#FullReview : Redmi 10 สมาร์ทโฟนสุดคุ้มรุ่นใหม่ !!! มาพร้อม​ หน้าจอ​ Adaptive Sync 90 Hz , ชิปเซ็ต Helio G88 , กล้องหลัง 4 ตัว 50 ล้านพิกเซล, ลำโพง​ Stereo และ แบตเตอรี่ 5000 mAh ​!!!! ในราคาเริ่มต้นเพียง​ 4,999 บาท​ !!!!


Redmi 10 เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดรุ่นล่าสุด มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมอัตรารีเฟรช AdaptiveSync 90Hz (45/60/90Hz) และเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต MediaTek Helio G88 SoC พร้อมกล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยกล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล, กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ Depth 2 ล้านพิกเซล​ มีลำโพงคู่ และ แบตเตอรี่ 5000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 18W (แถมที่ชาร์จ 22.5W ในกล่อง) ที่เหลือจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ลองดูไปพร้อมๆกันครับ

สเปค Redmi 10

หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , อัตรา Refresh Rate 90 Hz แบบ AdaptiveSync , ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 3
CPU : MediaTek Helio G88 Octa Core (Dual 2GHz Cortex-A75 CPU + Hexa 2GHz Cortex-A55 CPU)
GPU : Mali - G57MC2
RAM : 4 GB/6 GB ชนิด LPDDR4x
ROM : 64 GB/128 GB ชนิด eMMC 5.1
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 4G + Dual VoLTE
รองรับ Micro SD Card
กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 50 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล , รองรับเลนส์ Ultra Wide , Macro และ Depth Sensor , f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล , f/2.0
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power
รองรับช่องหูฟัง 3.5 mm.
รองรับ WiFi AC Dual Band
รองรับพอร์ต IR Blaster
รองรับลำโพงคู่แบบ Stereo
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mah + 18W Quick Charge และ 9W reverse wired charging
ระบบปฎิบัติการ : Android 11 + MIUI 12.5
มิติตัวเครื่อง : 161.95 x 75.53 x 8.92 mm.
น้ำหนัก : 181 กรัม
สี : Carbon Gray, Pebble White และ Sea Blue

ราคาจำหน่าย


RAM 4 GB/ROM 64 GB ราคา 4,999 บาท (เฉพาะออนไลน์)

RAM 6 GB/ROM 128 GB ราคา 5,999 บาท

โดยจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 9​ กันยายน​ นี้ ณ Xiaomi stores และ ร้านค้าที่ร่วมรายการ

มาในตัวเลือกสีเทา Carbon Grey และ Pebble White พร้อมฝาหลังป้องกันรอยนิ้วมือ และสี Sea Blue พื้นผิวมันวาวที่สวยงาม

Unboxing

กล่องของ Redmi 10 ยังคงเอกลักษณ์ด้วยพื้นสีขาว เนื้อกระดาษแบบด้านสะอาดตา

ภายในกล่องประกอบด้วย

- ตัวเครื่อง Redmi 10 × 1 เครื่อง
- เคสใสแบบ TPU × 1 ชิ้น
- สาย USB Type C × 1 เส้น
- Adapter Charge × 1 ตัว
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด × 1 ชิ้น
- เอกสารและคู่มือต่างๆ × 1 ชุด

Display​ &​ Design

Redmi 10 มาพร้อมกับหน้าจอ​ IPS​ LCD​ ขนาด 6.5 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ มีอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90 Hz Adaptive Sync ค่อนข้างสวยงามมากในแง่ของสีสันและการแสดงผล และในกลุ่มราคานี้ยังยากที่จะมีใครให้หน้าจอ Adaptive​ Sync มาใช้งาน

โดย​ฟีเจอร์ AdaptiveSync Display สามารถปรับอัตรารีเฟรชเรทให้เหมาะสมกับเนื้อหาของการใช้งานได้โดยอัตโนมัติ ช่วยลดพลังงานและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้นานยิ่งขึ้น

และสำหรับผู้รักในการอ่าน Redmi 10 ยังมีฟีเจอร์ Reading Mode 3.0 ที่ปรับเปลี่ยนการแสดงผลหน้าจอให้เหมือนกระดาษเพื่อช่วยถนอมสายตาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ด้านหลังมาพร้อมกับกล้อง 4 ตัว (Quad Rear Camera) วางเรียงในโมดูลทรงสี่เหลี่ยม​ โดยมีดีไซน์ที่สวยงามและดูพรี่เมี่ยมมากยิ่งขึ้น พร้อมฝาหลังในสี​ Carbon Grey ที่มาในสีด้าน ซึ่งไม่ใช่แค่กันรอยนิ้วมือเพียงเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้สึกสัมผัสที่ละมุนและรู้สึกถึงความหรูหราอีกด้วย

ขอบบนเป็นที่อยู่ของช่องลำโพงสนทนา , ลำโพง Speaker , พอร์ต IR Blaster, ช่องหูฟัง​ 3.5 มม.​ และ ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

ที่ขอบด้านซ้ายมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Triple Slot

ขอบด้านขวามี ปุ่มเพิ่ม/ลด ระดับเสียง และ ปุ่ม Power ซึ่งสามารถใช้งานเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้


ขอบด้านล่างมีช่องลำโพง​ Speaker, พอร์ต​ USB Type -​ C​ และ​ ไมค์โครโฟนสนทนา

โดยภาพรวมแล้วการออกแบบและวัสดุประกอบตัวเครื่องของ Redmi 10 นั้นค่อนข้างพรีเมี่ยมและดูดีเกินราคาอยู่มากครับ หยิบจับขึ้นมาดูสวยสง่า กระชับมือ

Performance

ใช้งาน MediaTek​ Helio​ G88 ซึ่งถือว่าเป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยการปรับเปลี่ยนที่หลากหลาย ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้งานบนความถี่ GPU และอัตรารีเฟรชเรทที่สูงขึ้น เพื่อยกระดับสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงที่มีระดับขึ้น อีกทั้งยังมี Image Signal Processor ในรูปแบบใหม่ยังสามารถถ่ายภาพและเก็บทุกรายละเอียดได้อย่างคมชัด

MediaTek Helio G88 มีหน่วยประมวลผล 8 แกน ประกอบด้วย Cortex-A75 ความเร็ว 2.0 GHz จำนวน 2 แกน และ Cortex-A55 จำนวน 6 แกน มีหน่วยประมวลผลผลกราฟิกเป็น Mali-G52 MC2

และยังมีเอ็นจิ้นฮาร์ดแวร์ที่สร้างระยะชัดลึกสำหรับการถ่ายภาพโบเก้แบบกล้องคู่ ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมกับหน่วยควบคุมกล้อง (CCU หรือ Camera Control Unit) และเทคโนโลยีการป้องกันภาพสั่นไหวระบบไฟฟ้า (EIS หรือ Electronic Image Stabilization) และ เทคโนโลยีการปรับค่าชัตเตอร์ (RSC หรือ Rolling Shutter Compensation)

โดยรุ่นที่นำมาทดสอบนี้เป็นรุ่น RAM 4 GB/ROM 64 GB

ทำงานภายใต้ระบบปฎิบัติการ Android 11 รุ่นใหม่ และ MIUI 12.5.5 ซึ่งจะมีเทคโนโลยี Deep System Optimizations ที่ทำให้ระบบเรียนรู้และจัดสรรค์ทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ตลอดเวลา​ อีกทั้งยังมีลูกเล่นในการปรับแต่งใหม่ๆ เช่น Control Center และ Theme อีกมากมาย

ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพพลิเคชั่น GeekBence 5.0 ได้ผลทดสอบ Single Core 268 คะแนน ส่วน Multi Core ได้ 1,044 คะแนน

Gaming

มี Game Turbo 4.0 สำหรับช่วยจัดระบบระเบียบทรัพยากรภายในตัวเครื่องให้มีประสิทธิภาพดีที่สุดยามคุณอยู่ในโลกของเกมส์ และช่วยปิดการแจ้งเตือนต่างๆที่ไม่สำคัญ เพื่อป้องกันการรบกวน

โดยทดสอบด้วยเกมส์ PUBG Mobile สามารถเปิดกราฟิคได้สูงสุดระดับ HD แต่เปิด Frame rate ที่ระดับ High ได้ โดยการเล่นมีจังหวะหน้าวงบ้างเล็กน้อย แต่ภาพรวมสามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นไหล ไม่มีปัญหาครับ

ส่วนการเล่น Call of Duty ก็พบว่าไม่มีปัญหาในการเล่นเช่นกัน

ระบบรักษาความปลอดภัย

มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่ยังคงมีประสิทธิภาพให้การทำงานได้รวดเร็วมาก และสามารถใช้ระบบสแกนใบหน้าได้เช่นเคย

Camera

สำหรับกล้อง จุดเด่นคือ กล้องตัวหลัก 50 ล้านพิกเซล (f/1.8) เซนเซอร์​ Samsung S5KJN1

และยังมีเซ็นเซอร์กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ให้มุมกว้าง 118 องศา รวมถึง เซ็นเซอร์ Macro และ Depth 2 ล้านพิกเซล

กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีความสามารถในการถ่าย 1080p @ 30fps พร้อม AI Beauty และ HDR

กล้องหลักทำงานได้ดี​ ด้วยเซนเซอร์ขนาดใหญ่​ หากถ่ายภาพด้วยโหมดความละเอียดสูง​ 50MP จะยิ่งได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ​ Ultra​ Wide​ มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี​ มีมุมมองที่กว้างเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน มีการแก้ไข​ Distort ของภาพให้พอประมาณ สำหรับการถ่ายในตอนกลางวันทำออกมาได้ยอดเยี่ยม แต่ตอนกลางคืนอาจจะมีอาการ Under Tone เล็กน้อย

โหมด Macro ให้รายละเอียดที่ดีครบถ้วน ในระยะโฟกัส 4 ซม.

การถ่ายภาพกลางคืน​ ถือว่าทำออกมาได้พอประมาณ ตามราคาเครื่อง

ภาพถ่ายโหมด​บุคคล​ สามารถละลายหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ​ มีการตัดขอบได้เนียนตา และฉากหลังยังคงมีรายละเอียดครบถ้วน ไม่ฟุ้งเบลอมากเกินไป

ตัวอย่างภาพถ่าย

กล้องหลัก


โหมด Ultra Wide


กล้อง Portrait


กล้อง Macro


โหมดกลางคืน


ระบบเสียง

Redmi10 ใส่ลำโพงคู่ Stereo มาในสมาร์ทโฟนที่ราคาต่ำกว่า 5,000 บาท ที่สำคัญคือให้มิติเสียงที่ดีด้วย มีความดังชัดเจน​ เปิดจนสุดแล้วเสียงไม่แตก แต่มีโทนเสียงในย่าน Flat ออกเสียงกลางเยอะ ไม่ได้เน้นเบสหรือเสียงแหลมมากไป

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมการสนับสนุนการชาร์จเร็ว 18W ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มในเวลาประมาณ​ ​1 ชั่วโมงนิดๆ ที่สำคัญคือหัวชาร์จ 22.5W แถมมาให้ในกล่องไม่ต้องไปหาซื้อแยก​ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ Reversed Wired Charging 9W ด้วย

สรุป

Redmi 10 คือสมาร์ทโฟนที่ลงตัวและตอบโจทย์มาก สามารถเรียกว่ามันคือสมาร์ทโฟนระดับ Mid Range ที่คุ้มค่าเกินราคา ด้วยประสิทธิภาพภายในที่แลกกับมากับค่าตัวเริ่มต้นเพียง 4,999 บาท เท่านั้น เหมาะกับนักเรียนที่จำเป็นต้องใช้เรียน​ Online​ หรือสายกิจกรรมถ่ายภาพ​ ท่องโลกโซเชี่ยล​ ก็จัดว่าคุ้มค่าเกินบรรยายจริงๆครับ

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments