#FullReview Vivo Y72 5G สุดยอดสมาร์ทโฟนสายการเชื่อมต่อ ที่มอบประสบการณ์ 5G แบบเหนือใคร ให้แก่คุณทุกที่ทุกเวลา !!! ด้วยตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม พร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 , RAM 8 GB , ROM 128 GB , กล้องหลัง​ 3 ตัว​ 64 ล้านพิกเซล และ​ แบตเตอรี่​ 5000 mAh + 18W Fast Charging !!!!


Vivo Y72 5G สมาร์ทโฟน Y Series รุ่นใหม่ ชูจุดเด่นกับการเป็นสมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ และที่สำคัญคือหลังจากเราได้ไปทดลองใช้งานมาเต็มๆกว่า 1 สัปดาห์ พบว่า Y72 5G นั้นไม่ธรรมดาและมีดีกว่าที่คิดไว้มาก


โดย Vivo Y72 5G ยังคงเน้นสเปคคุ้มค่ากับราคาที่โดนใจผู้ใช้ ใส่ใจตั้งแต่กล่องบรรจุไปจนถึงดีไซน์ตัวเครื่องที่ออกแบบสวยงาม ซึ่งภายในกล่องนั้นก็ให้อุปกรณ์มาอย่างครบถ้วน (ถือว่าหายากมากในยุคนี้ที่จะใส่มาครบขนาดนี้) ประกอบด้วย

#Unboxing

วันนี้เราขอให้น้องตูน นางแบบของทางเพจเรา มาช่วยแกะกล่องให้ชมกัน ว่าภายในมีอะไรอยู่บ้างครับ

ตัวเครื่อง Vivo Y72 5G
ฟิล์มกันรอยหน้าจอ (ติดมาให้แล้ว)
เคสกันกระแทกแบบ TPU
สาย USB Type - C
Adapter 18W
ชุดหูฟัง
เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

สเปค Vivo Y72 5G



หน้าจอแบบ Halo FullView Display ชนิด IPS LCD ขนาด 6.58 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , อัตราส่วน 20:9 สัดส่วนพื้นที่หน้าจอ 90.6% และขอบเขตสี 96% NTSC

CPU : MediaTek Dimensity 700 Octa Core ความเร็ว 2.2 GHz (7 nm.)

GPU : Mali - G75MC2

RAM : 8 GB

ROM : 128 GB

รองรับ 2 Sim Cards

รองรับ 5G SA/NSA

รองรับ Micro SD Card สูงสุด 256 GB

กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 64 + 8 + 2 ล้านพิกเซล , f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 , รองรับ EIS , เลนส์ Ultra Wide Lens มุมกว้าง 120 องศา และ Macro Lens ระยะโฟกัส 4 ซม.

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล , f/2.0

รองรับระบบสแกนใบหน้า

รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power

รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1

รองรับ Super Linear Speaker

รองรับ Ultra Game Mode + Multi Turbo

พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C

แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mAh + 18W Vivo Fast Charge

ระบบปฎิบัติการ : Android 11 + Fun touch OS 11.1

มิติตัวเครื่อง : 163.95 x 75.3 x 8.5 มม.

น้ำหนัก : 193 กรัม

สี : Graphite Black และ Dream Glow

Design


Vivo Y72 5G มาพร้อมหน้าจอ Halo FullView Display ขนาด 6.58 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ ให้การแสดงผลที่ชัดเจนใหญ่เต็มตา เหมาะสำหรับสายบันเทิง ทั้งส่องโซเชี่ยล , เล่นเกมส์ หรือ รับชมคลิปวิดีโอต่างๆ


ด้านเฟรมเครื่องมาพร้อมกับความบาง 8.5 mm. ถือจับถนัดมือ โดยช่องและพอร์ตต่างๆก็มีมาให้ครบถ้วน



ขอบด้านล่างมี USB Type - C , ช่องหูฟัง 3.5 mm.

ขอบด้านบน มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot ที่ใส่ 2 ซิม พร้อมกัน หรือ ใส่ 1 Micro SD Card กับ 1 ซิม ได้ และไมค์ตัดเสียงรบกวน



ด้านขวา มีปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่ม Power ที่ใช้งานเป็นเซนเซอร์สแกนนิ้วมืออยู่ภายใน



ด้านหลังของตัวเครื่องสีดำ Graphite Black ดีไซน์แบบเคลือบซิลเวอร์ ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมเกินราคาค่าตัว โดดเด่นและสวยงาม สามารถเปลี่ยนสีตามมุมที่แสงตกกระทบได้ ให้เฉดสีสดใส คล้ายท้องฟ้ายามค่ำคืน โดยที่มุมด้านซ้ายจะมีกล้องวางบนกรอบโมดูลทั้ง 3 เลนส์ ด้วยขนาดที่สมมาตรกันทั้งหมด ประกอบไปด้วย



กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล + Ultra Wide Angle 8 ล้านพิกเซล + Macro 2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED



โดยภาพรวมของการออกแบบ Vivo​ Y72 5G นั้นทำออกมาได้สวยงาม สะดุดตา เมื่อสัมผัสแล้วรู้สึกได้ถึงงานประกอบที่แข็งแรง แน่นหนา และ วัสดุที่ค่อนข้างดีในกลุ่มราคานี้ครับ

หน้าจอ​ (Display)


Vivo Y72 5G มีหน้าจอแบบ Halo FullView Display ชนิด IPS LCD ขนาด​ 6.58 นิ้ว​, ความละเอียด​ Full​ HD+ , รองรับ​ 96% NTSC Color Gamut

ให้ความคมชัดที่ค่อนข้างดีมาก รวมไปถึงการแสดงสีที่ค่อนข้างตรงและสดใส อีกทั้งยังรองรับโหมดถนอมสายตาอีกด้วย

Software

Vivo Y72 5G มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ​ Android​ 11 ภายใต้ FunTouch OS​ 11.1 เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งเป็น​ UI ของทางค่าย​ Vivo ที่มีหน้าตาสวยงามและผู้ใช้ก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยหน้าตา Home screen และ AppDrawer นั้นมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ใช้งานง่าย


เมื่อปัดไปทางซ้ายจะมีหน้า Google​ DashBoard ที่แสดงข้อมูลต่างๆที่สำคัญ เช่น พยากรณ์อากาศ , บันทึกโน๊ต , แอพที่เรียกใช้ประจำ เป็นต้น​



และยังสามารถสลับใช้งานกับ​ Jovi Dashboard ของทางค่ายได้โดยกดปุ่มทางขวาบนเท่านั้น



ระบบควบคุมมีทั้งแบบ​ Navigation Bar หรือสามารถปรับไปใช้​ Gesture Control ก็ได้



อีกทั้งยังรองรับการปรับแต่งได้ยืดหยุ่นหลากหลาย​ ด้วย Theme Store ที่เลือกดาวน์โหลดปรับแต่ง Wallpapers , Fonts และ Theme ได้มากมายเช่นกัน



และยังมีฟีเจอร์ iManager สำหรับควบคุมและจัดการทรัพยากรของระบบในเครื่องได้โดยง่าย

Hardware & Performance



Vivo Y72 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต​ MediaTek Dimensity 700 แบบ Octa Core ที่ถือว่าเป็นชิปเซ็ตประสิทธิภาพดีมากในระดับกลาง ณ เวลานี้ ด้วยคุณสมบัติการประมวลผลและเล่นเกมส์ที่ค่อนข้างลื่นไหล ทั้งมาพร้อม​ RAM 8 GB​ และ​ ROM​ 128 GB​ และ รองรับการเพิ่ม Micro SD Card ได้สูงสุดถึง 256 GB อีกด้วย



และผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Geekbench ทำคะแนนในโหมด Multi Core ได้ 1714 คะแนน และ Single Core ได้​ 565 คะแนน

การเชื่อมต่อ 5G


 

เป็นสิ่งที่โดดเด่นอย่างมากของ Vivo Y72 5G คือการรองรับ 5G ทันทีที่แกะกล่องแบบไม่ต้องอัพเดทใดๆให้วุ่นวาย (แต่ซิมการ์ดที่ใช้ต้องรองรับ 5G และอยู่ในพื้นที่ให้บริการของสัญญาณ 5G ด้วยนะ)

โดยVivo Y72 5G รองรับ 5G แบบ Non-Standalone (NSA) ในย่านความถี่ n28 (700MHz) / n41 (2600MHz) / n78 (3500MHz) และรองรับ 5G แบบ Standalone (SA) ในย่านความถี่ n1 (2100MHz) / n28 (700MHz) / n41 (2600MHz)

อีกทั้งยังสนับสนุน 5G Carrier Aggregation (2CC 5G-CA) และ 5G dual SIM dual standby (DSDS) ทำให้สามารถเข้าถึงความเร็วและบริการ Voice over New Radio (VoNR) สำหรับ 5G โดยเฉพาะได้ด้วย

และจากประสบการณ์ใช้งานจริงๆก็ทำเอาผมทึ่งไปพอสมควรเลยครับ

นอกเหนือจากการจับสัญญาณ 5G ได้ในเขตเมืองกรุงและจังหวัดต่างๆที่มีเสา 5G อยู่ในขณะนี้

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปเที่ยวที่ แพในเขื่อนศรีนครินทร์ บริเวณเขต อ.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งการเดินทางต้องบอกว่าเข้าป่าเข้าเขาไปลึกมากครับ ส่วนตัวไม่เคยไปมาก่อน โดยบริเวณที่ไปนั้นคือ ที่พักแบบแพกลางเขื่อน ที่แทบไม่มีสัญญาณมือถือ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเครือข่ายเดียวกัน แต่ใช้สมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ พบว่าบางเครื่องจับสัญญาณไม่ได้ , บางเครื่องขึ้น 3G แบบบางๆ แต่ Vivo Y72 5G สามารถจับสัญญาณถึงในระดับ 4G+ ได้อย่างน่าทึ่ง* (แกว่งลงมาเป็น H+ บ้างในบางมุมอับ) และยังทำให้ผมเดินทางถึงจุดหมายที่พักได้โดยสวัสดิภาพ เพราะใช้ GPS นำทาง และ Vivo Y72 5G สามารถจับสัญญาณเครือข่ายได้ตลอดเวลาการเดินทางเลยครับ

*หมายเหตุ : ทั้งนี้ความสามารถของสัญญาณและความเร็วขึ้นอยู่กับเครือข่ายที่ท่านเลือกใช้ด้วย

Gaming

สำหรับประสบการณ์ในการเล่นเกมส์ด้วย​ Vivo​ Y72 5G นั้นพบว่าทำได้ค่อนข้างดี จากการทดสอบด้วย PUBG Mobile นั้นสามารถปรับกราฟฟิคเกมส์ได้ในระดับ HD และ Balanced สามารถเล่นได้ต่อเนื่องโดยที่ไม่มีอาการกระตุก


พร้อมด้วยการสนับสนุนจากระบบ Multi - Turbo 4.0 ใหม่ ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้เหมาะสำหรับการเล่นเกมอย่างแท้จริง​



และยังมี Game Acceleration Engine สำหรับเร่งประสิทธิภาพ , โหมดห้ามรบกวน เพื่อช่วยปฏิเสธสายเรียกเข้า และการแจ้งเตือนอื่นๆไม่ให้รบกวนในระหว่างเล่นเกมด้วย รวมไปถึงลูกเล่นเทพๆอย่าง eSport Mode และ 4D Vibration ก็มีให้ด้วยเช่นกัน

Sound System


ลำโพง Speaker​ จะเป็นแบบ​ Mono แต่ยังให้ความดังทุ้มมีมิติ​ เปิดดังสุดไม่แตก​ กำลังขับสูงสุด 92 dB ด้วยลำโพงแบบ Super Linear Speaker (1612) ให้โทนเสียงย่านสูงและกลางเป็นธรรมชาติ พร้อมฟีเจอร์ Speaker Boost 3.0 ยามเมื่อรับชมภาพยนตร์เพื่ออรรถรสที่สมจริงยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีช่องหูฟัง 3.5 mm.ด้วย

Camera​ System เลนส์กล้องหลังทั้งหมดประกอบด้วย


- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล​ , f/1.8

- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล​ , มุมกว้าง 120 องศา

- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล , ระยะโฟกัส 4 cm.


โดยภาพรวมการถ่ายภาพนั้นออกมายอดเยี่ยม ด้วยเลนส์หลักความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ AI ที่ช่วยปรับแต่งเฉดสีให้มีชีวิตชีวา สดใส ให้รายละเอียดที่คมชัด​ และ​ มี​ Dynamic​ และมิติของภาพที่​ดี​ ภายใต้สภาวะกลางวันทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม



และยามต้องถ่ายภาพที่มีสภาวะย้อนแสง ยังมีฟีเจอร์ Backlight HDR ที่ทำงานได้ทึ่งจนน่าตกใจครับ เช่นการถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินหรือพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งสามารถดึงรายละเอียดภาพในส่วนที่มืดและสว่างออกมาได้สมดุลกันอย่างมาก

อีกทั้งยังมีระบบ Eye AutoFocus ที่ติดตามดวงตาของผู้ถูกถ่ายพร้อมโฟกัสแบบอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายเลนส์หลัก

ขอบคุณสถานที่ถ่ายภาพ ร้าน Camera Town Siam Square One ชั้น 1 มา ณ ที่นี้ด้วยครับ



ตัวอย่างภาพถ่าย Backlight HDR


ภาพถ่าย Ultra Wide

ให้มุมภาพกว้างถึง 120 องศา โดยสามารถเก็บทุกองค์ประกอบภาพได้ทั่วถึง ในสภาวะกลางวันทำได้ยอดเยี่ยม แต่ติดโทน under เล็กน้อยในตอนกลางคืน 

ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Wide



Super Night โหมดสำหรับถ่ายกลางคืน


สามารถถ่ายออกมาได้ดี และมีฟิลเตอร์ให้เลือกอีก 4 แบบ เหมือนรุ่นเรือธง ได้แก่ Black & Gold , Blue Ice , Green Orange และ Cyberpunk อีกทั้งรองรับการถ่าย RAW Format ในโหมด Pro ด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Mode



ภาพถ่ายโหมด​บุคคล​

มีการละลายฉากหลังได้เป็นธรรมชาติ สามารถปรับแต่งค่ารูรับแสงหรือการเบลอฉากหลังได้ใน Gallery ตั้งแต่ f/0.95 ถึง f/16 โดยเลือกจุดโฟกัสได้อย่างอิสระ พร้อมด้วยโหมดเอฟเฟ็กต์ Studio Light สำหรับปรับแสงที่แตกต่างกันถึง 10 รูปแบบ

ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคล​ (Portrait Mode)

ภาพถ่าย​ Macro

ในระยะใกล้สุด​ 4 cm. ใช้งานค่อนข้างง่าย​ และ มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี

ตัวอย่างภาพถ่าย​ Macro


กล้องหน้า​


กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล นั้นค่อนข้างให้โทนภาพในแบบฟรุ๊งฟริ้งถูกใจสาวๆเลย โดยมีการปรับแต่ง Beauty Mode ได้หลายระดับหลายรูปแบบ


นอกจากนี้ยังมีโหมดการปรับแต่งและลูกเล่นสำหรับการเซลฟี่อีกมากมาย ทั้งการปรับผิว , รูปหน้า และ เอฟเฟคละลายฉากหลังต่างๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า




ระบบรักษาความปลอดภัย


เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power ทำงานได้รวดเร็ว และสามารถลงทะเบียนได้หลายนิ้ว สแกนติดง่าย​ ปลดล๊อคได้ไว​ เช่นเดียวกับระบบสแกนใบหน้า

แบตเตอรี่





มาพร้อมความจุ 5000 mAh ซึ่งค่อนข้างใหญ่มากและเพียงพอต่อการใช้งานแบบข้ามวันสบายๆ ที่สำคัญคือมันอึดมากครับ จากการใช้ GPS นำทางเกือบ 4 ชั่วโมง และยังใช้งานอื่นๆต่ออีก 1 ชั่วโมง พบว่าแบตเตอรี่ลดลงจากเต็มเหลือ 68% เท่านั้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบชาร์จ​ 18W ให้ความเร็ว​ในการชาร์จ​ที่ดี และ เหมาะสมกับการใช้งานครับ

ราคาจำหน่าย Vivo Y72 5G




ราคา  9,999 บาท​ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ไป ณ Vivo Brand Shop และ ร้านค้าร่วมรายการ

พิเศษ เปิดให้จองพร้อมรับของแถมสุดพิเศษ Bluetooth body weight scale มูลค่า 1,099 บาท และ Power Bank 10000mAh มูลค่า 799 บาท รับไปเลยทันที  ฟรี

สำหรับผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.64 - 30 มี.ค.64 ณ Vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ Vivo Official Online Store 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

https://www.vivo.com/th

สรุป



Vivo Y72 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความน่าทึ่งในคุณสมบัติการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G พร้อมด้วยความคุ้มค่าในแง่ของคุณสมบัติตัวเครื่อง ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่  , ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 ที่เพียบพร้อมสำหรับการใช้งานรอบด้าน , กล้องหลักความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล + EIS และ แบตเตอรี่ใหญ่ถึง 5000 mAh ที่มาพร้อมกับระบบชาร์จ 18W ในตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม ทำให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและคุ้มค่าเกินคำบรรยายครับ



Article​ By​ : โลกไอทีวันนี้

Comments