ตีแผ่เจาะลึก !!!! ถ้าใช้สาย USB Type - C ของ Android ชาร์จ iPhone 15 เครื่องจะร้อนจนพังจริงหรือ ?!!!! และ Apple เรียงพินสายตัวเองแบบวางยาไว้เหรอ ?! คำตอบคือ ไม่จริงทั้งนั้น !!!!!
ความจริงของเรื่องก็ชัดเจน มีสายทั้งหมด 3 เส้น ในภาพนี้ และทั้งหมด ไม่มีโอกาสสร้างความเสียหายให้แก่กัน ไม่ว่าจะใช้สาย USB-C "Android" ชาร์จ iPhone หรือใช้สาย iPhone ชาร์จ Android
🔴 สาย USB-C แบบ "14 Pin" เป็นไปตามข้อกำหนดมาตราฐาน USB 2.0
โดยรวมแล้ว มีพินที่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด 24 Pin บนสาย USB Type-C โดยมี 12 Pin ขนานกัน เพื่อให้เป็นแบบสองทิศทาง ซึ่งปกติสายเคเบิลไม่ได้ถูกใช้เพียงเพื่อการถ่ายโอนข้อมูลและพลังงานเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการควบคุมข้อมูล การชาร์จ และโหมดสำรองระหว่างโฮสต์และไคลเอนต์ หรือโฮสต์และแหล่งพลังงาน
และสำคัญเลยคือ "ไม่ใช่ทุกพินที่จำเป็นต้องต่อขั้วหรือแสดงบนสาย USB-C" !!!! 🔴 (แต่สายที่ใช้ครบ 24 Pin จริงๆน่ะมี แต่ไม่ใช่กับมือถือทุกเครื่องที่จำเป็น)
จากภาพด้านล่างมีสาย USB Type - C ของ Samsung , Xiaomi และ Apple เทียบกับ Pin Layout คือเรียงเหมือนกันตรงตามมาตราฐานทุกประการ
ดังนั้นไอ้ที่พูดกันว่า Pin 9 กับ Pin 11 ของ iPhone ทำขั้วชิดกันกว่าสาย Android นี่คือไม่ใช่แน่นอน !
โดยเมื่อพิจารณาจากภาพด้านบน เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าสายเคเบิลไม่จำเป็นต้องใช้ทุกพิน สายเคเบิลแบบ USB 2.0 จะไม่มีพินที่ทำเครื่องหมายเป็นสีฟ้าอ่อนและสีเขียวเชื่อมต่อกับสิ่งใดๆ และทั้ง 3 เส้น มี Pin เท่ากันคือ 14 Pin (ไม่นับเขี้ยวด้านข้าง 2 ด้าน)
การเชื่อมต่อแบบ USB-C เบื้องต้น จะช่วยป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์ในระหว่างการเชื่อมต่อกัน สายเคเบิลจะสื่อสารกลับไปกลับมาว่าควรกระจายพลังงานใดบ้าง และควรใช้โวลต์และแอมป์รวมกันเท่าใดจากอุปกรณ์ชาร์จไปยังอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงาน และในระหว่างการเชื่อมต่อนี้ หากกระบวนการไม่ได้ให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับกำลังไฟฟ้าที่จะจ่าย พลังงานก็จะไม่ถูกถ่ายโอน (พูดง่ายๆคือหัวชาร์จไม่ตรงกับมาตราฐานการจ่ายไฟที่ตัวสมาร์ทโฟนรองรับ)
สรุปสั้นๆ ก็คือ ใช้สายเคเบิล USB Type - C "Android" ชาร์จ iPhone 15 ได้เลย ไม่พังครับ
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment