OnePlus และ OPPO ประสบปัญหาหนัก ถูกศาลสั่งห้ามจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศเยอรมนี หลังละเมิดสิทธิบัตร 5G ของ Nokia !!! และอาจขยายไปประเทศอื่นอีก !!!



OnePlus และ OPPO เผชิญกับการถูกสั่งระงับการจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศเยอรมนี หลังจากข้อพิพาทด้านสิทธิบัตรกับ Nokia โดยการฟ้องร้องของ Nokia ต่อทั้งสองบริษัท เกิดขึ้นหลังจากการใช้เทคโนโลยี 5G ซึ่งการระงับมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา


โดย Nokia ระบุว่า ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั้งสองรายจะต้องจ่าย 2.50 ยูโร ต่อสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องที่ขายได้ทั่วโลก ให้แก่ Nokia เนื่องจากเทคโนโลยี 5G มีอยู่ในสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในเยอรมนีเท่านั้น


ข้อพิพาทด้านสิทธิบัตรของ OnePlus และ OPPO กับ Nokia ได้นำมาซึ่งปัญหาอย่างมาก โดยเว็บไซต์ WinFuture เผยว่า Nokia ได้ร้องต่อศาลแขวง Mannheim เกี่ยวกับปัญหานี้ในเดือนกรกฎาคม โดยระบุว่า OPPO และ OnePlus กำลังใช้เทคโนโลยี 5G เฉพาะของ Nokia โดยที่พวกเขาไม่ต้องจ่ายเงิน  

ตามที่ WinFuture ระบุไว้ "ข้อพิพาทนี้เกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า 'สิทธิบัตรที่จำเป็น' โดยเฉพาะ ซึ่งมีความสำคัญขั้นพื้นฐานสำหรับเทคโนโลยี 5G"

ต่อมาในเดือนกรกฎาคม ศาลแขวง Mannheim ได้เริ่มทำการไต่สวน โดยกล่าวว่าหาก OPPO และ OnePlus สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับสิทธิบัตรกับ Nokia ได้ ก็จะไม่ถูกระงับการจำหน่าย แต่สุดท้ายทั้งสามฝ่ายก็ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้ ส่งผลให้บริษัทจีนทั้งสองแห่งในเยอรมนีสั่งห้ามจำหน่ายสมาร์ทโฟนในวันที่ 5 สิงหาคม โดยเว็บไซต์ในเยอรมนีของทั้งสองบริษัทก็ไม่มีข้อมูลสมาร์ทโฟนปรากฎแสดงผล

และล่าสุดเว็บไซต์ Android Police รายงานว่าบริษัททั้งสองกำลังเจรจากับ Nokia เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหานี้อยู่


แต่กระนั้นคำสั่งแบนนี้ไม่ส่งผลต่อการขายอุปกรณ์เสริมอย่างเช่น หูฟังเอียร์บัด

อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ WinFuture ระบุว่าบริษัทอื่นๆภายใต้กลุ่ม BBK Electronics อาจเผชิญกับปัญหาที่คล้ายกัน ซึ่งรวมถึง vivo และ realme  โดยศาลกล่าวว่าบริษัทต่างๆจะต้องจ่าย 2.50 ยูโร ต่อสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่อง สำหรับข้อตกลงใบอนุญาตทั่วโลก


ด้วยข้อพิพาทด้านสิทธิบัตรที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ทำให้ Nokia ตัดสินใจขยายคดีความต่อบริษัทในเครือของ BBK Electronics ออกไป โดยประเทศที่ Nokia จะดำเนินคดีต่อคือ ฝรั่งเศส สเปน ฟินแลนด์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ซึ่งหมายความว่า OPPO และ OnePlus อาจเผชิญกับการห้ามขายเพิ่มเติมทั่วยุโรปหากสิ่งต่างๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้เร็วที่สุด

Source : Android Central
Article By : โลกไอทีวันนี้ 

Comments