FullReview : Dyson V12 Detect Slim Total Clean เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย สุดอัจฉริยะล้ำโลก มีเลเซอร์ตรวจจับฝุ่นได้ทุกอณู ทำให้งานบ้านไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป !!!!
Dyson V12 Detect Slim Total Clean เครื่องดูดฝุ่นไร้สายสุดล้ำ สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ ที่รู้สึกการทำความสะอาดบ้านเป็นเรื่องที่เหนื่อยเอาการ แต่ถ้าหากคุณมีไดสัน การทำความสะอาดก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
รับชมแบบวิดีโอรีวิวได้ที่ :
ด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ตรวจจับฝุ่น , ตัวเลือกหัวดูดมากมายสำหรับใช้ในแต่ละประเภทการทำความสะอาด รวมถึง หน้าจอ LCD แสดงการทำงาน เรียกได้ว่าตอบโจทย์อย่างแน่นอน ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ลองไปดูกันครับ
คุณสมบัติ Dyson V12 Detect Slim
Suction power : 150AW
ระยะเวลาชาร์จ 3.5 ชม.
ระยะทำงานสูงสุด 60 นาที
ถังเก็บฝุ่น: 0.35 ลิตร
เทคโนโลยีไซโคลน 11 ตัว
น้ำหนัก 2.2 กก.
Unboxing
รุ่นที่เราได้มารีวิวนั้นคือรุ่น Total Clean จะเป็นเซ็ทที่มีหัวดูดให้มาเยอะมาก ถึง 7 หัว และมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆแบบ Full Set ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
ตัวเครื่อง Dyson V12 Detect Slim
หัวดูด Laser Slim Fluffy Cleaner Head
หัวดูด Direct Drive
หัวดูด Hair Screw
หัวดูด Light Pipe crevice
หัวดูด Combi 3 แบบ
Charger
Wall Mount Charger แบบเจาะผนัง
อ่านถึงตรงนี้อาจจะงง ว่าอะไรคืออะไร ลองไปทำความรู้จักกันด้านล่างครับ
รีวิว
เริ่มที่ตัวหัวใจหลักก่อนเลย ตัวเครื่องหลักของ Dyson V12 Detect Slim นั้นมีสีทองสลับม่วง มีปุ่ม Power สีแดง สำหรับเปิดปิดการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น
มีหน้าจอ LCD อยู่ที่ท้ายเครื่อง สำหรับแสดงผลว่ากำลังใช้โหมดอะไร และสามารถดูฝุ่นที่เราดูดมาได้ว่ามีจำนวนเท่าไร ขนาดอะไรบ้าง
โดย Dyson ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผู้ใช้ตรวจวัดฝุ่นที่ตรวจพบเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความสะอาดเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์แบบเรียลไทม์ Acoustic Piezo เซ็นเซอร์ถูกติดตั้งในหัวแปรงทำความสะอาด ตัวเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ในหัวแปรงจะดูดอนุภาคขนาด
เล็กเข้าไป และคำนวณจำนวนอนุภาคได้สูงถึง 15,000 ครั้งต่อวินาที นอกจากนี้ เมื่อฝุ่นถูกดูดเข้าไปและผ่านตัว Piezo เซ็นเซอร์สู่ถังฝุ่น ตัวเครื่องจะสามารถแสดงขนาดและปริมาณฝุ่นบนจอ LCD ดังนั้น ผู้ใช้จึงสามารถเห็นได้ว่าเครื่องดูดฝุ่นได้ดูดฝุ่นไปแล้วมากน้อยเพียงใด ตลอดจนขนาดของอนุภาคต่างๆที่ดูดได้
โดย
>10μm (มากกว่า 10 ไมครอน) : อนุภาคที่มีขนาดเทียบเท่าสารก่อภูมิแพ้และละอองเกสร
>60μm (มากกว่า 60 ไมครอน) : อนุภาคที่มีขนาดเทียบเท่าฝุ่นละอองที่เล็กมากจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
>180μm (มากกว่า 180 ไมครอน) : อนุภาคที่มีขนาดเทียบเท่าไรฝุ่นและทรายละเอียด
>500μm (มากกว่า 500 ไมครอน) : อนุภาคที่มีขนาดเทียบเท่าเม็ดน้ำตาลและเห็บหมัด
บริเวณด้านล่างของหน้าจอ LCD ก็จะมีปุ่มเล็กๆ ไว้ปรับโหมดความแรงของการดูด โดยจะมี 3 โหมดด้วยกัน คือ Eco, Auto และ Boost
ซึ่งถ้าเป็นโหมด Eco เมื่อชาร์จเต็ม 100% จะใช้ได้สูงสุด 60 นาที โหมด Auto จะใช้ได้สูงสุด 30 นาที และโหมด Boost นั้นใช้ได้สูงสุด 15 นาที
โดยตัวดูดทำงานด้วย มอเตอร์ Dyson Hyperdymium หมุนด้วยความเร็ว 125,000 รอบต่อนาที จึงสามารถสร้างแรงดูดที่ทรงพลังถึง 150AW
ตัวถังเก็บฝุ่นมีขนาด 0.35 ลิตร ฟังดูเหมือนจะเล็ก แต่เพื่อแลกกับน้ำหนักเบา พกพากะทัดรัด ถังเก็บฝุ่นจึงต้องมีขนาดเล็กด้วย แต่ทว่าภายในมีระบบการกรองฝุ่นได้ถึง 99.99% เล็กที่สุดคือ 0.3 ไมครอน รวมถึงระบบกรองที่ทำให้ลมที่ออกมาจากการดูดนั้นเป็นอากาศที่ผ่านการกรองเรียบร้อยแล้วอีกด้วย
ระบบการกรอง
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim มาพร้อมกับเทคโนโลยีการกรองขั้นสูงของ Dyson 5 ขั้นตอน ซึ่งดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ 99.99% และปล่อยอากาศที่ผ่านการกรองให้สะอาดขึ้นออกมาเท่านั้น เทคโนโลยีไซโคลนของ Dyson มีประสิทธิภาพในการแยกฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากพื้น และปิดผนึกไม่ให้ฝุ่นรั่วไหลกลับออกมาในบ้านของคุณ
นอกจากนี้ เครื่องดูดฝุ่นยังได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับเปลี่ยนโหมดพลังดูดได้โดยอัตโนมัติเมื่อเครื่องตรวจพบฝุ่นจำนวนมากขึ้นในขณะที่กำลังใช้งานในโหมดอัตโนมัติ และจะปรับสู่โหมดพลังดูดแบบปกติเมื่อตรวจพบฝุ่นที่มีปริมาณน้อยลง
วิธีการประกอบ
การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อใช้งานนั้นง่ายมากๆ เนื่องจากใช้ระบบล๊อคข้อต่อแบบถอดได้ การใส่ให้ลงล๊อคจนมีเสียงดัง 'แกร๊ก' ก็เป็นอันจบ ทั้งหัวดูด และ แบตเตอรี่ ส่วนวิธีการถอดเปลี่ยนก็ง่ายมาก เพียงแค่กดปุ่มเดียวเท่านั้น
การใช้งาน
หัวดูด Laser Slim Fluffy Cleaner Head
มาเริ่มที่หัวดูดประเภท เลเซอร์สลิมฟลัพฟี่ (Laser Slim Fluffy Cleaner Head) ซึ่งเป็นจุดเด่นที่เป็นนวัตกรรมของ Dyson แบบไฮไลท์สำคัญเลย
โดยหัวดูดนี้มีพื้นหัวแปรงกว้าง 250 มม. พร้อมเลเซอร์ไดโอดแสงสีเขียว ที่ช่วยให้เห็นอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กชัดมากขึ้น ซึ่งในขณะใช้งานจริง ก็ทำให้เห็นชัดมากจนน่าตกใจ เพราะตามนุษย์ไวต่อแสงสีเขียว โดยหัวดูดประเภทนี้จะเหมาะกับการใช้บนพื้นแข็ง กระเบื้อง ไม้ลามิเนต ปาร์เก้ ได้เป็นอย่างดี
ส่วนตัวด้ามดูดขยายความยาวแบบอลูมิเนียม ถู
กออกแบบตามหลักการพลศาสตร์ มีความแข็งแรงทนทาน และ น้ำหนักเบา
หัวดูด Direct Drive
จะเหมาะกับพวกพื้นพรมเป็นพิเศษ เพราะมีแปรงไนลอนสำหรับดึงฝุ่นออกจากพรมโดยเฉพาะ อีกทั้งตัวเครื่องดูดฝุ่นเองจะปรับแรงดูดอัตโนมัติ เมื่อเจอพื้นผิวที่ต่างกัน
เช่นหากเราดูดบริเวณพื้นกระเบื้องอยู่ แล้วเลื่อนขึ้นไปดูบริเวณพรม ตัวเครื่องจะปรับแรงดูดให้แรงขึ้นแบบอัตโนมัติทันที เนื่องจากพื้นพรมนั้นมีฝุ่นสะสมเยอะกว่าและเอาออกได้ยากกว่า จึงจำเป็นต้องใช้แรงดูดที่มากกว่านั่นเอง
หัวดูด Hair Screw
หัวนี้ไว้ใช้สำหรับเก็บเส้นผม , ขนสัตว์เลี้ยง ซึ่งหากใช้เครื่องดูดฝุ่นทั่วไป ส่วนใหญ่พบว่าเส้นผมหรือขนสัตว์จะเข้าไปพันกับแกนหรือตรงที่เก็บฝุ่น เอาออกได้ยาก
แต่สำหรับ หัวดูด Hair Screw เส้นผมจะไม่พันกับตัวแกนแน่นอน ด้วยนวัตกรรมการออกแบบพิเศษของ Dyson จึงเหมาะอย่างมากสำหรับบ้านที่เลี้ยงสัตว์ไว้ภายใน
หัวดูดปากแคบแบบมีไฟ (Light Pipe crevice)
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้งานซอกซอนในที่แคบ , กรอบหน้าต่างและกรอบประตู , บานเลื่อนอลูมิเนียม ซึ่งมีร่องจุดอับเยอะ เข้าถึงได้ยาก
แต่หัวดูดปากแคบอันนี้ จะช่วยให้กลายเป็นเรื่องง่ายทันที แถมยังมีไฟ LED สีขาวส่องสว่าง สำหรับช่วยให้มองเห็นในซอกหลีบได้ชัดเจนอีกด้วย
หัวดูดขนาดเล็ก Combi
หัวดูดแปรงขนนุ่มแบบ 3 หัวดูดนี้ เรียกว่า Combi เหมาะสำหรับใช้กับพื้นผิวที่เป็นรอยง่ายอย่างกระจก
เพราะมีแปรงขนนุ่มจะช่วยให้หัวดูดไม่สัมผัสกับพื้นผิวโดยตรง ทำให้ไม่เกิดรอย และยังเหมาะกับการใช้งานหลากหลายพื้นผิวที่มีฝุ่นเกาะลึก เช่น โซฟา เบาะรถยนตร์ เป็นต้น
น้ำหนักและการจับถือ
ตัวเครื่อง Dyson V12 จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม แต่เมื่อต่อหัวดูดจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นรวมแล้วราวๆ 2.5 กิโลกรัม ซึ่งตอนใช้งานจริงเวลาดูดก็ไม่รู้สึกลำบากอะไร แต่ถ้ายกถือขึ้นมาก็มีเมื่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะหากใช้กับการดูดโซฟา หน้าต่าง เป็นต้น
การเทที่เก็บฝุ่น
ต้องบอกว่าจุดนี้ออกแบบมาได้ล้ำสุดๆ คือสามารถเทถังเก็บฝุ่นได้แบบง่ายๆ มือไม่เปื้อนเลย เพียงแค่ถอดหัวดูดออก จากนั้นให้ดันสลักสีแดงตรงถังเก็บฝุ่นออก จากนั้นถังเก็บฝุ่นจะถูกสไลด์เปิดออกมาอย่างง่ายดาย และถ้าหากอยากถอดออกไปล้างก็มีสลักอีกตัวสำหรับถอดถังออกได้ด้วย
ระบบชาร์จและแบตเตอรี่
เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean มีข้อคำนึงสำคัญคือ การเป็น "เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย" ดังนั้นถ้าเสียบสายชาร์จมันจะไม่ทำงาน ดูได้แต่เพียงสถานะแบตเตอรี่ และหากทำงานจำเป็นต้องถอดสายชาร์จออก
โดยการชาร์จสามารถทำได้ 3 รูปแบบ คือ
1.ใช้ Wall Charge เสียบกับเครื่องโดยตรง
2.ถอดแบตเตอรี่ออกจากเครื่องดูดฝุ่นมาเสียบชาร์จ ซึ่งการถอดแบตสามารถทำได้ด้วยการกดปุ่มสลักยึด และดึงแบตเตอรี่ออกมาง่ายๆ
3.ติดตั้ง Wall Mount ซึ่งตัวเลือกนี้จะต้องเจาะรูยึดกับผนังบ้าน จากนั้นก็นำ Wall Charge มาประกอบเข้าด้วยกัน เท่านี้ก็สามารถนำเครื่องดูดฝุ่นมาเสียบชาร์จพร้อมกลายเป็นที่แขวนเก็บได้ทันที
แต่เตือนนิดหนึ่งว่าตอนจะเจาะให้เลือกเล็งที่ดีๆ ใกล้จุดที่เสียบปลั๊กถึง ไม่งั้นจบเลยนะครับ
ส่วนอายุแบตเตอรี่ทำงานในโหมด Eco ได้เต็มที่สูงสุด 60 นาที และ โหมด Boost ได้สูงสุด 15 นาที ฟังดูเหมือนน้อย แต่จริงๆก็เพียงพอต่อการใช้งานหนึ่งครั้งครับ เพราะส่วนใหญ่น่าใช้โหมด Eco กันมากกว่า และการชาร์จเเบตเต็มจะใช้เวลาค่อนข้างมากคือ 3.5 ชั่วโมง ดังนั้นกะเวลาการทำงานบ้านกันให้ดีครับ
การวางจำหน่าย
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim วางจำหน่ายในราคา 24,090 บาท สำหรับรุ่น Fluffy และราคา 28,500 บาท สำหรับรุ่น Total Clean หากสนใจซื้อสามารถเข้าไปได้ที่ Dyson.co.th หรือร้าน Dyson Demo สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว สยามพารากอน และไอคอนสยาม
สรุป
Dyson V12 Detect Slim Total Clean นับเป็นนวัตกรรมและตัวเลือกอันดับต้นๆของ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ทำงานได้ง่าย มีประสิทธิภาพสูง และ นวัตกรรมที่โดดเด่น เหมาะกับการใช้บนพื้นผิวทุกประเภท และยังเหมาะกับผู้ที่มีกำลังซื้อพอสมควร เพราะมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นทั่วๆไป แต่การทำงานก็สะอาดเอี่ยมผิดกันด้วย ดังนั้นลองเปิดใจดู แล้วคุณจะพบกับมิติใหม่แห่งการทำงานบ้านอย่างแน่นอนครับ
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment