เปิดตัว F(x)tec - Pro1-X สมาร์ทโฟนจาก XDA ที่มาพร้อมระบบปฎิบัติการ 3 ตัว ในเครื่องเดียว รุ่นแรกของโลก พร้อม QWERTY Keyboard แบบสไลด์ !!!!

แม้ในปัจจุบันคือยุคของหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ สมาร์ทโฟนที่มีแป้นพิมพ์จริงๆก็สามารถขายได้ดี สาเหตุส่วนใหญ่มาจากความยุ่งยากในการพิมพ์งานเวลาเร่งด่วน 

F(x)tec ซึ่งเป็นบริษัทในลอนดอนได้ร่วมมือกับ XDA เพื่อเปิดตัวสมาร์ทโฟน Pro1-X  สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มีความพิเศษ คือ มาพร้อม คีย์บอร์ด Qwerty และ ระบบปฎิบัติการ Ubuntu

คุณอาจไม่เคยได้ยิน F(x)tec แต่นี่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนเครื่องแรกของพวกเขา  ในความเป็นจริงบริษัทได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มีชื่อว่า Pro1 เมื่อปีที่แล้ว  F(x)tec Pro1 ยังมาพร้อมกับแป้นพิมพ์จริงสำหรับแฟนๆ QWERTY ทุกคน และใช้ระบบปฏิบัติการ Android แต่นั่นไม่ใช่กรณีของ Pro1-X รุ่นใหม่ ตอนนี้บริษัทได้เปลี่ยนไปใช้ LineageOS , Ubuntu Touch OS และยังมี Android ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกสำหรับผู้บริโภคที่มาพร้อมสามระบบปฎิบัติการ

ด้วยอุปกรณ์นี้ คุณจะไม่ได้รับคุณลักษณะที่กำลังเป็นที่นิยมทั้งหมดในแง่ของฮาร์ดแวร์หรือการออกแบบ  ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์มาพร้อมกับขอบหนาทั้งด้านบนและด้านล่างแทนการออกแบบหน้าจอเจาะรู , แทนที่จะเป็นโมดูลกล้องหลังสี่ตัว อุปกรณ์จะมาพร้อมกล้องสองตัว ในทางกลับกัน  คุณจะพบโลโก้ของ LineageOS หรือ Ubuntu Touch OS ที่ด้านหลัง  ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้จุดขายที่สำคัญของอุปกรณ์นี้คือแป้นพิมพ์ 64 คีย์แบบสไลด์ออก

รายละเอียดคุณสมบัติ

F(x)tec Pro1-X มาพร้อมกับจอแสดงผล AMOLED ขนาด 5.99 นิ้ว ที่มีความละเอียด Full HD+ และขอบโค้ง , ทำงานบนชิปเซ็ต Snapdragon 835 รุ่นเก่า ที่จับคู่กับ RAM LPDDR4X สูงสุด 8GB และ ROM UFS 2.1 ขนาด 256GB มีโมดูลกล้องคู่ที่ด้านหลังพร้อมเซ็นเซอร์หลัก 12 ล้านพิกเซล และเลนส์รอง 5 ล้านพิกเซล มีกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล 

แบตเตอรี่ขนาดเล็ก 3200 mAh ที่รองรับเทคโนโลยี Qualcomm Quick Charge 3.0  สมาร์ทโฟนมีซอฟต์แวร์สามตัวเลือก ได้แก่ LineageOS, Ubuntu Touch OS และ Android 9.0 Pie

F(x)tec กล่าวว่ามีแผนที่จะเริ่มจัดส่งอุปกรณ์ก่อนวันคริสต์มาส ในไตรมาสที่ 1 ปี 2021 แคมเปญระดมทุน Indiegogo พร้อมแล้ว และมีราคาเริ่มต้นที่ 500 USD (ประมาณ 15,630 บาท) สำหรับรุ่น "Pro1 X Super Early Bird 256GB" อย่างไรก็ตามราคาขายปลีกจริงตั้งไว้ที่ 900 USD (ประมาณ 28,130 บาท)

Source : GizChina

Article By : โลกไอทีวันนี้