ายกัน และก็มีอะไรหลายๆอย่างที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ทางเราจึงได้แต่นำเสนอมาให้อ่านกันเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจเลือกสมาร์ทโฟนที่ใช่สำหรับคุณในวันนี้ครับ ^^

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments