#FullReview : Vivo V20 Pro 5G กล้องหน้าคู่ขั้นเทพ​ระดับโปร ​!!! มาพร้อมหน้าจอ​ AMOLED, ชิปเซ็ต​ Snapdragon 765G , กล้องหลัง​ 3 ตัว​ และ​ แบตเตอรี่​ 4000 mAh + Vivo Flash Charge 2.0 !!!!


Vivo​ V20​ Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟน​ 5G​ ที่บางที่สุด โดยมีความบาง​เพียง​ 7.39 mm. ครอบทับด้วยกระจก​ AG Glass พร้อมกับไฮไลค์แสนโดดเด่นที่ กล้องหน้าคู่​ 44 ล้านพิกเซล มี Eye Focus ซึ่งมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้

- เซนเซอร์หลัก​ Samsu​ng​ GH1, ความละเอียด​ 44 ล้านพิกเซล​, ขนาดเซนเซอร์​ 1/2.65 นิ้ว

- รองรับระบบ​ Auto​Focus​ แบบ​ PDAF ด้วยความเร็วเพียง​ 0.01 วินาที

- เลนส์รอง​ Ultra​ Wide ความละเอียด​ 8​ ล้านพิกเซล, มุมกว้าง​ 105 องศา

- รองรับ​ Eye AutoFocus

- รองรับ​ Super Night Selfies

- รองรับการถ่ายวิดีโอ​ 4K

- รองรับ​ VDO Slow - Mo 240fps

- รองรับ​ HDR Double Exposure

แค่ฟังก็น่าตื่นเต้นแล้วกับฟีเจอร์กล้องหน้าจัดเต็มขนาดนี้ เรียกได้ว่าเป็นหมัดเด็ดเลยทีเดียว เราลองไปเริ่มดูกันครับ ว่ามีอะไรบ้าง

Unboxing


กล่องของ​ Vivo​ V20 Pro มีทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โทนสีน้ำเงินเข้ม​ พร้อมด้วย​ Texture กล่องแบบสะท้อนแสงเป็นรูปตัวอักษร​ V ขนาดใหญ่​

ภายในกล่องประกอบด้วย



- ตัวเครื่อง​ Vivo​ V20 Pro​ 5G​
- Adapter Vivo Flash Charge 2.0
- สาย USB Type - C
- หูฟัง​ 3.5 mm.
- Adapter 3.5 to Type C 
- เคสซิลิโคน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน

สเปค Vivo V20 Pro 5G

หน้าจอชนิด Amoled ขนาด 6.44 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , อัตราส่วน 20 : 9, Refresh Rate 60 Hz
CPU : Qualcomm Snapdragon 765G
RAM : 8 GB
ROM : 128 GB
รองรับ 2 Sim Cards 
*ไม่รองรับ Micro SD Card
รองรับ 5G SA/NSA (รองรับ​ AIS และ​ TrueMove​ H)​
กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 64 + 8 + 2 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์ Samsung GW1 , f/1.89 + f/2.2 + f/2.4 , รองรับ Ultra Wide 120 องศา 
กล้องหน้าคู่ความละเอียด 44 + 8 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์​ Samsung GH1, รองรับ Auto Focus แบบ​ PDAF และ Ultra Wide Angle Lens มุมกว้าง​ 116 องศา , f/2.0 + f/2.2
ระบบไมค์​ 3 ตัว​ (3D Sound Tracking) 
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
รองรับ NFC/Bluetooth 5.1
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C 
แบตเตอรี่ความจุ : 4000 mAh + 33W Vivo Flash Charge
ระบบปฎิบัติการ : Android 10 + FunTouchOS 11
สี : Sunset Melody, Midnight Jazz และ Moonlight Sonata
น้ำหนัก​ : 170 กรัม
หนา​ : 7.39 มม.

Design


การออกแบบของ Vivo​ V20 Pro​ 5G​ ในตัวเครื่องสี​ Midnight Jazz ได้รับการสร้างและการตกแต่งอย่างสวยงาม​ 



ซึ่งทาง​ Vivo​ เวลาจะดีไซน์สมาร์ทโฟนนั้นจะเน้นว่าเทคโนโลยีต้องควบคู่ไปกับศิลปะแห่งการออกแบบและความงาม​ ทุกอย่างต้องพิถีพิถันและลงตัว​หมด​ โดยนิยามของสี Midnight Jazz ที่ทาง Vivo ให้นิยามไว้คือ

"ความลึกลับแห่งสีดำ ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง แสดงถึงความสงบและความมั่นใจ"



Vivo V20 Pro 5G มีขนาด 158.82 x 74.2 x 7.39 มม. และ น้ำหนัก 170 กรัม ซึ่งหมายความว่าตัวเครื่องนั้น เล็ก​ บาง​ และ​เบา​ เอามากๆ ถือมือเดียวแบบสบายๆเลย



ปุ่ม Power อยู่ทางด้านขอบขวา ตำแหน่งการวางจะอยู่พอดีนิ้วหัวแม่มืออย่างดี และปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่เหนือขึ้นไป



ขอบด้านบนติดตั้งไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง



ในขณะที่ขอบด้านล่าง​ คุณจะพบพอร์ต USB Type - C บริเวณตรงกลาง​ พร้อมไมค์สนทนา​ ขนาบข้างด้วยลำโพง และ ถาดซิมการ์ดแบบ Nano คู่ และไม่มีช่องเสียบหูฟัง​ 3.5​ mm.​



ที่ด้านหลังจะพบโมดูลกล้องขนาดใหญ่ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางแนวตั้ง ซึ่งมีกล้อง​ 3 ตัว โดยกรอบโมดูลยกขึ้นเพียง 2 - 3 มิลลิเมตร แบบขั้นบันได จากฝาหลังของเครื่อง ซึ่งทาง Vivo เรียกดีไซน์นี้ว่า Dual Tone Step ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ในปีนี้ครับ



โดยภาพรวมของการออกแบบ Vivo​ V20 Pro​ 5G นั้นทำออกมาได้สวยงาม เมื่อสัมผัสแล้วรู้สึกได้ถึงงานประกอบที่แข็งแรงแน่นหนา

หน้าจอ​ (Display) 


Vivo V20 Pro 5G มีหน้าจอ Amoled​ ขนาด​ 6.44 นิ้ว​, ความละเอียด​ Full​ HD+ , รองรับ​ HDR10 และ ให้ความสว่างสูงสุด 600 nits 



หน้าจอนั้นใหญ่เต็มตาและมีขอบค่อนข้างบาง โดยมีรอยบากที่กึ่งกลางซึ่งเป็นที่อยู่ของกล้องหน้าคู่ ความละเอียด 44 + 8 ล้านพิกเซล และเหนือขึ้นไปเป็นลำโพงสนทนา

โดยจอแสดงผลสว่างและมีความคมชัดสูงมาก ในแง่การใช้งานกลางแจ้งสามารถสู้แสงได้ดีตามสไตล์ Amoled 

Software


Vivo V20 Pro 5G มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ​ Android​ 10 ภายใต้ FunTouch OS​ 11 เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งเป็น​ UI อันโด่งดังของทางค่าย​ ที่มีหน้าตาสวยงามและใช้งานไม่ยุ่งยาก โดยหน้าตา Home screen , AppDrawer นั้นค่อนข้างจะเรียบง่าย 




เมื่อปัดไปทางซ้ายจะมีหน้า Google​DashBoard ที่แสดงข้อมูลต่างๆที่สำคัญ เช่น พยากรณ์อากาศ , บันทึกโน๊ต , แอพที่เรียกใช้ประจำ เป็นต้น​ และยังสามารถสลับใช้งานกับ​ Jovi Dashboard ของทางค่ายได้ด้วย​ วิธีการง่ายมากๆ​ แค่กดปุ่มขวาบนเท่านั้น





ระบบควบคุมมีทั้งแบบ​ Navigation Bar หรือสามารถปรับไปใช้​ Gesture Control ก็ได้




อีกทั้งยังรองรับระบบ​ Always​ On​ Display ที่ปรับแต่งได้ยืดหยุ่นหลากหลาย​ รวมไปถึง Theme Store ที่เลือกดาวน์โหลดปรับแต่ง Wallpapers , Fonts และ Theme ได้มากมายเช่นกัน

Hardware & Performance


Vivo V20 Pro 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต​ Snapdragon​ 765G แบบ Octa Core ที่ถือว่าเป็นชิปเซ็ตที่ดีที่สุดในกลุ่ม High Mid Range ของสมาร์ทโฟน Android ณ เวลานี้แล้ว ด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับ​ 7 นาโนเมตร และ​ GPU Adreno 620  โดยได้รับการปรับปรุง​ CPU​ ให้เร็วขึ้น 10%, GPU​ ให้เร็วขึ้น 40% ลดการใช้พลังงานลง 35% และมีประสิทธิภาพด้าน AI เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับชิปเซ็ต​ Snapdragon 730 




อีกทั้งมาพร้อม​ RAM 8 GB​ และ​ ROM​ 128 GB​ 




ทำให้ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Geekbench ทำคะแนนในโหมด Multi Core ได้ 1963 คะแนน และ Single Core ได้​ 632 คะแนน


ทดสอบ Widevine ได้ L1 สามารถดู NETFLIX รองรับสูงสุดที่ระดับ HD ครับ

Gaming



สำหรับประสบการณ์ในการเล่นเกมส์ด้วย​ Vivo​ V20 Pro​ 5G​ นั้นทำได้ดี จากการทดสอบด้วย PUBG Mobile นั้นพบว่าสามารถปรับกราฟฟิคเกมส์ได้ในระดับสูงสุดทั้งหมด 



และสามารถเล่นได้ต่อเนื่องโดยที่ไม่มีอาการกระตุก พร้อมด้วยการสนับสนุนจากระบบ Multi - Turbo ใหม่ ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้เหมาะสำหรับการเล่นเกมอย่างแท้จริง​




โดยมี Game Acceleration Engine สำหรับเร่งประสิทธิภาพ , โหมดห้ามรบกวน เพื่อช่วยปฏิเสธสายเรียกเข้า และการแจ้งเตือนอื่นๆไม่ให้รบกวนในระหว่างเล่นเกมด้วย

Sound System

ลำโพง Speaker​ จะเป็นแบบ​ Mono แต่ยังให้ความดังทุ้มมีมิติ​ เปิดดังสุดไม่แตก​ 

การเชื่อมต่อ​ 5G


Vivo V20 Pro สามารถใช้งาน​ 5G ได้ทันทีที่แกะกล่อง​ โดยมาพร้อมโมเด็ม Snapdragon X52 ที่ปรับแต่งพิเศษรองรับแบนด์​ n41, n78 ในประเทศไทย​

Camera​ System


สุดยอดกล้องหน้าความละเอียด 44 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับระบบ Eye AutoFocus + AI Face Beauty 

อย่างที่บอกไปข้างต้น​ ไฮไลค์ของ​ Vivo​ V20 Pro​ 5G​ อยู่ที่ระบบกล้อง​หน้า​ ซึ่งมีเลนส์หลักความละเอียด​ 44 ล้านพิกเซล​ ติดตั้งพร้อมกับ เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ให้มุมกว้างสูงสุด 105 องศา และยังมีเทคโนโลยีระดับสูง อย่าง

- เซนเซอร์หลัก​ Samsu​ng​ GH1, ความละเอียด​ 44 ล้านพิกเซล​, ขนาดเซนเซอร์​ 1/2.65 นิ้ว , f/2.0

- รองรับระบบ​ Auto​Focus​ แบบ​ PDAF ด้วยความเร็วเพียง​ 0.01 วินาที

- เลนส์รอง​ Ultra​ Wide ความละเอียด​ 8​ ล้านพิกเซล, มุมกว้าง​ 105 องศา , f/2.28

- รองรับ​ Eye AutoFocus

- รองรับ​ Super Night Selfies

- รองรับการถ่ายวิดีโอ​ 4K

- รองรับ​ VDO Slow - Mo 240fps

- รองรับ Dual View VDO

- รองรับ​ HDR Double Exposure

ส่วนรายละเอียดเลนส์กล้องหลังทั้งหมดประกอบด้วย




- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล​ , f/1.89

- กล้อง Super Wide-Angle & Macro ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล​ , f/2.2 , มุมกว้าง 120 องศา และถ่ายภาพมาโครในระยะใกล้สุด 2.5 cm.

- กล้อง Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล​ 

โดยภาพรวมการถ่ายภาพด้วยเลนส์หลักนั้น ให้รายละเอียดที่คมชัด​ และ​ มี​ Dynamic​ ของภาพที่​ดี​ ภายใต้สภาวะกลางวันทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

ตัวอย่างภาพถ่ายเลนส์หลัก


ภาพถ่ายมุมกว้าง

แบบ​ Ultra​ Wide​ 120 องศา​ มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี​ มีมุมมองที่กว้างพอเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน ไม่พบว่ามีอาการ​ Distort ของภาพให้เห็นเท่าไหร่นัก​ เนื่องด้วยซอฟแวร์ปรับแก้ให้ การถ่ายในตอนกลางวันทำออกมาดี ส่วนกลางคืนก็ทำได้ดีมากเช่นกัน แม้จะใช้โหมด​ Auto​

ตัวอย่างภาพถ่าย​ Ultra Wide 


โหมดถ่ายภาพกลางคืน​ Super​ Night Mode

ถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์ โดยทดสอบถ่ายในที่มืดพบว่าจะให้ภาพที่ออกมามี Quality ที่ดีโดดเด่น ให้โทนภาพที่มีความสมดุลค่อนข้างสูง​ บนความสว่างที่เก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดี​ และ​ยังมี ระบบ​ AI​ ที่ช่วยประมวลผลและปรับภาพ

และ​ Super​ Night Mode ยังมีโทนสีให้เลือกใช้งานถึง 4 แบบ​ ประกอบด้วย​ Black​&Gold, Blue Ice, Green Orange และ​ Cyber Punk ที่จะเร่งเฉดสีตามชื่อ​ ให้ความแปลกใหม่ดีครับ

ตัวอย่างภาพถ่าย​ Super Night Mode




ภาพถ่ายโหมด​บุคคล​ 

ละลายหลังได้เป็นธรรมชาติ​ มีการตัดขอบได้ค่อนข้างเนียนตามาก สามารถปรับระดับเบลอหลังแบบ​ Manual ได้

ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคล​ (Portrait Mode) 



ภาพถ่าย​ Macro 

ในระยะใกล้สุด​ 2.5 cm. ใช้งานค่อนข้างง่าย​ เมื่อเข้าใกล้จะปรับโหมดให้อัตโนมัติ หรือเลือกเลนส์เองได้ทุกเมื่อ โดยมีประสิทธิภาพค่อนข้างดี

ตัวอย่างภาพถ่าย​ Macro




กล้องหน้า​



กล้องหน้าความละเอียด 44 ล้านพิกเซล นั้นค่อนข้างให้โทนภาพในแบบธรรมชาติ , มีการปรับแต่ง Beauty Mode ได้หลายระดับ​ หลายรูปแบบ และสามารถถ่ายแบบ Portrait ได้ พร้อมลูกเล่นระดับสูงอย่าง Eye Auto Focus ซึ่งจะทำให้คุณเซลฟี่ได้เสมือนมีตากล้องมีอาชีพถ่าย โดยระบบจะจับโฟกัสไปที่ดวงตาและใบหน้าของผู้ถ่าย ภาพที่ได้จากกล้องหน้าจึง สวย คม และคุณภาพสูง ไม่แตกต่างจากการถ่ายด้วยกล้องหลังเลยทีเดียว

ทีเด็ดคือเลนส์ Ultra Wide ที่ให้มุมกว้างถึง 105 องศา

นอกจากนี้ยังมีโหมดการปรับแต่งและลูกเล่นสำหรับการเซลฟี่อีกมากมาย ทั้งการปรับผิว , รูปหน้า และ เอฟเฟคละลายฉากหลังต่างๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า



ระบบการถ่า​ย​ VDO​

สามารถถ่ายได้ในระดับ 4K 60 fps และ ฟีเจอร์ Dual View ที่ถ่ายแบ่งจอพร้อมกัน 2 เลนส์ และ ฟีเจอร์ Art Portrait ได้



ระบบรักษาความปลอดภัย





เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้หน้าจอ ทำงานได้ดีมาก และสามารถลงทะเบียนได้หลายนิ้ว สแกนติดง่าย​ ปลดล๊อคค่อนข้างไว​ โดยภาพรวมถือว่าสอบผ่านฉลุยครับ

แบตเตอรี่



มาพร้อมความจุ 4000 mAh ซึ่งค่อนข้างใหญ่และเพียงพอต่อการใช้งานแบบข้ามวันสบายๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบชาร์จ​ Vivo​ Flash​ Charge​ 2.0 ให้ความเร็ว​ในการชาร์จ​ 33W สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0 – 50% ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที

ราคาจำหน่าย Vivo V20 5G

ราคา 14,999 บาท​ เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้

#พิเศษ​ ราคาติดโปรโมชั่นเครือข่าย​ AIS​ และ​ TrueMove​ H​ เริ่มต้นเพียง​ 4,989 บาท​ 

สรุป


Vivo V20 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความสวยงามลงตัว ทั้งในแง่ของการดีไซน์ , ประสิทธิภาพของตัวเครื่อง และ คุณภาพของกล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยเฉพาะกล้องหน้าที่อัดแน่นฟีเจอร์มาจนโดดเด่นที่สุดในวงการสมาร์ทโฟนปัจจุบัน แต่ใช้งานง่าย มีคุณภาพสูง ดังนั้นบอกได้เลยว่า หากได้ใช้ไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ

Article​ By​ : โลกไอทีวันนี้

#V20Series5GLaunch #BeTheFocus

Comments