FullReview : Xiaomi 12T Pro และ 12T คู่หูสุดแกร่งแห่ง T Series !!! ด้วยหน้าจอ CrystalRes Amoled 120 Hz , ชิปเซ็ตเรือธง Snapdragon 8+ Gen 1 และ Dimensity 8100 Ultra , กล้องหลัง 200 ล้านพิกเซล และ แบตเตอรี่ 5000 mAh + 120W HyperCharge !!!!
ในวันนี้ Xiaomi ได้ทำการเปิดตัว Xiaomi 12T Series ในระดับ Global ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ประกอบด้วย Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
สเปค Xiaomi 12T Pro
หน้าจอชนิด CrystalRes Amoled ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด 1220P (2712 × 1220 พิกเซล) , อัตรา Refresh Rate 120 Hz Adaptive Sync , Touch Sampling Rate 480 Hz , รองรับ TrueColor display 68 พันล้านสี , JNCD≈0.28, Delta E≈0.38 , ความสว่างสูงสุด 900 nits , รองรับ HDR10+ , Dolby Vision , Adaptive HDR
, Adaptive reading mode
, SGS Low Visual Fatigue Certification , ความหนาแน่น 446 PPI ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5
CPU : Snapdragon 8+ Gen 1
GPU : Adreno 730
RAM : 12 GB ชนิด LPDDR5
ROM : 256 GB ชนิด UFS 3.1
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 200 + 8 + 2 ล้านพิกเซล , f/1.7 + f/2.2 + f/2.4 , เซนเซอร์หลัก Samsung ISOCELL HP1
, ขนาด 1/1.22 นิ้ว , 8P lens, 85° FOV , รองรับ OIS , รองรับ Ultra Wide 120 องศา และ Macro Lens
รองรับฟีเจอร์
200MP Xiaomi ProCut
2x in-sensor zoom
Night mode, Ultra Night Video
Xiaomi ProFocus: Motion tracking focus, Motion capture, Eye tracking focus
8K video recording , HDR10+ Video
กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล , f/2.24
การบันทึกวิดีโอกล้องหน้า : 1080p@30/60fps, 720p@120fps
ลำโพงคู่แบบ Stereo by Harman/Kardon
รองรับระบบเสียง Hi - Res Audio และ Dolby Atmos
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ VC heat plate
รองรับ WiFi6 / Bluetooth 5.2 / NFC
รองรับพอร์ต IR Infrared
รองรับ X-axis horizontal linear motor
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C 2.0
แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mAh + 120W HyperCharge (0-100% ใน 18 นาที)
ระบบปฎิบัติการ : Android 12 + MIUI 13
มิติตัวเครื่อง : 163.1 × 75.9 × 8.6 mm.
น้ำหนัก : 205 กรัม
สเปค Xiaomi 12T
หน้าจอชนิด CrystalRes Amoled ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด 1220P (2712 × 1220 พิกเซล) , อัตรา Refresh Rate 120 Hz Adaptive Sync , Touch Sampling Rate 480 Hz , รองรับ TrueColor display 68 พันล้านสี , ความสว่างสูงสุด 900 nits , รองรับ HDR10+ , ความหนาแน่น 446 PPI ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5
CPU : MediaTek Dimensity 8100 Ultra
GPU : Mali - G610MC6
RAM : 8 GB ชนิด LPDDR5
ROM : 256 GB ชนิด UFS 3.1
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 108 + 8 + 2 ล้านพิกเซล , f/1.7 + f/2.2 + f/2.4 , เซนเซอร์หลัก Samsung ISOCELL HM6
ขนาด 1/1.67 นิ้ว , 83.6° FOV , รองรับ OIS
, รองรับ Ultra Wide 120 องศา และ Macro Lens
รองรับฟีเจอร์
Night mode, Ultra Night Video
กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล , f/2.24
ลำโพงคู่แบบ Stereo
รองรับระบบเสียง Hi - Res Audio และ Dolby Atmos
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ VC heat plate
รองรับ WiFi6 / Bluetooth 5.3 / NFC
รองรับพอร์ต IR Infrared
รองรับ X-axis horizontal linear motor
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C 2.0
แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mAh + 120W HyperCharge (0-100% ใน 18 นาที)
ระบบปฎิบัติการ : Android 12 + MIUI 13
มิติตัวเครื่อง : 163.1 × 75.9 × 8.6 mm.
น้ำหนัก : 202 กรัม
Unboxing
- ตัวเครื่อง Xiaomi 12T /12T Pro
- สาย USB Type - C
- 120W HyperCharge Adapter
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- เคสกันรอย
- เอกสารประกอบ
มาเริ่มกันที่ Design ของ Xiaomi 12T Series
Xiaomi ยังคงยึดหลักการออกแบบสมาร์ทโฟนในสไตล์มินิมอล โดยดีไซน์การออกแบบเดียวกับ Xiaomi 12 Series ด้วยโมดูลกล้องหลักอยู่ด้านบน มีขนาดเซนเซอร์ที่ใหญ่โต ช่วยทำให้ดูโดดเด่นขึ้น ถัดลงมาเป็นกล้อง Ultrawide และ เลนส์ Macro ที่ขนาดเล็กกว่า ทำให้ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับไฟแฟลช และ ข้อความสลักว่า 200MP สำหรับ 12T Pro และ 108MP สำหรับ 12T โดยภาพรวมมีการแบ่งพื้นที่กล้องออกเป็นส่วนๆ อีกทั้งฝาหลังยังทำจากกระจกป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ ทำให้ดูสวยงามและปราณีตอย่างมาก
ขอบด้านบนมีพอร์ต IR blaster, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และ ช่องลำโพง ช่องหนึ่งอยู่ด้านล่าง อีกช่องหนึ่งอยู่ด้านบน พร้อมโลโก้ Harman/Kardon (สำหรับ 12T Pro)
ในขณะที่ด้านล่าง มี ถาดใส่ซิม, ไมโครโฟนสนทนา , พอร์ต USB Type - C และ ช่องลำโพงที่สอง
มีขนาดตัวเครื่องเท่ากันทั้งสองรุ่นที่ 163.1 × 75.9 × 8.6 mm. และ น้ำหนัก 205 กรัม สำหรับ 12T Pro , 202 กรัม สำหรับ 12T
ถือจับถนัดมือ แต่พอถือไปนานๆก็แอบหนักพอตัวเหมือนกัน
พาร์ทรีวิวของ Xiaomi 12T Pro
Display
Xiaomi 12T Pro มาพร้อมหน้าจอชนิด CrystalRes Amoled ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด 2K (2712 × 1220 พิกเซล) , อัตรา Refresh Rate 120 Hz Adaptive Sync , Touch Sampling Rate 480 Hz , รองรับ TrueColor display 68 พันล้านสี , JNCD≈0.28, Delta E≈0.38 , ความสว่างสูงสุด 900 nits , รองรับ HDR10+ , Dolby Vision , Adaptive HDR , Adaptive reading mode, SGS Low Visual Fatigue Certification , ความหนาแน่น 446 PPI ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5
รองรับ Always On Display
อีกทั้งยังรองรับ AI Image Engine ที่ประกอบด้วยฟีเจอร์
MEMC
AI Image enhancement
AI HDR enhancement
Super Resolution
ตัวหน้าจอมีขอบบางเฉียบ 4 ด้าน ที่ทำให้หน้าจอดูสมจริงยิ่งขึ้น โดยส่วนบนของจอแสดงผลมีรูเจาะสำหรับกล้องเซลฟี่ ใช้กลางแจ้งมองเห็นชัดเจน ให้ความละเอียดสูงและสีสันสวยจัดจ้านอย่างมาก จัดเป็นหน้าจอระดับโปรเกรดที่มีความสมบูรณ์ในการแสดงผลอย่างมาก
Hardware & Performance
มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 โดย CPU ถูกออกแบบสามคลัสเตอร์ มี Prime Core ที่มีแกน ARM Cortex-X2 ที่มีความเร็ว 3.2 GHz นอกจากนี้ยังมี Performance Core สามคอร์ตามมาตรฐาน ARM Cortex-A710 ทำงานที่ความเร็ว 2.8 GHz สุดท้าย Efficiency Core จำนวนสี่คอร์ ชนิด ARM Cortex-A510 ใหม่ ทำงานที่ความเร็ว 2.0 GHz
โดยรวมแล้ว CPU ใหม่จะเร็วกว่าซีพียู Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย
ในส่วนของ GPU คือ Adreno 730 (ตัวเดียวกับ Snapdragon 8 Gen 1) มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ และ ประหยัดพลังงานได้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ (เมื่อเทียบกับ Snapdragon 888) พร้อมด้วยคุณสมบัติ Elite Gaming ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพการประมวลผลและประสิทธิภาพด้านพลังงานได้ดียิ่งขึ้น
โดย Adreno Frame Motion Engine ช่วยให้ GPU แสดงผลเกมด้วยอัตราเฟรมสองเท่าในขณะที่ใช้พลังงานในปริมาณเท่ากัน และยังสามารถรักษา FPS ไว้เท่าเดิมในขณะที่ลดกำลังประมวลผลลงครึ่งหนึ่ง
มี RAM 12 GB และ ROM 256 GB และ รองรับ RAM Expansion 3 GB
เมื่อใช้งานทั่วไป พบว่าเครื่องไม่ค่อยร้อนมากนัก ประคองอุณหภูมิ CPU ได้เฉลี่ยอยู่ที่แถวๆ 35 - 37 °C โดยมีระบบระบายความร้อน VC heat plate ช่วยได้ค่อนข้างดี
ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพใช้โปรแกรม GeekBench 5.0 ได้ผลทดสอบดังนี้
โดยได้คะแนนทดสอบ
Single Core 1319 คะแนน
Multi Core 4325 คะแนน
Software
ทำงานภายใต้ระบบปฎิบัติการ Android 12 และ MIUI 13 ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะมีเทคโนโลยีที่ทำให้ระบบเรียนรู้และจัดสรรค์ทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีลูกเล่นในการปรับแต่งใหม่ๆ เช่น Control Center , Smart Devices และการปรับแต่งอีกมากมาย
MIUI 13 มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงฟังก์ชั่นหลัก โดยมีความลื่นไหลโดยรวมเพิ่มขึ้น 52% บริษัทได้ปรับปรุง Focused Algorithms, Atomized Memory และ Liquid Storage ที่พัฒนาขึ้นเอง และระบบใหม่นี้เน้นที่การปรับความสามารถในการประมวลผลสำหรับแอปหลักระหว่างการใช้งานที่หนักหน่วง ป้องกันและลดการเสื่อมสภาพของความสามารถในการอ่าน-เขียนผ่าน Atomized Memory และ Liquid Storage technology 5% ในช่วง 36 เดือน ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้นานยิ่งขึ้น
Gaming
มาพร้อมฟีเจอร์ Game Turbo แบบใหม่ สำหรับจัดการทรัพยากรในระบบและการแจ้งเตือนต่างๆไม่ให้รบกวนขณะเล่นเกม
เมื่อทดสอบเล่น PUBG Mobile บนกราฟฟิคสูงสุดที่ Ultra HD และ เฟรมเรทระดับ Ultra พบว่าเล่นได้ลื่นมาก และเครื่องค่อนข้างร้อนเล็กน้อย อุณหภูมิ CPU เฉลี่ยอยู่ที่ 40 - 42°C
ทีเด็ดคือมี Boost Mode เมื่อเปิดแล้วจะสามารถดันเฟรมเรทขึ้นไปได้ถึง 74 fps โดยที่ไม่ร่วงมากด้วย เหวี่ยงๆอยู่แถว 72-74 เฟรมตลอดเกม จัดเป็นอานิสงค์ของ Adreno Frame Motion Engine บน Snapdragon 8+ Gen 1 อย่างแท้จริง
ระบบกล้อง
นี่แหละคือทีเด็ด เพราะรอบนี้ Xiaomi 12T Pro มาแบบโหดๆ ด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ทีที่เลนส์หลักมีความละเอียสูงถึง 200 ล้านพิกเซล
ประกอบด้วย
กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP1
- 1/1.22" sensor size
- 0.64μm 1.28μm 4-in-1 pixel size, 2.56μm 16-in-1 super pixel size
- f/1.69, 8P lens, มุมกว้าง 85°
- รองรับ OIS
- รองรับ 200MP Xiaomi ProCut
- รองรับ 2x in-sensor zoom
กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล
- 1/4" sensor size, 1.12μm pixel size
- f/2.2 , มุมกว้าง 120°
กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล
- 1/5" sensor size, 1.75μm pixel size
- f/2.4
รองรับฟีเจอร์ Xiaomi ProFocus : Motion tracking focus, Motion capture, Eye tracking focus
รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K และ HDR10+ Video
กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล
- 1/3.47" sensor size, 0.8μm pixel size
- f/2.24 , มุมกว้าง 78°
ภาพถ่ายในเวลากลางวันหรือกลางแจ้งทำได้ดี สามารถถ่ายภาพที่มีแดดจ้าของวันได้ โดยยังคงรักษารายละเอียดและความคมชัดไว้อย่างมาก คอนทราสต์ดี ให้สีใกล้เคียงกับสภาพจริงมาก
และเมื่อต้องการถ่ายภาพที่ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ให้เข้าโหมด Ultra HD และ กดเลือก 200MP แล้วลงมือถ่าย ประทับใจสุดคือ Shutter ไม่ Lack ประมวลผลหลังกดถ่ายไวมากแบบไม่ต้องรอ สามารถกดถ่ายต่อเนื่องได้ โดยตัวไฟล์ภาพมีขนาดใหญ่ที่ราวๆ 50 - 60 MB เก็บรายละเอียดได้ดีสุดๆ สามารถนำมา Crop To Zoom ในรายละเอียดเล็กๆได้สบายเลยครับ
ทั้งนี้กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ยังมีการซูม 2 เท่าแบบ in-sensor ซึ่งเป็นประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.22 นิ้ว สำหรับการถ่ายภาพบุคคลที่เหมาะสม นอกจากนี้การผสานของเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่กับซุปเปอร์พิกเซล 16-in-1 ที่ 2.56μm (16-in-1 super pixels at 2.56μm), เลนส์แบบ 8 ชิ้นเลนส์ (8P lens), ระบบกันสั่นแบบ OIS และโหมดกลางคืน ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถได้ภาพที่สว่างและชัดเจนแม้จะถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย
กล้อง Ultra Wide ให้มุม FOV ที่กว้างขึ้นถึง 120 องศา แต่มีรายละเอียดของภาพที่สมบูรณ์ น่าประทับใจ
ส่วนการถ่ายภาพ Portrait สามารถเบลอฉากหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับการถ่ายเซลฟี่ ด้วยกล้อง 20 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่คมชัด พร้อมรายละเอียดครบถ้วน และลูกเล่นฟิลเตอร์ให้ปรับพอประมาณ
สำหรับวิดีโอ กล้องด้านหลังสามารถบันทึกได้สูงสุด 8K 24fps ในขณะที่กล้องเซลฟี่สามารถบันทึกได้สูงสุด 1080p เท่านั้น
ตัวอย่างภาพถ่าย
กล้องหลัก
กล้อง 200MP
กล้อง Ultra Wide
Portrait Mode
Night Mode
กล้องหน้า
ระบบเสียง
มาพร้อมลำโพงคู่แบบ Stereo ปรับแต่งโดย Harman/Kardon เปิดสะเทือนเลือนลั่น สะใจมาก
ระบบความปลอดภัย
มาพร้อมกับเซนเซอร์สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอที่ใช้งานสะดวกและสแกนได้เร็ว และแน่นอนว่ามีระบบสแกนใบหน้ามาให้ด้วยเช่นกัน
แบตเตอรี่
ให้มาใหญ่ๆจัดเต็มที่ 5000 mAh ทีเด็ดอยู่ที่ระบบชาร์จ 120W HyperCharge อัดไม่ยั้ง ชาร์จ 0-100% ใช้เวลาเพียง 17-18 นาที และยังแถมอะแดปเตอร์ให้มาในกล่องอีกด้วย
พาร์ทรีวิวของ Xiaomi 12T
Xiaomi 12T ยังคงมาพร้อมหน้าจอชนิด CrystalRes Amoled ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด 2K (2712 × 1220 พิกเซล) , อัตรา Refresh Rate 120 Hz Adaptive Sync , Touch Sampling Rate 480 Hz , รองรับ TrueColor display 68 พันล้านสี , ความสว่างสูงสุด 900 nits , รองรับ HDR10+ , ความหนาแน่น 446 PPI ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5
โดยรวมแล้วขนาดหน้าจอ , ความละเอียด และ จำนวนการแสดงสีสันยังคงสวยงามเหมือนกับ Xiaomi 12T Pro ทุกประการ เพียงแต่มีการตัดฟีเจอร์จำพวก AI image Engine ออกไปเท่านั้น
Hardware & Performance
Xiaomi 12T ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8100-Ultra ที่มีกระบวนการผลิตระดับ 5nm ของ TSMC ซึ่งชิปเซ็ตนี้ได้รับการอัปเกรดด้วยโครงสร้าง GPU ใหม่ทั้งหมด สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานได้ดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ประกอบด้วย 4 คอร์ Cortex-A78 ที่มีความเร็ว 2.85 GHz และ 4 คอร์ Cortex-A55 ที่มีความเร็ว 2.0 MHz
ตัวจีพียู Mali-G610 MC6 ยังรองรับเทคโนโลยี HyperEngine 5.0 เพื่อประหยัดพลังงานขณะเล่นเกม รวมถึงรักษาระดับเฟรมเรทให้คงที่อีกด้วย
มี RAM 8 GB และ ROM 256 GB และ รองรับ RAM Expansion 3 GB
การทดสอบประสิทธิภาพใช้โปรแกรม GeekBench 5.0 ได้ผลทดสอบดังนี้
Single Core : 914 คะแนน
Multi Core : 3739 คะแนน
Gaming
ในส่วนของการเล่นเกมยังคงมาพร้อมฟีเจอร์ Game Turbo แบบเดียวกับ Xiaomi 12T Pro สำหรับจัดการทรัพยากรในระบบและการแจ้งเตือนต่างๆไม่ให้รบกวนขณะเล่นเกม
เมื่อทดสอบเล่น PUBG Mobile บนกราฟฟิคสูงสุดที่ Ultra HD และ เฟรมเรทระดับ Ultra เหมือน 12T Pro ก็ยังพบว่าเล่นได้ลื่นไหลอยู่
และเมื่อเปิด Boost Mode พบว่าตัวเครื่องทำระดับเฟรมเรทได้สูงสุดที่ราวๆ 60 - 61 fps และค่อนข้างแกว่งกว่ารุ่น Snapdragon 8+ Gen 1 อยู่พอประมาณ
ระบบกล้อง
Xiaomi 12T มาพร้อมกล้อง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล , กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และ กล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย
กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล
- เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HM6
- 1/1.67" sensor size, 1.92μm 9-in-1 pixel size
- f/1.7 , มุมกว้าง 83.6°
- รองรับ OIS
- Ultra Night Video
กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล
- 1/4" sensor size, 1.12μm pixel size
- f/2.2 , มุมกว้าง 120°
กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล
- 1/5" sensor size, 1.75μm pixel size
- f/2.4
กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล
- 1/3.47" sensor size, 0.8μm pixel size
- f/2.24 , มุมกว้าง 78°
ตัวอย่างภาพถ่าย
กล้องหลัก
กล้อง Ultra Wide
Portrait Mode
กล้องหน้า
ระบบเสียง
มาพร้อมลำโพงคู่แบบ Stereo แต่ไม่ได้ปรับแต่งโดย Harman/Kardon กระนั้นก็ให้เสียงดังคมชัดเช่นกัน
ระบบความปลอดภัย
มาพร้อมกับเซนเซอร์สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอที่ใช้งานสะดวกและสแกนได้เร็ว และแน่นอนว่ามีระบบสแกนใบหน้ามาให้ด้วยเหมือนกัน
แบตเตอรี่
ให้มาเท่ากันที่ 5000 mAh พร้อมระบบชาร์จ 120W HyperCharge และแถมอะแดปเตอร์ให้มาในกล่องเช่นกัน
ราคาจำหน่าย
Xiaomi 12T Series มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black , Silver และ Blue โดยจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
Xiaomi 12T Pro รุ่น RAM 12 GB/ROM 256 GB ราคา 25,990 บาท
Xiaomi 12T รุ่น RAM 12 GB/ROM 256 GB ราคา 17,990 บาท
สรุป
นี่คือคู่หูสมาร์ทโฟนที่ Xiaomi สร้างขึ้นมาได้อย่างร้ายกาจแบบรักพี่เสียดายน้องกันเลยทีเดียวครับ ต่างคนต่างก็มีทีเด็ดที่น่าสนใจเป็นของตัวเอง แต่ที่สำคัญคือทั้งสองรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีหน้าจอที่สวยงามคมชัดอย่าง Crystal Res , ชิปเซ็ตทรงพลังระดับเรือธง , กล้องหลังที่มีคุณภาพสูง และ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่พร้อมระบบชาร์จเร็วอันดับต้นๆของโลก ดังนั้น Xiaomi 12T Series ไม่ว่าตัวไหนก็ใช่สำหรับคุณครับ
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment