รัฐสภายุโรปประกาศอนุมัติกฎหมายให้ USB Type - C เป็นพอร์ตชาร์จมาตราฐานสากล !!!!! โดยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่จำหน่ายในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป จะต้องใช้พอร์ตชาร์จเหมือนกันทั้งหมด ภายในปี 2024 !!!!
ไฮไลท์สำคัญ ! 🔌👏
✔️โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต อีรีดเดอร์ กล้องดิจิตอล และอื่นๆ ต้องใช้ USB Type - C เท่านั้น หากไม่ทำตามจะไม่สามารถวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศโซนยุโรปได้ ภายในสิ้นปี 2024
✔️เทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่สามารถใช้ร่วมกันได้
คณะกรรมการตลาดภายในและการคุ้มครองผู้บริโภคของรัฐสภายุโรป ประกาศอนุมัติให้ใช้อินเทอร์เฟซ USB Type-C เป็นมาตรฐานสากลสำหรับอุปกรณ์ชาร์จที่จำหน่ายในสหภาพยุโรป
ได้มีการหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกฎที่มุ่งสร้างมาตรฐานพอร์ตเชื่อมต่อสำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆมาเป็นเวลานาน เช่น USB Type-C, Micro-USB และ Lightning จนล่าสุดสมาชิกคณะกรรมการเห็นพ้องตรงกันกับกฎระเบียบ ซึ่งกำหนดว่าสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้องดิจิตอล หูฟังและชุดหูฟัง คอนโซลเกมมือถือ และ ลำโพงแบบพกพา ทั้งหมดที่จำหน่ายในประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปจะต้องใช้พอร์ตชาร์จเหมือนกัน ยกเว้นอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทวอทช์ ฟิตเนสแทรกเกอร์ และอุปกรณ์อื่นๆที่มีขนาดเล็กจึงไม่สามารถใช้ขั้วต่อ USB Type-C ได้ พวกเขาจะได้รับการยกเว้นจากกฎหมายใหม่ สำหรับการนำ USB Type-C มาใช้เป็นมาตรฐานสากล
และวันนี้ ภายใต้กรอบการประชุมเต็มคณะของรัฐสภายุโรป ได้มีการประกาศอนุมัติกฎหมายดังกล่าว โดยจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2024
รายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายใหม่
กฎหมายฉบับใหม่ผ่านการประชุมรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 602 เสียง ไม่เห็นด้วย 13 เสียง และ งดออกเสียง 8 เสียง เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่มากขึ้นของสหภาพยุโรปในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และให้อำนาจผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ภายใต้กฎใหม่ ผู้บริโภคจะไม่ต้องซื้อที่ชาร์จใหม่ทุกครั้งที่ซื้ออุปกรณ์ใหม่ แต่จะสามารถใช้ที่ชาร์จเพียงอันเดียวสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาขนาดเล็กและขนาดกลางที่หลากหลาย
ไม่ว่าใครเป็นผู้ผลิต โทรศัพท์ แท็บเล็ต กล้องดิจิตอล หูฟังและ ชุดหูฟัง วิดีโอเกมมือถือ และ ลำโพงแบบพกพา e-reader คีย์บอร์ด เมาส์ ระบบนำทางแบบพกพา หูฟัง และ แล็ปท็อป รุ่นใหม่ทั้งหมด ที่สามารถชาร์จด้วยสายเคเบิลแบบมีสาย และใช้พลังงานสูงสุด 100 วัตต์ จะต้องมีพอร์ต USB Type-C
นอกจากนี้ เทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายจะต้องเป็นสากล หรือพูดง่ายๆว่าต้องใช้มาตราฐานเดียวกันในสหภาพยุโรป ภายในปี 2026 ด้วยนโยบาย "ส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยี"
เนื่องจากการชาร์จแบบไร้สายกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น คณะกรรมาธิการยุโรปจึงควรกำหนดเกณฑ์มาตรฐานความเข้ากันได้ภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้จะกำจัดผลกระทบของเทคโนโลยีซึ่งผู้บริโภคต้องพึ่งพาบริษัทเดียว
โดย MEPs ต้องการให้คณะกรรมาธิการยุโรปนำเสนอกฎหมายสำหรับเครื่องชาร์จแบบไร้สายภายในสิ้นปี 2026 เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้ร่วมกันได้ระหว่างมาตรฐานการชาร์จแบบไร้สายที่แตกต่างกันในปัจจุบันโดยกฎหมายนี้จะเป็นความพยายามที่จะลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และพยายามป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคถูกบังคับให้ใช้มาตรฐานการชาร์จไร้สายที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแต่ละบริษัทด้วย
ทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค
กฎใหม่เหล่านี้จะกระตุ้นให้ผู้บริโภคนำที่ชาร์จกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งช่วยประหยัดเงินได้ถึง 250 ล้านยูโรต่อปี
จากข้อมูลของสหภาพยุโรป ปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อปีในรูปแบบของเครื่องชาร์จเพียงอย่างเดียวคือ 11,000 ถึง 13,000 ตัน และคณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่าการใช้กฎหมายการชาร์จแบบสากลจะช่วยผู้บริโภคชาวยุโรปประหยัดเงินได้ 250 ล้านยูโรต่อปี
Source : FoneArena
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment