FullReview : Xiaomi 14 เรือธงไซส์มินิ ดีไซน์สวย ถือจับถนัดมือ พร้อมสเปคและกล้องเทพเกินตัว ด้วย Leica Summilux !!!!


Xiaomi 14 สมาร์ทโฟนเรือธงน้องเล็กที่สเปคแรงแบบไม่ธรรมดา จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยได้เห็นกันซักเท่าไหร่ในตลาด กับขนาดเครื่องที่เล็กกระทัดรัด แต่อัดแน่นด้วยสมรรถนะระดับสูง เราลองขอหยิบมารีวิวพูดถึงให้ฟังกันซักเล็กน้อยครับ ว่ามันมีอะไรเด็ดๆบ้าง

ไฮไลค์สำคัญ

Xiaomi 14 มีหน้าจอ TCL C8 LTPO OLED แบบแบนขนาด 6.36 นิ้ว ที่มีความสว่างสูงสุด 3,000 nits, อัตรารีเฟรช 1-120Hz, ขอบจอแคบพิเศษ 1.61 มม., ขอบจอล่างแคบ 1.71 มม. และอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.3%

ด้านการออกแบบ มีตัวเครื่องแคบเป็นพิเศษ 71.5 มม. สำหรับการใช้งานด้วยมือเดียวได้ง่าย สีชมพูที่ใช้วัสดุหนังนาโนไฮเทคซึ่งมีสัมผัสที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อน ส่วนรุ่นอื่นๆ มีด้านหลังเป็นกระจกฝ้า

เซ็นเซอร์อินฟราเรดถูกซ่อนอยู่ในบริเวณกล้องด้านหลัง และช่องลำโพงถูกเปลี่ยนเป็นแบบไมโครสลิต , ไมโครโฟนด้านบนถูกซ่อนอยู่ในบริเวณหูฟัง และยังรองรับ IP68 สำหรับการกันฝุ่นและน้ำ

ใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 พร้อม RAM LPDDR5X และมีระบบระบายความร้อนแบบปั๊มวงกลม ด้วยการออกแบบการแยกไอ-ของเหลว พร้อมโครงสร้างการไหลเวียนทางเดียว ทำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบเดิม

Xiaomi 14 มีกล้องหลังสามตัวพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 50MP 1/1.31″ 1.2μm, รูรับแสง f/1.6 , กล้อง Ultra Wide 50MP และ กล้อง TelePhoto 50MP 3.2X ทั้งหมดใช้เลนส์ Leica Summilux

มีแบตเตอรี่ 4610 mAh, รองรับการชาร์จ 90W ที่สามารถชาร์จ 0 - 100% ใน 31 นาที , รองรับชาร์จไร้สาย 50W  และการชาร์จแบบไร้สายย้อนกลับ 10W

🟠 สเปค Xiaomi 14

หน้าจอแบนชนิด LTPO OLED ขนาด 6.36 นิ้ว , ความละเอียด 1.5K (2670 x 1200 พิกเซล) , 12 bits , อัตรารีเฟรช 1-120Hz, ความสว่างสูงสุด 3000 nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5,000,000:1 ,รองรับ HDR10+, Dolby Vision,  การลดแสงแบบ PWM 1920Hz และ DC Dimming
CPU : Snapdragon 8 Gen 3 4nm
GPU : Adreno 750
RAM : 12GB ชนิด LPPDDR5x
ROM : 512GB  ชนิด UFS 4.0
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
กล้องหลัง Leica 3 ตัว เลนส์หลัก 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ Light Fusion 900 ขนาด 1/ 1.31″, รูรับแสง f/1.6, Hyper OIS, แฟลช LED, เลนส์ Leica Summilux, เลนส์ Ultra Wide 115° Leica 50MP พร้อมรูรับแสง f/2.2, เซ็นเซอร์ Samsung JN1, กล้อง TelePhoto 50MP , รองรับ Optical Zoom 3.2X , เลนส์ Infinity Leica , รูรับแสง f/2.0, OIS, เซ็นเซอร์ Samsung JN1, การบันทึกวิดีโอ 8K
Portrait รองรับ 4 ระยะเลนส์  35/50/75/90 มม.
กล้องหน้า 32MP , เซนเซอร์ OmniVision OV32B พร้อมรูรับแสง f/2.0 , รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K 60 fps
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
รองรับลำโพงสเตอริโอ, Dolby Atmos, อาเรย์ไมโครโฟน 4 ตัว
รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP68
รองรับ Wi-Fi 7 802.11 be, Bluetooth 5.4, Beidou, Galileo, GLONASS, GPS (L1 + L5), NavIC, NFC
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C 3.2 Gen 1
แบตเตอรี่ 4610 mAh + ระบบชาร์จเร็ว 90W , ชาร์จไร้สาย 50W และ การชาร์จไร้สายย้อนกลับ 10W
ระบบปฎิบัติการ : Android 14 + HyperOS 1.0
ขนาด : 152.8×71.5× 8.22 มม.
น้ำหนัก : 183 กรัม


Design

Xiaomi ยังคงยึดหลักการออกแบบสมาร์ทโฟนในสไตล์มินิมอล โดยมีดีไซน์สวยพรีเมี่ยม ในขนาดกะทัดรัด โดยมีตัวเลือก 3 สี ได้แก่ สี ดำ, ขาว และ สีเขียว Jade Green ซึ่ง สีดำเป็นกระจกด้านผิวทราย ส่วนที่เหลือเป็นกระจกอาบผิวมัน (สีเขียวแอบเป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก)





โดยรุ่นที่เราใช้ในรีวิวนี้ จะเป็นสี Jade Green ซึ่งจะมีขนาดตัวเครื่อง 71.5 x 152.8 x 8.2 mm. มีน้ำหนัก 183 กรัม ซึ่งถือว่าเล็ก เบาทพกพาสะดวกอย่างมาก


Display

Xiaomi 14 มาพร้อม

หน้าจอชนิด C8 LTPO OLED ขนาด 6.36 นิ้ว
ความละเอียด 1.5K (2670 x 1200 พิกเซล)
12 bits , อัตรารีเฟรช 1-120Hz
ความสว่างสูงสุด 3000 nits
อัตราส่วนคอนทราสต์ 5,000,000:1
รองรับ HDR10+, Dolby Vision
การลดแสงแบบ PWM 1920Hz และ DC Dimming

ตัวหน้าจอมีขอบบางเฉียบ 4 ด้าน ที่ทำให้หน้าจอดูสมจริงยิ่งขึ้น พร้อมครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus

โดยส่วนบนของจอแสดงผลมีรูเจาะสำหรับกล้องเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล





นอกจากนี้ยังให้ความละเอียดสูงและมีสีสันสวยจัดจ้าน และจัดเป็นหน้าจอระดับโปรเกรดที่มีความสมบูรณ์ในการแสดงผลด้วยสเปคชั้นเลิศและฮาร์ดแวร์ที่อัดแน่นอย่างมากเลยครับ


Performance

Xiaomi 14 มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ที่มีรูปแบบ CPU 1+5+2 ซึ่งจะมีการเพิ่มจำนวนแกนประสิทธิภาพสูง(Performance Core) และ ลดแกนประสิทธิภาพหลัก (Efficiency Core) ลง เมื่อเทียบกับ Snapdragon 8 Gen 2 ที่จัดเรียงแบบ 1+4+3 และจะมี Cortex X4 หนึ่งคอร์ ที่มีความเร็ว 3.3 GHz

ในทางกลับกัน Cortex A720 ทั้งห้าคอร์ จะมีความเร็วที่ 3.0 GHz ส่วน Cortex A520 สองคอร์ จะมีความเร็ว 2.2 GHz

นอกเหนือจากการจัดเรียง CPU และความเร็วแล้ว Snapdragon 8 Gen 3 SoC จะมาพร้อมกับการรองรับหน่วยความจำภายใน UFS 4.1, หน่วยความจำ LPDDR5 ที่มีความเร็ว 7,500 MT/s, Adreno 750 GPU และโมเด็ม Qualcomm X75 5G





ทำงานบนระบบปฎิบัติการ Xiaomi HyperOS รุ่นใหม่ ที่มีความยืดหยุ่นและรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แพลตฟอร์มอื่นๆได้ราบรื่นและง่ายมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่อีกด้วย

มาพร้อม RAM LPDDR5X ขนาด 12GB จับคู่กับ ROM UFS 4.0 ขนาด 512GB

โดยมีฟีเจอร์ Memory Extension ที่สามารถขยาย RAM ได้สูงสุดอีก 8GB จึงเปรียบเสมือนมี RAM สูงสุด 20GB

สามารถทำคะแนนทดสอบบนแอปพลิเคชั่น Geekbench 6.0 ได้ดังนี้

Single Core 2186 คะแนน
Multi Core 6647 คะแนน

📸 ระบบกล้อง

ครั้งนี้ Xiaomi 14 มาด้วยความพิเศษเหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับ ด้วยความร่วมมือระหว่าง Xiaomi × Leica Camera

ที่เป็นความร่วมมือเชิงลึกที่เรียกว่า "Multi-stage Imaging Process" โดยทาง Leica เข้าไปมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการผลิตและปรับแต่ง ได้แก่

- Optical Design
- Lens & Camera
- Image Quality & Tuning
- Assessment & Approval

ซึ่งเป็นการดูแลตั้งแต่เริ่มออกแบบเลนส์ ไปจนถึงการติดตั้ง , ปรับแต่ง และ ตรวจสอบขั้นสุดท้าย เพื่อให้ได้มาตราฐานของไลก้าอย่างดีที่สุด

อีกทั้ง Xiaomi 14 ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้แพลตฟอร์ม "Authentic Leica Imagery" ซึ่งเป็นการนำประสบการณ์การในกล้องไลก้าแท้ๆ มาใส่ไว้บนสมาร์ทโฟน กับเลนส์ Leica Summicron , Filters , เสียงชัตเตอร์ และ โทนอารมณ์กับประสบการณ์ทั้งหมด (Emotive & Experience)

สเปคกล้อง Xiaomi 14

กล้องหลัง 3 ตัว Leica Vario - Summilux ความละเอียด 50 + 50 + 50 ล้านพิกเซล , f/1.6 + f/2.2 + f/2.0

- Leica Main Camera เซนเซอร์หลัก Light Fusion ขนาด 1/1.31 นิ้ว , 7P Aspherical Leica lens, 85° FOV , รองรับ OIS + EIS , ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 24 มม

- Leica Ultra Wide 115 องศา เซนเซอร์ Samsung JN1 , ความยาวโฟกัส 15 มม. รูรับแสง f/2.2 ชุดเลนส์ 5P

- Leica TelePhoto Optical Zoom 3.2x เซนเซอร์ Samsung JN1 , ความยาวโฟกัส มม. รูรับแสง f/2.0 ชุดเลนส์ 5P , รองรับ OIS

โดยกล้องหลักใช้ชุดเลนส์ 7P Aspherical Lens ช่วยให้จับแสงได้มากขึ้น ตัวเลนส์ยังผ่านการเคลือบ ALD (Atomic Layer Deposition) หลายชั้น เพื่อเพิ่มอัตราการส่งผ่านแสงและลดการสะท้อนของแสง ช่วยเพิ่มความคมชัดสมจริง เมื่อถ่ายภาพย้อนแสง ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน

ในส่วนของ UI กล้องมาพร้อมสไตล์ใหม่ที่เรียกว่า Classic UI ในอารมณ์ของเมนูกล้องสมัยก่อน เพิ่มความพรีเมี่ยมในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

มีลายน้ำ Leica แบบพิเศษที่ปรับแต่งมาเพื่อ Xiaomi 14 โดยเฉพาะ

โหมด Photo สามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.6x ไปจนถึง 60x

และเมื่อเลือกสไตล์ในโหมด Photo จะพบกับสไตล์การถ่ายภาพ Leica Vibrant Look และ Leica Authentic Look ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกล้อง Leica ช่วยให้ภาพถ่ายในฉากที่ทั้งส่วนมืดและสว่างสวยงามสมจริงตามแบบฉบับของกล้อง Leica โดยสามารถเปิดใช้งานสไตล์ที่มุมบนขวามือ ถัดจาก HDR

- Leica Vibrant Look ให้ความสว่างและความอิ่มตัวของสีเพื่อสร้างเงาที่คมชัดและสีสันที่สดใสในขณะที่ยังคงรักษาความแม่นยำไว้

- Leica Authentic Look รักษาความคมชัดได้อย่างดีในระหว่างพื้นที่สว่างและที่มืด และมีความแม่นยำในการรักษา White Balance ในภาพ

มีระบบ Master-lens system ซึ่งประกอบไปด้วย Documentary 35mm, Swirly bokeh 50mm และ Soft focus 90mm โดยทั้ง 3 แบบ ได้รับการพัฒนามาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพ Portrait ให้สวยงามราวกับมืออาชีพ ด้วยเอฟเฟกต์ละลายฉากหลังโบเก้แตกต่างกันไปตามระยะโฟกัส

ในการถ่ายวิดีโอ สามารถถ่ายที่ความละเอียดสูงสุดได้ 8K ที่อัตรา 24 เฟรมต่อวินาที , 4K @ 30fps และยังรองรับการบันทึกวิดีโอ 10-bits LOG 4:2:0 H.265 ด้วย Rec.709 LUT ซึ่งปกติจะพบได้เฉพาะกล้องใหญ่ระดับโปรเท่านั้นด้วย

และใน Pro Mode ยังมีฟีเจอร์ Leica Custom Tone ที่สามารถเลือกปรับโทนภาพในสไตล์ Leica แบบ Manual ได้ทันทีก่อนถ่ายแบบ Real - Time ซึ่งเป็นครั้งแรกในวงการสมาร์ทโฟนอีกด้วย

และใน Gallery ยังรองรับฟีเจอร์ AI Sky สำหรับแก้สีท้องฟ้า ฟ้ามืดฟ้าปิดก็สว่างได้ทันที หรือ อยากให้มีพระอาทิตย์ตก , ดาวเต็มท้องฟ้า ก็เนรมิตได้ง่ายๆ

พูดมาเยอะขนาดนี้คงไม่ต้องบอกซ้ำแล้วว่ากล้องมันดีขนาดไหน แต่ต้องรีแคปจริงๆว่า Xiaomi 14 เป็นกล้องชั้นเลิศที่ดีที่สุดในกลุ่มราคาเดียวกันแล้ว โดยการปรับจูนของ Leica นั้นลงตัวแบบขั้นเทพอย่างมาก ทั้งสีสันที่ได้ คุณภาพของไฟล์ และ ลูกเล่นการปรับแต่งต่างๆที่จัดมาให้แบบเต็มสูบ  ลองไปชมตัวอย่างภาพถ่ายกันเลยครับ

ตัวอย่างภาพถ่าย

เลนส์หลัก


Ultra Wide


TelePhoto



Leica Filters



กล้องหน้า

Xiaomi 14 มีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ชุดเลนส์ 5P Aspherical Lens มีฟีเจอร์ Beautify สามารถปรับบิวตี้ได้อย่างละเอียด รวมถึงมี Filters สำหรับเปลี่ยนโทนสีภาพถ่าย อีกทั้งยังรองรับโหมด Portrait สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้อีกด้วย


พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าที่ความละเอียดสูงสุด 4K @ 60fps

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า


🔋Battery

Xiaomi 14 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4610mAh ที่รองรับ 90W HyperCharge และ 50W Wireless Charge แต่น่าเสียดายที่ไม่แถมอุปกรณ์ชาร์จ 120W Power Adapter มาให้ในกล่อง ต้องหาซื้อแยกต่างหาก (แต่มีโปรช่วงพรีออเดอร์แถมให้อยู่นะ) และยังมีชิป Surge G1 ของ Xiaomi ที่ช่วยจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และยังมีเทคโนโลยี ISP (Internal ShortagePrecaution), SOA (Safety Operating Area) และ DTPT (DynamicTurbo Power Technology) เพิ่มความปลอดภัยให้กับแบตเตอรี่ตลอดการใช้งานและการชาร์จอีกด้วย


💵 ราคาจำหน่าย

Xiaomi 14 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย สนนราคาจำหน่าย 29,990 บาท สำหรับรุ่น RAM 12GB/ROM 512GB ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม


สรุป

Xiaomi 14 ที่ต้องเรียกว่าเป็น สมาร์ทโฟนเรือธงในระดับคอมแพ็ค ที่มาครบๆทั้ง ระบบกล้อง Leica เต็มรูปแบบ , หน้าจอ Pro Grade , ชิปเซ็ตระดับเรือธง , การกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 , แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ พร้อม ระบบชาร์จความเร็วสูง ในขนาดที่พกพาสะดวก ใช้งานมือเดียวได้สบายๆ อยากให้ทุกท่านได้ลองสัมผัสกับประสบการณ์ระดับมืออาชีพ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments