เปิดตัว realme 13 Pro Series ในประเทศอินเดีย อย่างเป็นทางการ !!!! มาพร้อมกล้อง Sony LYTIA รุ่นใหม่ล่าสุด และ ระบบภาพ HyperImage+ และ NEXT Ai !!!!
realme เปิดตัวสมาร์ทโฟน realme 13 Pro และ 13 Pro + ในประเทศอินเดีย อย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขอบโค้งขนาด 6.7 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , 120Hz และ PWM ความถี่สูงพิเศษ 2160Hz พร้อมให้ความสว่างสูงสุดถึง 2000nits
มีคุณสมบัติ Pro-XDR ที่วิเคราะห์เนื้อหาภาพที่ส่งโดยกล้อง ปรับเอฟเฟ็กต์ภาพถ่ายให้เหมาะสมที่สุดสำหรับช่วงความสว่างและช่วงไดนามิก
ทั้งสองรุ่นใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 7s Gen 2 มี RAM สูงสุด 12GB พร้อม RAM Expansion สูงสุด 12GB มีระบบระบายความร้อน 9 ชั้น 4500 มม.² tempered VC + 9953 มม.² Graphite
ทำงานบนระบบปฎิบัติการ Android 14 + realme UI 5.0 และคาดว่าจะได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android 2 ปี และ การอัปเดตความปลอดภัย 3 ปี คล้ายกับรุ่น Pro Series รุ่นอื่นๆก่อนหน้า
realme 13 Pro+ มีกล้องหลัง 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ Sony LYT-701 + OIS เป็นครั้งแรก มีกล้องเทเลโฟโต้ 50MP เซนเซอร์ Sony LYT-600 ที่มี OIS ให้การซูมแบบออพติคอล 3 เท่า การซูมอินเซนเซอร์ 6 เท่า และรองรับการซูมแบบซูเปอร์ซูมสูงสุด 120 เท่า
realme 13 Pro มีเซ็นเซอร์หลัก LYT-600 50MP + OIS โดยไม่มีกล้อง TelePhoto
ทั้งสองรุ่นมีกล้อง Ultra Wide 8MP และกล้องหน้า 32MP มาพร้อมคุณสมบัติกล้องใหม่ AI Ultra Clariity สามารถเพิ่มความละเอียดและเพิ่มความชัดของภาพที่พร่ามัว , การปรับปรุงภาพถ่ายและซูมเสียงด้วย AI
ตัวเครื่องมีการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Monet โดยมาในสี Monet Gold และ Monet Purple สำหรับฝาหลังกระจก ส่วน สีเขียวมรกต Emerald Green เป็นหนังวีแก้น
ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ผสานมิราเคิล ไชน์นิ่ง คราฟท์ อนุภาคที่ส่องแสงระยิบระยับนับล้านถูกปัดลงบนกระจกเอจีที่มีความมันวาวสูงอย่างพิถีพิถัน เทคนิคนี้แสดงให้เห็นถึงการมีปฏิสัมพันธ์แบบไดนามิกของแสงและเงาที่พบในผลงานของโมเนต์ จากทุกมุม เชิญชวนให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับความแตกต่างที่ชวนให้นึกถึงผลงานชิ้นเอกของอิมเพรสชั่นนิสต์ บริษัทกล่าว
ทั้งสองรุ่นมีแบตเตอรี่ขนาด 5200mAh โดย realme 13 Pro+ รองรับการชาร์จเร็ว 80W SuperVOOC ซึ่งสามารถชาร์จได้สูงสุด 50% ใน 19 นาที และ 100% ใน 49 นาที ส่วน realme 13 Pro รองรับชาร์จเร็ว 45W SuperVOOC
สเปค realme 13 Pro และ 13 Pro+
หน้าจอชนิด AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , อัตรารีเฟรช 120Hz , อัตรา Touch Sampling Rate 240Hz (2000Hz Instant) , การลดแสง PWM 2160Hz , ความเข้มแสงสี 100% DCI-P3 , ความสว่างสูงสุด 2000nits ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 7i
CPU : Snapdragon 7s Gen 2 (4nm)
GPU : Adreno 710
RAM : 8GB / 12GB ชนิด LPDDR4X
ROM : 128GB / 256GB / 512GB ชนิด UFS 3.1
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
ระบบกล้อง
realme 13 Pro – (50 + 8 + 2 ล้านพิกเซล) กล้องหลัก 50MP เซนเซอร์ Sony LTY-600 ขนาด 1/2" , OIS , f/1.88 , กล้อง Ultra Wide 8MP , f/2.2 และ กล้อง Depth 2MP
realme 13 Pro+ – (50 + 8 + 50 ล้านพิกเซล) กล้องหลัก 50MP เซนเซอร์ Sony LYT-701 ขนาด 1/1.56″ , f/1.88 , OIS , กล้อง Ultra Wide 8MP , f/2.2 , กล้อง Telephoto 50MP เซนเซอร์ Sony LYT-600 , Optical Zoom 3X , 6X in-sensor zoom, ซูมสูงสุด 120x , f/2.65
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล , เซ็นเซอร์ Sony รูรับแสง f/2.45
รองรับ NEXT Ai
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
รองรับลำโพงสเตอริโอ + Dolby Atmos และ Hi-Res Audio
รองรับการป้องกันฝุ่นและละอองน้ำมาตราฐาน IP65
รองรับ Wi-Fi 6 802.11 Ax (2.4GHz + 5GHz) Bluetooth 5.2 Dual Frequency GPS/GLONASS/Beidou
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ขนาด 5200mAh + ระบบชาร์จเร็ว 80W (13 Pro+) /ชาร์จเร็ว 45W (13 Pro) SuperVOOC
ระบบปฎิบัติการ : Android 14 + realme UI 5.0
มิติตัวเครื่อง : 161.34×73.91×8.23mm (กระจก) / 8.41mm (หนัง);
น้ำหนัก : 188 กรัม (13 Pro Glass) / 190 กรัม (13 Pro+ Glass) / 183.5 กรัม (13 Pro Leather) / 185.5 กรัม (13 Pro+ Leather)
ราคาและการวางจำหน่ายในประเทศอินเดีย
realme 13 Pro และ 13 Pro+ มาในตัวเลือกสี Monet Gold และ Emerald Green โดยที่ 13 Pro มี Monet Purple เพิ่มมาอีกหนึ่งสี
🟡 realme 13 Pro
รุ่น RAM 8GB/ROM 128GB ราคา 26,999 รูปี (ประมาณ 11,920 บาท)
รุ่น RAM 8GB/ROM 256GB ราคา 28,999 รูปี (ประมาณ 12,800 บาท)
รุ่น RAM 12GB/ROM 512GB ราคา 31,999 รูปี (ประมาณ 14,130 บาท)
🟡 realme 13 Pro+
รุ่น RAM 8GB/ROM 256GB ราคา 32,999 รูปี (ประมาณ 14,580 บาท)
รุ่น RAM 12GB/ROM 256GB ราคา 34,999 รูปี (ประมาณ 15,460 บาท)
รุ่น RAM 12GB/ROM 512GB ราคา 36,999 รูปี (ประมาณ 16,340 บาท)
โดยจะวางจำหน่ายผ่าน realme.com , Flipkart และร้านค้าออฟไลน์ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม และเริ่ม Pre - Order ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม เป็นต้นไป ในประเทศอินเดีย
Source : FoneArena
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment