FullReview | vivo X200 ก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของกล้องบนสมาร์ตโฟน ด้วยสโลแกน ซูมชัด ทุกเรื่องราว

vivo ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน X200 Series ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ กันไปเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา สร้างกระแสฮือฮาด้วยกล้อง ZEISS ขั้นเทพพร้อมสโลแกน “ซูมชัด ทุกเรื่องราว” ที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเน้นที่ความสามารถด้านการถ่ายภาพแบบซูมขั้นเทพ ด้วยความร่วมมือกับ ZEISS ผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเลนส์ระดับโลก ในการยกระดับคุณภาพกล้องบนสมาร์ตโฟนให้ไปไกลเกินทุกขีดจำกัด

🔵 สเปค vivo X200

หน้าจอ Micro Quad Curved AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด 1.5K , อัตรารีเฟรช 120Hz , ความสว่างสูงสุด 4500nits , รองรับ ZEISS Master Colors , High-frequency PWM dimming 2160Hz
CPU : MediaTek Dimensity 9400
GPU : Immortalis-G925
RAM : 12GB ชนิด LPDDR5x
ROM : 256GB ชนิด UFS 4.0
รองรับ 5G Dual Mode
รองรับ 2 Sim Cards
กล้องหลัง ZEISS 3 ตัว ความละเอียด 50 + 50 + 50 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์หลัก Sony IMX921 ขนาด 1/1.56 นิ้ว พร้อมรูรับแสง f/1.57  , รองรับ OIS , ZEISS Super TelePhoto ขนาด 1/1.95 นิ้ว , รูรับแสง f/2.76 , รองรับ Optical Zoom 3x
กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล , f/2.0
ชิปประมวลผลภาพ vivo V2 (ผสานรวมอยู่ในชิป Dimensity 9400)
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือแบบ Optical
รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68/IP69
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C (3.2 Gen 1)
แบตเตอรี่ความจุ : 5800mAh + 90W FlashCharge
ระบบปฎิบัติการ : Android 15 + FunTouch OS 15
ขนาดตัวเครื่อง 160.27 x 74.81 x 7.99 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 197 กรัม (Midnight Black) / 202 กรัม (Ocean Blue, Aurora Green)


Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย

ตัวเครื่อง vivo X200
อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 90W FlashCharge
สายชาร์จ USB-C
เคสซิลิโคนใส
เอกสารคู่มือ
เข็มจิ้มถาดซิม


🔵 Design

สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นที่สุด ด้วยกล้องหลังแบบวงแหวนขนาดใหญ่ มาพร้อมขอบ Sunburst ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาสุดหรู ภายในจัดวางโมดูลกล้องอย่างสมมาตร พร้อมโลโก้ ZEISS ตรงกึ่งกลาง

และจะเห็นได้ว่าวงแหวนสแตนเลสของโมดูลกล้องรอบนี้วางแบบสมมาตร โดยผลิตจากสแตนเลสเกรดการแพทย์แบบเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ เพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อรอยขีดข่วน และรอบวงแหวนมีดีไซน์แบบ Sunburst Texture คล้ายนาฬิกาหรู และตัวกระจกครอบเลนส์ก็ใช้เทคโนโลยีการเคลือบเลนส์แบบ ZEISS T*Coating เพื่อภาพที่ใสเคลียร์ คมชัด รวมถึงลดการเกิดโกสต์และแฟร์

ตัวสีที่ได้รับมารีวิวได้แก่ Midnight Black และ Ocean Blue

โดย vivo X200 สี Midnight Black มีพื้นผิวดำด้าน ให้ความรู้สึกทรงพลัง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ชื่นชอบความคลาสสิค

ส่วนอีกสีได้แก่ Ocean Blue สีน้ำเงินเข้มอันเรียบหรู ดูลึกลับ มีสเน่ห์เพิ่มความโดดเด่นให้กับผู้ใช้งาน

ในแง่ของมิติตัวเครื่อง vivo X200 จะมาพร้อมความบาง 7.99 มม. และน้ำหนัก 197 - 202 กรัม บนงานประกอบตัวเครื่องระดับพรีเมียมที่แน่นหนาและไร้รอยต่อ

โดยขอบด้านขวาจะมีปุ่ม Power และ ปุ่ม Volume

ขอบด้านบนมีไมโครโฟน 2 ตัว และ พอร์ต IR Infrared

ขอบด้านล่างมีพอร์ต USB Type-C , ไมโครโฟนสนทนา , ลำโพง Speaker และ ถาดใส่ซิมแบบ Dual-SIM

นอกจากนี้ vivo X200 Series ยังมาพร้อมความทนทานป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 และ IP69 โดยสามารถป้องกันฝุ่นและต้านทานน้ำได้นาน 30 นาที ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร รวมถึงป้องกันความเสียหายจากน้ำที่มีความร้อนสูงได้

โดยภาพรวมในเรื่องดีไซน์ vivo X200 มีความประณีตลงตัวและหรูหราในระดับพรีเมียม พร้อมด้วยการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครกับวงแหวนกล้อง Sunburst ครับ


หน้าจอระดับโปรเกรดรองรับ ZEISS Master Color รุ่นแรกของโลก ความสว่างสูงสุด 4500nits

vivo X200 มาพร้อมหน้าจอปรับโค้งแบบ Micro Quad Curved AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียดระดับ 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล) พร้อมความสว่างสูงสุดถึง 4500nits มีอัตรา Refresh rate สูงสุดที่ 120Hz แบบ LTPO ที่สวยงามและลื่นไหลแบบสุดๆ จะรับชมคอนเท้นต์แบบไหน ก็สวยเต็มอิ่ม เต็มตา พร้อมรองรับ High-frequency PWM dimming 2160Hz , อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 92.89% 

โดยส่วนขอบทั้ง 4 ด้าน มีความโค้งมนเพียงเล็กน้อยทำให้ประสบการณ์เหมือนใช้งานจอแบนปกติ

และ vivo X200 Series ยังเป็น สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลก ที่มีหน้าจอรองรับ "ZEISS Master Color" ซึ่งรองรับการเชื่อมโยงเต็มรูปแบบของ Zeiss Natural Colors แสดงสีที่แม่นยำ สมจริง และเป็นธรรมชาติ ดั่งตาเห็นเลยทีเดียว

ด้วยความร่วมมือระหว่าง vivo และ ZEISS ที่ได้ขยายจากการถ่ายภาพไปสู่หน้าจอ ในแง่ของความแม่นยำของสี จะใช้ฟังก์ชันการจับคู่สี CMF2015 และ ΔΕ จะอยู่ที่ 0.27

พาแนลหน้าจอจะเป็นชนิด LTPO 8T ใช้การหรี่แสงความถี่สูงแบบ PWM 2160Hz ซึ่งจะไม่มี "การกระโดด" ของความสว่างเมื่อสลับระหว่าง DC และ PWM โดยค่า SVM คือ 0.03

นอกจากนี้ยังมี "Smart Low Blue Light 3.0" "Outdoor High Brightness Display" "Night Owl Eye Protection 2.0" และ "Personalized Brightness"

โดยภาพรวมได้รับการปรับปรุง 25.7% และความราบรื่นในภาพเคลื่อนไหวได้รับการปรับปรุง 28.4% ทำให้หน้าจอของ vivo X200 Series ได้รับการพัฒนาอย่างมาก


ระบบกล้อง ZEISS ที่ปรับปรุงใหม่ ไฉไลกว่าเก่า

vivo X200 รองรับการถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพ ที่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และ เสริมด้วยเทคโนโลยี ZEISS ที่หลากหลายเพื่อทำให้ภาพบุคคลของคุณโดดเด่นยิ่งขึ้น

🔵 สเปคกล้อง vivo X200

• กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ZEISS VCS True Color , เซ็นเซอร์ IMX921 ขนาด 1/1.56 นิ้ว , รูรับแสง f/1.57 , รองรับ OIS , เทียบเท่าระยะ 23 มม. มีระบบกันสั่นระดับ CIPA 4.5

• กล้อง Super Wide Angle 50 ล้านพิกเซล , รูรับแสง f/2.0 , มุมกว้าง 119 องศา , เซนเซอร์ ISOCELL JN1 , ขนาด 1/2.76 นิ้ว

• กล้อง ZEISS Telephoto Camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล , Optical Zoom 3 เท่า , เซ็นเซอร์​ Sony IMX882 ขนาด 1/1.95 นิ้ว , รูรับแสง f/2.57

โดย vivo X200 เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มีเลนส์เทเลโฟโต้ที่ได้รับการรับรองโดย ZEISS นอกจากนี้ยังมีชิปประมวลผลภาพ V2 ที่พัฒนาขึ้นเองของ vivo ที่ให้การประมวลผลระดับ 4K , การเกรดโทนสีผิวของวิดีโอระดับภาพยนตร์ , การถ่ายและตัดต่อ Portrait Video 

การถ่ายภาพ Portrait

ลูกเล่นเลนส์คลาสสิกของ ZEISS ไม่ว่าจะเป็น Distagon, Planar, Sonnar และ Biotar และ Cinematics ได้รับการอัปเกรดมากขึ้น สไตล์ภาพถ่ายบุคคลที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ จะช่วยให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญภาพถ่ายสไตล์บุคคลได้อย่างง่ายดาย ด้วยวิธีการสร้างภาพ bokeh และ facula ในระดับมืออาชีพ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ ZEISS Cine-flare Portrait และ B-Speed ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับถ่ายภาพบุคคลในฉากที่มีแสงเยอะหรือย้อนแสง ช่วยสร้างแสงแฟลร์ที่ละเอียดอ่อน มีชีวิตชีวา โดยทำงานร่วมกับอัลกอริทึมแบ็คไลท์ ช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพถ่ายย้อนแสง สามารถสร้างภาพถ่าย Portrait ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง 

และแน่นอนว่ายังคงมีฟีเจอร์ ZEISS Natural Color ที่ช่วยทำให้ภาพถ่ายมีสีสันในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEISS ด้วยเช่นเคย

อีกทั้ง Portrait แบบ ZEISS บน vivo X200 ยังมีระยะที่ครอบคลุมกว่าที่เคย โดย ZEISS Portrait lens package มีระยะให้ใช้งานได้มากถึง 5 ระยะ ประกอบด้วย

24มม. --> 35มม. --> 50มม. --> 85มม. --> 100มม. ถ่ายสนุกกันแบบสุดๆ

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode


















ตัวอย่างภาพถ่ายอื่นๆ












ซูมขั้นเทพกับกล้อง ZEISS Telephoto Camera

ในปีนี้ vivo ประกาศตัวสู่สมรภูมิกล้องซูมอย่างชัดเจน โดย vivo X200 มาพร้อมซูม Optical 3 เท่า ที่ใช้เลนส์ ZEISS แบบใหม่ล่าสุด ซึ่งจะให้ภาพที่ใสคมชัดยิ่งกว่าที่เคย โดยระยะ Hybrid Zoom จะอยู่ที่ 10x , 15x และ 20x ซึ่งก็ทำได้ดีมากๆจนชวนตกตะลึงครับ โดยภาพที่ได้มีการใช้ AI เข้ามาช่วยประมวลผลด้วย ก็ยิ่งทำให้คุณภาพที่ออกมาดีขึ้นไปอีก

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดซูม


















ภาพถ่ายกลางคืน









กล้องหน้า 32MP เซลฟี่สวยเนียน

มีฟีเจอร์ AI Beauty รวมถึง ZEISS Portrait Style ละลายฉากหลังได้โปรเหมือนกล้องหลัก รองรับการบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K/60fps

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า


Performance

vivo X200 มาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับเรือธง MediaTek Dimensity 9400 ซึ่งเป็น SoC เรือธงรุ่นล่าสุดที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีกระบวนการ 3nm รุ่นที่สองของ TSMC

มีคุณสมบัติที่ลดการใช้พลังงานลง 44% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพการทำงาน มีการปรับปรุง 35% ในด้านประสิทธิภาพแบบ single-core และ 28% ในด้านประสิทธิภาพแบบ multi-core

ใช้ GPU 12 แกน ให้ประสิทธิภาพสูงสุดเพิ่มขึ้น 41% และการใช้พลังงานลดลง 44% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

ตัว SoC รองรับคุณสมบัติ AI ขั้นสูง รวมถึงการฝึกอบรม LoRA บนอุปกรณ์ (LoRA training) , การสร้างวิดีโอบนอุปกรณ์คุณภาพสูง และ การสนับสนุนนักพัฒนาสำหรับ AI แบบ Agentic

🔵 ข้อมูลทางเทคนิค MediaTek Dimensity 9400

1x Arm Cortex-X925, 2MB L2 cache, up to 3.63 GHz + 3x Arm Cortex-X4, 1MB L2 cache + 4x Arm Cortex-A720, 512KB L2 cache

12MB L3 cache + 10MB SLC

Arm Immortalis-G925 MC12 GPU

MediaTek NPU 890 (Generative AI, Agentic AI)
TSMC’s second generation 3nm process

3GPP-R17, Sub-6GHz (FR1), 2G-5G multi-mode, 5G-CA, 4G-CA, 5G FDD / TDD, 4G FDD / TDD, TD-SCDMA, WDCDMA, EDGE, GSM

5G/4G Dual SIM Dual Active, Dual Data, SA & NSA modes; SA Option2, NSA Option3 / 3a / 3x, NR FR1 TDD+FDD, DSS, 256QAM VoNR / EPS fallback

GPS L1CA+L5+L1C, BeiDou B1I+ B1C + B2a +B2b, Glonass L1OF, Galileo E1 + E5a + E5b, QZSS L1CA + L5, NavIC L5

Wi-Fi 7 (a/b/g/n/ac/ax/be), Triple Band Triple Concurrency (TBTC), Bluetooth 5.4 with dual Bluetooth engine, 12Mbps

LPDDR5X 10667 9600Mbps memory up to 10.7Gbps,UFS 4 + MCQ

โดย vivo X200 จะใช้ RAM ชนิด LPDDR5X พร้อมฟีเจอร์ Extended RAM ที่สามารถขยาย RAM เพิ่มได้อีก 16GB รวมกันเป็น 32GB ส่วนหน่วยความจำ ROM เป็นแบบ UFS 4.0

ผลทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น Geekbench 6.0 ก็ได้คะแนนออกมาสูงดังนี้เลยครับ

Single-Core 2645 คะแนน | Multi-Core 7414 คะแนน


ระบบปฎิบัติการ FunTouch OS 15 อัปเกรดใหม่

ระบบปฎิบัติการ FunTouch OS 15 บน Android 15 มาพร้อม Gemini Assistant ผู้ช่วย AI เพื่อการเรียนรู้ที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเขียนอีเมล วางแผนกิจกรรม และ อื่นๆอีกมากมาย เช่น

Circle to Search

ฟีเจอร์ช่วยเสิร์ชอัจฉริยะ ลดความยุ่งยาก ในการหาข้อมูลได้ง่ายๆ เพียงวาดวงกลมล้อมรอบเนื้อหาที่ต้องการเสิร์ช

AI Note Assist




ช่วยจัดระเบียบโน๊ต สรุปข้อความ ลิสต์สิ่งที่ต้องทำ (to-dos) ไปจนถึงการแปลภาษา ครบจบในที่เดียว

AI Transcript Assist

ฟีเจอร์ถอดบทสนทนาผ่าน AI ช่วยจัดระเบียบ ประเด็นสำคัญ สรุปเนื้อหา และค้นหาคำสำคัญได้ตามต้องการ

AI Erase

แตะ ลบ จบ ช่วยลบองค์ประกอบที่ไม่ต้องการและปรับแต่งภาพได้อย่างง่ายดาย เพื่อภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบ

🎮 Gaming

บอกเลยว่าหายห่วง ด้วยประสิทธิภาพเครื่องระดับเรือธง ไม่มีสะดุดแน่นอน โดยทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ปรับกราฟิคสูงสุดก็ไม่ใช่ปัญหา แถมมีตัวเลือกปรับแต่งการเล่นเกมพิเศษเฉพาะของ vivo อีกมากมาย

🔋 Battery

vivo X200 มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ Silicon Anode รุ่นที่ 3 แบบ Semi-Solid ที่ช่วยให้มีความจุมากขึ้น โดยยังคงรักษาความบางของขนาดแบตเตอรี่ ซึ่งส่งผลให้ตัวเครื่องยังคงสวยเเละเบาบาง ทนต่อการใช้งานในสภาพอุณหภูมิหนาวจัดถึง -20 องศาเซลเซียส

ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ ทำให้ vivo X200 มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5800mAh บนตัวเครื่องบาง 7.99 มิลลิเมตร เทียบกับ vivo X100 ที่มีความจุแบตเตอรี่ 5000mAh แต่มีตัวเครื่องหนา 8.49 มิลลิเมตร พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็ว 90W FlashCharge เพียงพอต่อการใช้งานหนักๆและยาวนานได้ตลอดทั้งวันครับ

ราคาเปิดตัวและการวางจำหน่าย

vivo X200 รุ่นความจุ RAM 12GB/ROM 256GB ราคา 29,999 บาท

โปรโมชั่น

1. vivo Care ประกันตัวเครื่อง 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง (มูลค่า 10,999.-)

2. Premium Case (มูลค่า 890.-)

3. โปรเก่าแลกใหม่ รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินสูงสุด 8,000.-

เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สรุป

การมาของ vivo X200 Series ครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการอัปเกรดอย่างแท้จริง ในแง่ของคุณสมบัติกล้องที่เรียกได้ว่า "สั่นสะเทือนไปทั้งวงการ" ด้วยการเลื่อนขึ้นสู่แนวหน้าของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น ประสิทธิภาพ ฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ รวมไปถึงดีไซน์ตัวเครื่อง ที่ ณ เวลานี้ปฎิเสธไม่ได้จริงๆว่า vivo คู่ควรแก่ตำแหน่งหัวแถวของวงการสมาร์ทโฟนเรือธงอย่างแท้จริงครับ

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments