FullReview : Seagate รุ่น One Touch SSD อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขนาดเล็กจิ๋ว พกพาง่าย พร้อมอัตราโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง ในความจุถึง 2 TB !!!!

ในวันนี้เราจะมารีวิว SSD จาก Seagate รุ่น One Touch SSD (นับเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของซีเกทตอนนี้เลย)  ความจุ 2 TB โดยความพิเศษก็คือ เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขนาดเล็ก พกพาง่าย และบันทึกข้อมูลได้รวดเร็วจนน่าประหลาดใจ รองรับการใช้งานกับ Windows , Mac และ Android ได้ โดยไม่ต้องรีฟอร์แมตด้วย นอกเหนือจากนี้จะมีอะไรอีก ลองไปดูกันครับ

Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย

- HDD
- สาย USB A To C
- สาย USB C To C
- เอกสารสำคัญ

คุณสมบัติของ SEAGATE One Touch SSD

- เชื่อมต่อการใช้งานด้วย USB Type-C (USB 3.2 Gen2)

- มีความเร็วในการ อ่าน/เขียน สูงสุดถึง 1030 MB/s

- สามารถใช้งานได้ทั้ง Windows อุปกรณ์ที่ใช้งานระบบ Android OS ได้โดยไม่ต้องทำการ Re-Format

- ระบบ Android สามารถ Download App Seagate SSD Touch เพื่อใช้งานร่วมกันได้

- วัสดุพื้นผิวแบบโลหะง่ายต่อการระบายความร้อน ไม่อมความร้อนไว้ภายใน ทำให้มีความเสถียรต่อการใช้งานต่อเนื่องได้

Hardware & Design

Seagate One Touch SSD เป็นโซลิดสเตทไดรฟ์ มีน้ำหนักเบา และ ขนาดที่เล็กมาก โดยตัวที่รีวิวนี้คือสี Sliver ใช้วัสดุพลาสติกเป็นหลัก ปิดทับฝาด้านบนด้วยวัสดุผิวคล้ายโลหะ 

และด้านข้างหุ้มด้วยลวดลายแบบตะแกรงจากวัสดุผ้าทอ ดูสวยทันสมัย

ขนาดตัวฮาร์ดไดรฟ์คือ 50 x 10.6 x 70 มม. และ มีน้ำหนักเพียง 45 กรัม เท่านั้น

ขอบด้านหน้ามีพอร์ต USB - Type C สำหรับเสียบสายเชื่อมต่อ และ มีไฟ LED สีขาวแสดงสถานะ

ตัว SSD มีระบบป้องกันแรงกระแทกจากการหล่นในระดับ 2 เมตร พร้อมบริการกู้ข้อมูลใน HDD หากมีปัญหาข้อมูลสูญหาย จะแถมฟรีบริการกู้ข้อมูลนาน 3 ปี อีกด้วย (แต่ไม่มีปัญหาจะดีที่สุดนะครับ 😁)

การติดตั้งใช้งานกับระบบปฎิบัติการ Windows

เมื่อเราเสียบสาย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ ในเบื้องต้น เราจะเจอ HDD ชื่อ One Touch ให้คลิกเข้าไปในตัว One Touch จะพบไฟล์ดังต่อไปนี้

1.Start_Here_Mac.app สำหรับติดตั้งโปรแกรมของ Mac OS

2.Start_Here_Win.exe สำหรับติดตั้งโปรแกรมของ Windows

3.Warranty.pdf สำหรับการรับประกัน

โดยเบื้องต้นหากเราต้องการใช้งานเจ้าตัว Seagate One Touch SSD ให้เต็มประสิทธิภาพ ก็จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมเสียก่อน ซึ่งหากเราใช้ Windows ก็เลือกไฟล์ .exe ด้านบน แล้วกดติดตั้งเลย

เมื่อเรากดติดตั้งแล้ว ตัวโปรแกรมจะเปิดหน้าเว็บไซต์ Seagate เพื่อให้เราไปลงทะเบียนแสดงความเป็นเจ้าของ HDD กันเสียก่อน ก็กรอกข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถดาวน์โหลดไฟล์ SeagateToolkit.exe ไปติดตั้งได้

เมื่อติดตั้งเสร็จ เข้ามาหน้าแรกก็จะเจอกับเมนูการตั้งค่า HDD ต่างๆ เป็นอันเรียบร้อยเสร็จสิ้นครับ

โดยเมนูจะมี SyncPlus สำหรับสำรองข้อมูลแบบอัตโนมัติ โดยสามารถเลือก All Files หรือ แยกประเภทได้

ทดสอบความเร็วในการเขียนข้อมูลลง SSD

พบว่าการใช้งานจริงให้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากครับ โดยความเร็วในการเขียนไฟล์ลงฮาร์ดไดรฟ์สูงสุดจะอยู่ที่ 269 MB/s และ เฉลี่ยตลอดการเขียนไฟล์ที่ราวๆ 150 MB/s

การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Android

สามารถ Download แอป Seagate SSD Touch จาก Google Play Store มาติดตั้ง จากนั้นก็ใช้สาย USB C To C มาเสียบ 

เราก็จะสามารถใช้งาน Cross Platform ได้โดยไม่ต้อง Re - Format เลยครับ 

ซึ่งก็จะมีเมนูจำพวก Sync และ BackUp คล้ายๆกับบน Windows เลย

สรุป

โดยรวมแล้ว โมมองว่า SEAGATE One Touch SSD เหมาะคนยุคใหม่มาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ดีไซน์ ขนาดที่พกพาง่าย

SEAGATE One Touch SSD เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆครับ ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 45 กรัม ขนาดที่เล็กมากจนทำให้พกพาง่ายและสะดวก ดีไซน์สวยแบบเรียบๆแต่มีสีสันให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ ดำ, เทา, ฟ้า พร้อมความจุเยอะมาก มีประสิทธิภาพและความเร็วในการอ่านเขียนที่สูพร้อมบริการกู้ข้อมูลอีก 3 ปี หากไฟล์ข้อมูลสูญหาย ก็อย่ารอช้าที่จะเป็นเจ้าของครับ

Seagate OneTouch SSD สามารถเลือกความจุได้ระหว่าง 500GB (3,490 บาท) , 1TB (6,390 บาท) และ 2TB (8,330 บาท)

สามารถหาซื้อได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และ วางจำหน่ายที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของซีเกทบน Shopee และ Lazada พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษตลอดปี

Article By : โลกไอทีวันนี้