iPhone 15 Pro Max ขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในโลก ประจำไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ส่วน Samsung Galaxy S24 Ultra คว้าอันดับ 5 ไปครอง !!!!
รายงานใหม่จาก Counterpoint Research เกี่ยวกับสถานะการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกในไตรมาสที่ 1 ของปี พบว่า iPhone รุ่นล่าสุดระดับไฮเอนด์ได้รับความนิยมมากกว่า iPhone รุ่นอื่นๆทั้งหมด และเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงและระดับกลางของ Samsung
โดย Counterpoint แชร์รายงานล่าสุดบนเว็บไซต์เมื่อเช้านี้พร้อมข้อมูลที่แสดงสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุด 10 อันดับแรกในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 เทียบกับปี 2023 ได้แก่
- อันดับ 1 : iPhone 15 Pro Max (ส่วนแบ่งตลาด 4.4%)
- อันดับ 2 : iPhone 15 (4.3%)
- อันดับ 3 : iPhone 15 Pro (3.7%)
- อันดับ 4 : iPhone 14 (1.9%)
- อันดับ 5 : Galaxy S24 Ultra (1.9%)
- อันดับ 6 : Galaxy A15 5G (1.5%)
- อันดับ 7 : Galaxy A54 (1.4%)
- อันดับ 8 : iPhone 15 Plus (1.3%)
- อันดับ 9 : Galaxy S24 (1.0%)
- อันดับ 10 : Galaxy A34 (1.0%)
ดังที่แสดงด้านบน ช่วงสี่อันดับแรกเป็นของ iPhone 15 Pro Max, iPhone 15, iPhone 15 Pro และ iPhone 14 โดยมี Samsung Galaxy S24 Ultra ซึ่งเป็นเรือธงมาในอันดับที่ห้า
Galaxy A15 5G และ A54 มาในอันดับที่ 6 และ 7 โดย iPhone 15 Plus ตามมาในอันดับที่ 8 ส่วน Galaxy S24 และ A34 อยู่ในอันดับ 9 และ 10
จากข้อมูลของ Counterpoint เน้นย้ำว่า iPhone รุ่นพื้นฐานมักจะขายได้ดีกว่ารุ่น Pro ในไตรมาสที่ผ่านๆมา แต่ไม่ใช่ในไตรมาสล่าสุดนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รุ่น Pro Max ครองตำแหน่งสูงสุดเป็นครั้งแรกในไตรมาสนอกฤดูกาลของ Apple ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคสำหรับสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ Counterpoint ประมาณการว่ายอดขายรุ่น Pro ขับเคลื่อนรายได้สมาร์ทโฟนของ Apple มากกว่า 60% และบริษัทยังได้กล่าวถึงการเติบโตอย่างมากจากไตรมาสที่ 1 ปี 2020 โดยที่อุปกรณ์รุ่น Pro คิดเป็น 24% ของยอดขาย iPhone และกว่า 50% เป็นรุ่น Pro ในไตรมาสที่ 1 ปี 2024
Counterpoint เชื่อว่าปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ยอดขายสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมสูงขึ้นคือ ลูกค้าถืออุปกรณ์เครื่องเก่าของตนไว้นานขึ้นก่อนที่จะอัปเกรดซื้อเครื่องใหม่
แต่แม้ว่าข่าวดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงแรงผลักดันเชิงบวกสำหรับส่วนแบ่งตลาด iPhone ของ Apple แต่ยอดขาย iPhone โดยรวมลดลง 10% ในไตรมาสที่ 1 (ไตรมาสที่ 2 ทางการเงินของ Apple) ในปี 2024 เมื่อเทียบกับปี 2023 อย่างไรก็ตาม รายได้จากบริการต่างๆของ Apple ก็ยังสามารถช่วยพยุงรายได้โดยรวมของไตรมาสนี้ไว้ได้
Source : 9To5Mac
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment