ทีมวิศวกรของ NASA แถลงพบปัญหาบนยาน Voyager 1 วัตถุที่เดินทางไกลโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 2.4 หมื่นล้านกิโลเมตร ด้วยอายุ 46 ปี !!! หลังคอมพิวเตอร์ FDS บนยานเกิดค้าง สั่งรีเซ็ตไม่หาย !!!!
ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณช่วงกลางเดือน กรกฏาคม ในปีที่แล้ว ทีมวิศวกรรมของยานอวกาศ Voyager 1 ได้เผชิญปริศนา ภายหลังจากที่นักสำรวจระหว่างดวงดาวยังคงทำงานตามปกติ สามารถรับและดำเนินการคำสั่งจากโลก พร้อมกับรวบรวมและส่งคืนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้ แต่อยู่ๆกลับพบว่าการอ่านข้อมูลจากระบบการควบคุมของยาน (AACS) มีปัญหา
โดย AACS เป็นระบบควบคุมทิศทางของยานอวกาศอายุ 46 ปี เหนือสิ่งอื่นใด มันมีหน้าที่ทำให้เสาอากาศกำลังสูงของยาน Voyager 1 หันมาที่โลกได้อย่างแม่นยำ และสามารถส่งข้อมูลกลับบ้านได้ สัญญาณทั้งหมดบ่งชี้ว่า AACS ยังคงทำงานอยู่ แต่ข้อมูลการวัดและการส่งข้อมูลทางไกลได้ค่าที่ไม่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลที่ส่งกลับมาดูเหมือนถูกสร้างขึ้นแบบสุ่ม อ่านค่าไม่ได้ และไม่สะท้อนสถานะจริงที่เกิดขึ้นกับยาน
ปัญหานี้ไม่ได้ทำให้ระบบป้องกันข้อผิดพลาดบนยานทำงาน ซึ่งระบบนี้ออกแบบมาเพื่อให้ยานอวกาศเข้าสู่ "โหมดปลอดภัย (Safe Mode)" ซึ่งเป็นสถานะที่ยานจะปิดระบบที่ไม่จำเป็นทั้งหมด เพื่อให้วิศวกรมีเวลาในการวินิจฉัยและแก้ปัญหา แบะในที่สุดทีมวิศวกรของยานโวเอเจอร์ 1 ก็ซ่อมแซมระบบ AACS ได้สำเร็จ โดยที่มาของปัญหาคือ
AACS ได้ส่งข้อมูล telemetry ผ่านคอมพิวเตอร์ออนบอร์ดที่หยุดทำงานไปเมื่อหลายปีก่อนและคอมพิวเตอร์ชุดนั้นทำให้ข้อมูลเสียหาย ทีมวิศวกรจึงเลือกที่จะลองใช้วิธีแก้ปัญหาที่มีความเสี่ยงต่ำ คือสั่งให้ AACS เปลี่ยนเส้นทางข้อมูลกลับไปยังคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานตามปกติ (FDS) และสามารถแก้ไขปัญหาได้
แต่ล่าสุดในวันนี้ดูเหมือนจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นอีกครั้ง โดย NASA ได้ออกแถลงการณ์ว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมา คอมพิวเตอร์บนยาน Voyager 1 ที่เรียกว่า Flight Data System (FDS) ได้ส่งข้อมูลที่อ่านค่าอะไรไม่ได้เลยกลับมายังโลก
โดยสถานะปัจจุบันคือทาง NASA ยังคงสื่อสารกับคอมพิวเตอร์บนตัวยาน Voyager 1 ได้ แต่ไม่สามารถอ่านค่าเครื่องมือวิทยาศาสตร์บนยาน (Telemetry modulation unit : TMU) รวมไปถึงแปลความหมายของ FDS ได้ เนื่องจาก ตัวเลขที่ส่งกลับมาเป็นเลข 0 กับ 1 ที่เรียงในรูปแบบซ้ำๆ จนเหมือนกับคอมพิวเตอร์ค้าง เบื้องต้นทาง NASA ได้สั่ง reboot คอมพิวเตอร์หลักแล้วแต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
โดยตอนนี้ทีมวิศวกรอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการพัฒนาแผนใหม่เพื่อแก้ไขปัญหา เพราะยานอวกาศแฝด Voyager 1 และ 2 ถูกส่งขึ้นอวกาศไปในปี 1977 เป็นยานอวกาศสองลำที่ทำงานยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้การค้นหาวิธีแก้เป็นความท้าทายที่ต้องเผชิญอย่างมาก และมักจะต้องอาศัยการปรึกษาหารือกับเอกสารต้นฉบับอายุหลายสิบปีที่เขียนโดยวิศวกรที่ไม่ได้คาดการณ์ถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ ทีมจึงต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจว่าคำสั่งใหม่จะส่งผลต่อการปฏิบัติงานของยานอวกาศอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจ
ปัจจุบัน Voyager 1 และ Voyager 2 สำรวจระบบสุริยะของเรามาเป็นเวลา 46 ปีแล้ว ขณะนี้ยานทั้งสองอยู่ในช่องว่างระหว่างดวงดาว (Interstellar) บริเวณนอกเฮลิโอพอส หรือฟองอากาศของอนุภาคพลังงานและสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์
โดยยาน Voyager 1 อยู่ห่างจากโลก 1.45 หมื่นล้านไมล์ (~2.4 หมื่นล้านกิโลเมตร) และใช้เวลาส่งข้อมูล 22 ชั่วโมง 33 นาทีแสง นั่นหมายความว่าจะใช้เวลาประมาณสองวันในการส่งข้อความไปยังยาน และรอรับคำตอบกลับจากยานอีก 1 วัน
ยาน Voyager 2 แฝดของ Voyager 1 (ปัจจุบันอยู่ห่างจากโลก 1.21 หมื่นล้านไมล์ หรือ 1.95 หมื่นล้านกิโลเมตร) ยังคงทำงานตามปกติ
แม้จะมีความท้าทายในการใช้งานยานอวกาศอายุ 46 ปี แต่ทีมวิศวกรก็กำลังทำงานเพื่อให้มันใช้งานได้นานที่สุด
ยานอวกาศทั้งสองใช้งานได้นานกว่าที่ผู้วางแผนภารกิจคาดไว้มาก และเป็นยานอวกาศเพียกลุ่มเดียวที่รวบรวมข้อมูลในอวกาศตรงพื้นที่ระหว่างดวงดาว ข้อมูลที่ได้จากพื้นที่นี้ช่วยผลักดันให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเฮลิโอสเฟียร์ ซึ่งเป็นแนวกั้นแบบกระจายที่ดวงอาทิตย์สร้างขึ้นรอบๆ ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา
ยานอวกาศแต่ละลำผลิตพลังงานไฟฟ้าได้น้อยกว่า 4 วัตต์ต่อปี ซึ่งเป็นการจำกัดความสามารถที่ยานทำงานได้ ทีมวิศวกรรมภารกิจได้ปิดระบบย่อยและเครื่องทำความร้อนต่างๆ เพื่อสำรองพลังงานสำหรับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์และระบบที่สำคัญ ยังไม่มีการปิดเครื่องมือวิทยาศาสตร์อันเป็นผลมาจากพลังงานที่ลดน้อยลง และทีม Voyager กำลังทำงานเพื่อให้ยานอวกาศทั้งสองทำงานและส่งข้อมูลได้จนถึงอย่างน้อยปี 2025
Source : NASA
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment