NISSAN Skyline GT-R R32 EV Conversion รถซิ่งในตำนานถูกดัดแปลงให้เป็น รถยนตร์ไฟฟ้า 100% ⚡️ !!! เผยโฉมในงาน Tokyo Auto Salon


โดยทาง NISSAN HQ ได้นำ R32 Skyline GT-R ซึ่งเป็นรถระดับตำนานที่มีแฟนๆจำนวนมากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ มาดัดแปลงเป็น BEV (ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่) โดยเอาเครื่องยนต์ RB26DETT และ ATTESA E ออกและแทนที่ด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว Dual Motors 435 แรงม้า 600 นิวตันเมตร พร้อม แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 62 kWh ใช้ระบบ TS 4WD แบบแยกแรงบิดควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในชื่อใหม่ว่า "R32 GT-R EV Conversion Concept Model" 

R32EV มีมอเตอร์จาก BEV "Leaf" ของ Nissan ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าและด้านหลัง และติดตั้งแบตเตอรี่แบบเดียวกับ Leaf คือ "NISMO RC_02" ที่ผลิตโดย NISMO

เปิดตัวครั้งแรกที่บูธของ Nissan (ฝั่งตะวันตก 2) ในงาน Tokyo Auto Salon 2025

ข้อมูลจำเพาะของ R32EV

รถฐาน : R32 Skyline GT-R (BNR32)
ขนาด : 4545 x 1755 x 1340มม. (ยาว x กว้าง x ยาว)
น้ำหนักรถ : 1797กก.
กำลังมอเตอร์สูงสุด: 160kW x 2 หน่วย
แรงบิดมอเตอร์สูงสุด: 340Nm x 2 หน่วย
ความจุผู้โดยสาร : 2 ท่าน
ระบบขับเคลื่อน : มอเตอร์คู่ 4WD
เชื้อเพลิง : ไฟฟ้า
ขนาดยาง : 245/40R18

R32EV ถูกดัดแปลงในโรงงาน ณ เมืองซามะ จังหวัดคานากาว่า ชื่อว่า Nissan Heritage Collection ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาและจัดแสดงรถยนต์นิสสันในอดีต  บริษัทมีสโมสรภายในบริษัทที่เรียกว่า Classic Car Restoration Club ซึ่งทำหน้าที่บูรณะรถยนต์ที่เก็บไว้ใน Heritage Collection เพื่อให้สามารถขับได้อีกครั้ง

Nissan เป็นผู้ผลิตที่ให้ความรู้สึกผูกพันอย่างแรงกล้าต่อรถยนต์ที่ตนผลิต และ R32EV ก็คือรถยนต์ที่ถ่ายทอดความรักดังกล่าวลงไปสู่อีกระดับยิ่งขึ้น

แม้ว่า R32EV จะจัดแสดงที่บูธของ Nissan ในงาน Tokyo Auto Salon 2025 แต่ได้รับการคิดและสร้างขึ้นโดยกลุ่มวิศวกรอาสาสมัคร  หัวหน้าทีมคือผู้เชี่ยวชาญด้านระบบส่งกำลัง Ryozo Hiraku ซึ่งมีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีเรือธงของ Nissan เช่น EV, e-POWER และ e-4ORCE  เช่นเดียวกับแฟนๆ นิสสันหลายๆ คน เขาหลงใหลใน R32 GT-R เมื่อตอนที่เขายังเด็ก

ฮิรากุกล่าวถึงความคิดริเริ่มนี้ว่า “R32 GT-R เป็นรถที่เปิดตัวเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว แต่ยังคงเป็นรถที่น่าตื่นเต้นในการขับขี่ในปัจจุบัน นั่นคือเหตุผลที่เราต้องการรักษาความรู้สึกนี้ไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป แนวคิดในการพัฒนา R32EV ถือกำเนิดขึ้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการพัฒนา R32EV เป้าหมายของเราคือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและไฟฟ้าเพื่อนำข้อดีของ R32 GT-R แบบอะนาล็อก (รุ่นเบนซิน) มาสู่รุ่นดิจิทัล (EV)

ระบบ 4WD ได้รับการเปลี่ยนแปลงจาก ATTESA ETS เป็นระบบ 4WD 2 มอเตอร์ด้านหน้าและด้านหลัง แต่กำลังและแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับน้ำหนักตัวรถ และอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักได้รับการปรับให้เหมาะสม และแม้ว่าจะมีน้ำหนักต่างกัน แต่การทำงานของระบบส่งกำลังก็ทำให้รู้สึกเหมือนกับ R32 GT-R

กล่าวอีกนัยหนึ่ง R32EV ไม่ใช่ R32 GT-R ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า แต่เป็นตัวถัง R32 GT-R ที่ติดตั้งเทคโนโลยีไฟฟ้าที่สามารถสร้างประสบการณ์การขับขี่แบบ R32 GT-R ได้ และยังมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดเดิมๆ อย่างมากอีกด้วย

ฮิการุยอมรับ แม้ว่าการขายรถยนต์เหล่านี้ในเชิงพาณิชย์จะเป็นเรื่องยาก แต่เขาก็คิดว่าอาจมีอนาคตที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์รถยนต์ในอดีตในชีวิตจริงได้ เช่น ในสถานที่อย่าง Heritage Collection ที่คุณสามารถขับรถจำลองที่เต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับ รถที่คุณอยากจะขับ  จะสนุกมากขึ้นแค่ไหนหากการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรถยนต์ไม่เพียงแต่สามารถเห็นได้แต่ยังสามารถสัมผัสได้ด้วย  นั่นคือสิ่งที่เขาจินตนาการไว้ และสร้างมันออกมาให้ได้เห็นกันตัวเป็นๆแบบนี้ครับ ^^

Source : Car Watch
Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments