FullReview | Xiaomi Watch S4 นาฬิกาอัจฉริยะระดับไฮเอนด์รุ่นล่าสุด และ Xiaomi Buds 5 Pro หูฟัง TWS ขั้นเทพ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Snapdragon Sound™ และ Qualcomm® aptX™ Lossless !!!
ในปัจจุบันตลาดสมาร์ทวอทช์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และ Xiaomi ในฐานะผู้ผลิตชั้นนำ ได้มีความก้าวหน้าในการพัฒนาสมาร์ทวอทช์มากขึ้นทุกวันๆ โดยมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกระดับ ด้วยตัวเลือกมากมาย และล่าสุดนี้กับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์ที่เปิดตัวไปพร้อมกับสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 15 Series เมื่อวันก่อน อย่าง Xiaomi Watch S4
Unboxing ภายในประกอบด้วย
ตัวเรือน Xiaomi Watch S4 พร้อมสายยางฟลูออรีน × 1 เส้น
Wireless Charging Pad × 1 ตัว (รองรับเอาต์พุตสูงสุด 5V2A)
สาย USB Type - C × 1 เส้น
คู่มือ × 1 ชุด
สเปคเบื้องต้นของ Xiaomi Watch S4
หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียด 466 × 466 พิกเซล , 326 PPI , ความสว่างสูงสุด 2200 nits
รองรับ Bluetooth 5.3 / NFC Payment
รองรับการกันน้ำระดับ 5ATM
เซนเซอร์
● PPG heart rate sensor (including SpO2)
● 3-axis accelerometer
● 3-axis gyroscope
● Geomagnetic sensor
● Air-pressure sensor
● Ambient light sensor
● Capacitive sensor
● Temperature sensor
● Dual-band multi-system GPS
- BNS, GPS, GLONASS, GLILEO, QZSS
แบตเตอรี่ : 486mAh
น้ำหนัก : 44.5 กรัม (ไม่รวมสาย)
Display & Design
Xiaomi Watch S4 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียด 466 × 466 พิกเซล , 326PPI รองรับการแสดงผลแบบ Always On Display และมีค่าความสว่างสูงสุดถึง 2200 nits
มีปุ่มกายภาพทางด้านซ้าย พร้อมเม็ดมะยมที่หรูหราและคลาสสิคหมุนได้ ให้ประสบการณ์การโต้ตอบรูปแบบใหม่ โดยหมุนเพื่อเข้าถึงวิดเจ็ตและดูตัวอย่างข้อความอย่างรวดเร็ว เพื่อประสิทธิภาพในการอ่านที่ดีขึ้น
มีช่องซึ่งซ่อนไมโครโฟนและลำโพง โดยสามารถเล่นเพลงและรับสายได้โดยตรงผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth
ส่วนด้านหลังคือตัวเซ็นเซอร์ โดยมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจขนาดใหญ่ตรงกลางใช้วัสดุที่เป็นกระจกคริสตัลแซปไฟร์อย่างหนา พร้อมด้วยเซ็นเซอร์อื่นๆที่ถูกวางโดยรอบ.เพื่อสามารถตรวจสอบสถานะสุขภาพและการออกกำลังกายของผู้ใช้ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ความเร่ง, เซนเซอร์ไจโรสโคป, เซนเซอร์ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ เป็นต้น
ส่วนสายรัดผลิตจากวัสดุยางฟลูออรีนชั้นดี ซึ่งเป็นมิตรกับผิวหนังและกันรอยเปื้อนได้ดี พร้อมรองรับทุกการออกกำลังกายได้แบบไร้กังวล อีกทั้งยังมีตัวยึดสลักในการเปลี่ยนสายแบบง่ายๆมาให้ด้วย
Xiaomi Watch S4 เต็มไปด้วยความสวยงามในแง่ของการออกแบบ กับโครงอะลูมิเนียมอัลลอยด์ที่ประณีตด้วยพื้นผิวเงาสูงเหมือนสแตนเลส สร้างขึ้นด้วยกระบวนการ PVD
อุปกรณ์เสริมที่เปลี่ยนได้ทันสมัยและปรับแต่งได้เต็มที่
Xiaomi Watch S4 ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาแบบดั้งเดิมและนำเสนอกรอบนาฬิกาแบบเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบที่โดดเด่นและทันสมัย สร้างจากวัสดุคุณภาพสูง แสดงถึงสไตล์ที่สร้างสรรค์และเป็นเอกลักษณ์
การเชื่อมต่อ
ในการใช้ Xiaomi Watch S4 เป็นครั้งแรก คุณต้องเชื่อมต่อกับแอปโทรศัพท์มือถือ "Mi Fitness" เพื่อเปิดใช้งาน ซึ่งการจับคู่อุปกรณ์นั้นง่ายมาก แค่ทำตามที่ตัวแอปบอกไปเรื่อยๆเท่านั้นครับ
แต่นอกจากนี้ Xiaomi Watch S4 ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบจับคู่ด่วนผ่าน POP UP Windows ซึ่งสามารถรับการแจ้งเตือนข้อความ และ ซิงค์เวลากับนาฬิกาข้อมือได้ในทันที แต่คุณลักษณะ POP UP Windows นี้มีการรองรับในสมาร์ตโฟน Xiaomi ที่มีซอฟต์แวร์อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเท่านั้น
การใช้งาน
โดย Xiaomi Watch S4 ผสานเอาการออกแบบ UI ที่ครบวงจรและแอนิเมชั่นที่ปรับแต่งแล้วเข้ามาช่วยเพิ่มความสวยงามของอินเทอร์เฟซและความลื่นไหลของหน้าจอเพื่อมอบประสบการณ์อันดีเยี่ยมให้ผู้ใช้งานขึ้นไปอีกขั้น
ในฐานะที่เป็นสมาร์ทวอทช์ สิ่งที่ขาดไม่ได้มากที่สุดคือหน้าปัด (Watch Face) การจัดการหน้าปัดทำได้ในแอป "Mi Fitness" ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากมายกว่า 200 แบบ นอกจากนี้ตัวหน้าปัดยังมีฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์อย่างเช่น Clearheaded จะติดตามระดับความเครียดโดยอัตโนมัติด้วยตัวบ่งชี้ที่อีโมจิที่สื่ออารมณ์ และ Wild Walker ที่จะบอกทิศทางและระดับความสูงแบบเรียลไทม์
เข้าสู่หน้าแรกของนาฬิกา คุณสามารถเลื่อนหน้าจอแบบขึ้นและลง โดยจะใช้อินเตอร์เฟซแสดงผลแบบ Widget จาก Hyper OS 2.0 Watch เพื่อแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ สภาพอากาศ , การก้าวเดิน , ออกซิเจนในเลือด และข้อมูลอื่นๆ ซึ่งสวยงามและอ่านค่าได้ง่ายมากๆ
และยังสามารถปรับแต่งการเรียง Widgets ได้เองอีกด้วย
Xiaomi Watch S4 รองรับการโทรด้วย Bluetooth อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องการหยิบสมาร์ทโฟนออกมาเมื่อมีสายเรียกเข้าระหว่างออกกำลังกาย โดยคุณสามารถรับสายหรือวางสายได้โดยตรงผ่านนาฬิกา หรือสามารถเล่นเพลงผ่านนาฬิกาก็ได้ด้วย
การแจ้งเตือน
Xiaomi Watch S4 รองรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนทั้งหมด รวมถึง สายเรียกเข้า และรองรับการอ่านข้อความภาษาไทย
โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่แอป Mi Fitness ว่าต้องการให้แจ้งเตือนจากแอปใดบ้าง
โหมดการออกกำลังกาย
ในแง่ของกีฬา Xiaomi Watch S4 รองรับโหมดกีฬาแบบเรียลไทม์มากกว่า 150 รายการ ไม่ว่าจะเป็น การจ็อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และอื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมการวิ่งกว่า 10 ประเภท ที่ถูกติดตั้งมาในอุปกรณ์เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการออกกำลังกายต่างๆของคุณ และยังรวมไปถึงคอมโบการวิ่งหรือเดินสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลัง หรือการฝึกที่เน้นการเผาผลาญไขมันหรือความทนทาน และแม้แต่การฝึกเป็นระยะๆเพื่อเสริมสร้างสุขภาพของหัวใจและปอด นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ความเร็ว ระยะทาง และติดตามข้อมูลการออกกำลังกาย เช่น ระยะเวลา ความหนัก เส้นทาง และแคลอรีที่เผาผลาญ
Xiaomi Watch S4 ยังรองรับการระบุตำแหน่งพร้อมกันของดาวเทียมหลักห้าระบบ รวมถึง GPS Dual Band , Beidou, GLONASS, GALILEO และ QZSS ช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นกีฬา และความแม่นยำในตำแหน่งวิถีการเคลื่อนไหวของพวกผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลสุขภาพที่ปลายนิ้วของคุณ
ด้วยอัลกอริทึมที่พัฒนาโดยเสียวหมี่และแอป Mi Fitness ทำให้ Xiaomi Watch S4 สามารถตรวจวัดสุขภาพของคุณด้วยความแม่นยำที่มากขึ้นด้วย Health Connect
Xiaomi Watch S4 รองรับการตรวจสอบการนอนหลับ โดยสามารถตรวจจับและแสดงเป็นข้อมูลพื้นฐานได้ โดยคุณสามารถดูระยะเวลาการนอนหลับทั้งหมด ระยะเวลาระหว่างการนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ย และ ออกซิเจนในเลือดได้
ซึ่งแบ่งการนอนออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ หลับลึก หลับน้อย เคลื่อนไหวตาเร็ว และความตื่นตัว ตลอดจนอัตราการเต้นของหัวใจและข้อมูลออกซิเจนในเลือดในช่วงระยะเวลาการนอนหลับ ทั้งสองแบบสามารถให้การแสดงข้อมูลที่เข้าใจง่ายขึ้น ทำให้ผู้ใช้เข้าใจคร่าวๆว่าต้องปรับปรุงอะไรในการนอนหลับบ้าง
และยังสามารถสร้างรายงานตรวจร่างกายภายใน 60 วินาที จากตัวนาฬิกาได้ทันที
แบตเตอรี่
ในแง่ของการชาร์จและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ Xiaomi Watch S4 มีแบตเตอรี่ 486mAh ในระหว่างการทดสอบนี้ เมื่อเปิดฟังก์ชันอัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด และการตรวจจับการนอนหลับ การใช้พลังงานจะอยู่ที่ประมาณ 5 - 7% ต่อวัน และอายุการใช้งานแบตเตอรี่จะอยู่ที่ประมาณ 7-10 วัน หลังจากการชาร์จครั้งแรก แน่นอนว่า ถ้าผู้ใช้สามารถปิดฟังก์ชันบางอย่างตามต้องการเพื่อแลกกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานขึ้นได้ นอกจากนี้ Xiaomi Watch S4 ยังมีโหมดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ซึ่งสามารถให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 24 วันเลย และแม้ว่าคุณจะใช้แบตเตอรี่ไปจนใกล้หมด และ รองรับระบบชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็กขนาด 10W ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 100% ในเวลาเพียง 85 นาที เท่านั้น
สรุป
Xiaomi Watch S4 ยังคงความยอดเยี่ยม ในแง่ของวัสดุและดีไซน์ ที่สร้างสัมผัสระดับไฮเอนด์ ทำให้สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้มีความพรีเมี่ยมในระดับต้นๆของอุปกรณ์ในกลุ่มเดียวกันอย่างชัดเจน นอกเหนือจากนี้ยังมีฟังก์ชันมากมาย เช่น การตรวจสอบสุขภาพ การออกกำลังกาย การตรวจสอบการนอนหลับ การตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจจับออกซิเจนในเลือด การแจ้งเตือน และฟังก์ชันอื่นๆ ที่มีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
หน้าจอดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น ด้วยความละเอียดสูง ชนิด AMOLED ขนาด 1.47 นิ้ว มีการทำงานที่ราบรื่นมากกว่าหน้าจอแบบ LCD อีกด้วย
ในฐานะผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์ Xiaomi Xiaomi Watch S4 เรียกได้ว่าครบครันในทุกด้าน หากคุณต้องการสมาร์ทวอทช์ที่มีรูปลักษณ์สวยงาม ระบบตรวจจับสุขภาพชั้นดี และ คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย บอกได้เลยว่าคุ้มสุดๆแล้วครับ
ราคาและการวางจำหน่าย
นาฬิกา Xiaomi Watch S4 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Silver, Black และ Rainbow โดยสี Silver และ Black วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 4,990 บาท (จากราคาปกติ 5,490 บาท) และสี Rainbow วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 5,490 บาท (จากราคาปกติ 5,990 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศรวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
รีวิว : Xiaomi Buds 5 Pro
Xiaomi Buds 5 Pro หูฟังระดับไฮด์เอ็นด์รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมคุณสมบัติครบถ้วน ทั้ง การสตรีมคุณภาพสูง , ระบบตัดเสียงรบกวน , อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน , เสียงที่มีมิติยิ่งขึ้นกับระบบ Dimensional Audio , เทคโนโลยี Snapdragon Sound™ Technology Suite และ เทคโนโลยี Qualcomm® aptX™ Lossless เรียกได้ว่าในราคานี้ไม่มีใครให้ได้มากเท่า Xiaomi แน่นอน
Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย
ชุดหูฟัง Xiaomi Buds 5 Pro
Ear tips (ขนาดเล็ก S, กลาง L )
สายชาร์จ USB Type-C
คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกันสินค้า
การออกแบบ
Xiaomi เลือกใช้การออกแบบที่ดูดีมีระดับ ด้วยการออกแบบผิวมัน แต่ข้อเสียของพื้นผิวมันก็คือ จะดึงดูดรอยเปื้อนและขนแมวซึ่งมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนเช่นกัน
Xiaomi Buds 5 Pro ได้รับการออกแบบที่ไม่เหมือนใครด้วยสไตล์ ‘แคปซูลอวกาศ’ (Space Capsule) ภายในเคสมีแม่เหล็กหลายตัวเพื่อช่วยยึดติดหูฟังให้อยู่ในตำแหน่งอย่างมั่นคง แต่ผู้ใช้งานก็ยังสามารถหยิบถอดหูฟังออกจากเคสได้ด้วยมือข้างเดียวอย่างสะดวก
ในส่วนด้านล่างของเคส คุณจะพบไฟแสดงสถานะ LED แสดงระดับแบตเตอรี่และระบุการชาร์จ นอกจากนี้ยังมีปุ่มจับคู่ถัดจากพอร์ต USB Type- C ด้วย
หูฟังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่แหวกแนว แทนที่จะเป็นดีไซน์โค้งวงรี Xiaomi Buds 5 Pro มีหูฟังแบบก้านที่แบนและเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส รองรับระบบสั่งงานแบบ Gesture Control ที่รองรับการควบคุมด้วยเซนเซอร์ตรวจจับบีบ โดยสามารถสั่งงานได้ดังต่อไปนี้
บีบค้างที่หูฟังข้างซ้าย/ขวา = เปิดระบบตัดเสียงรบกวน/ฟังเสียงภายนอก (Ambient Mode)
บีบหนึ่งครั้งที่หูฟังข้างซ้าย/ขวา = เล่น/หยุดเพลง, รับ/วางสาย
บีบสองครั้งที่หูฟังข้างซ้าย/ขวา = ข้ามไปเพลงถัดไป / ปฏิเสธสายเรียกเข้า
บีบสามครั้งที่หูฟังข้างซ้าย/ขวา = ข้ามไปเพลงก่อนหน้า
สไลด์ขึ้นหรือลง = เพิ่มหรือลดเสียง
การเชื่อมต่อ
Xiaomi Buds 5 Pro รองรับการเชื่อมต่อแบบ Google Fast Pair เพียงเปิดฝาเคส ก็พร้อมจับคู่กับอุปกรณ์ Android ได้ทันที
แต่เพื่อการตั้งค่าที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น หากใช้กับสมาร์ทโฟน Xiaomi จะสามารถเข้าถึงการตั้งค่าที่สำคัญได้ทันที เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน , Dual Connection และ Dimensional Audio และแน่นอน ค้นหาหูฟังของคุณในกรณีที่ทำตกหาย เป็นต้น
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์
Xiaomi Buds 5 Pro ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสลับการเชื่อมต่อเพื่อใช้งานระหว่างอุปกรณ์ 2 เครื่อง (สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือพีซี) ได้พร้อมกัน
ซอฟต์แวร์และคุณสมบัติต่างๆ
ในหน้าแรกของ Xiaomi Earbuds 5 Pro ระดับแบตเตอรี่แล้วจะแสดงที่ด้านบน และ ถัดลงมาเป็นระบบตัดเสียงรบกวน ที่สามารถเข้าถึงการเปลี่ยนโหมดได้อย่างรวดเร็ว โดยคุณสามารถเลือกได้ระหว่างโหมด Transparency, Off และ Noise canceling
นอกจากนี้ยังมีปุ่มสลับสำหรับการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติ ซึ่งใช้งานได้ดี โดยอัลกอริทึมจะทำงานในการปรับระดับ ANC ให้เหมาะสม ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ ณ เวลานั้น ตามทฤษฎีแล้ว วิธีนี้จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้ เนื่องจาก ANC จะไม่ถูกเปิดตลอดเวลา
ระบบตัดเสียงรบกวนที่ยอดเยี่ยม ยังถูกสร้างเพื่อการโทรที่ชัดเจนอีกระดับ ด้วยไมค์ 3 ตัว และ VPU ใช้สำหรับอัลกอริทึม AI เพื่อให้เสียงในการสนทนาของคุณชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีลมแรง
ซึ่งคุณลักษณะการตรวจจับเสียงค่อนข้างดีที่จะใช้งานจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนเดินเข้ามาคุยกับคุณ และเมื่อหูฟังตรวจพบเสียงภายนอก ระดับเสียงในหูฟังจะลดลงและโหมดฟังเสียงภายนอกจะเปิดขึ้นเพื่อให้คุณได้ยินเสียงอีกฝ่าย
ระบบเสียงที่มีมิติเพื่อการฟังที่สมจริง
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การติดตามศีรษะ (Track Head Movement) ซึ่งจะทำงานเมื่อ Dimensional Audio เปิดอยู่ และทำหน้าที่ปรับระดับเสียงเมื่อคุณละสายตาจากโทรศัพท์ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นไฮไลท์ที่โดดเด่นมาก
โดย Xiaomi Buds 5 Pro มีระบบเสียงที่มีมิติในตัว (built-in dimensional audio) ซึ่งมอบประสบการณ์เสียงที่เสมือนจริงให้กับผู้ฟังด้วยฟังก์ชัน Track Head Movement โดยอุปกรณ์สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้และปรับเสียงตามการเคลื่อนไหวนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าทุกรายละเอียดเสียงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้เกิดเสียงสมจริง จากการทดสอบพบว่าค่อนข้างประทับใจสูงมาก ด้วยมิติเสียงที่สมจริงกับทิศทางในการขยับศรีษะของเรา สุดยอดจริงๆครับ
คุณภาพเสียง
Xiaomi Buds 5 Pro มีแอมพลิฟายเออร์คู่และระบบไดรเวอร์สามตัวพร้อมวูฟเฟอร์ชุบไททาเนียมขนาด 11 มม. และทวีตเตอร์เซรามิกขนาด 10 มม. ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้เสียงคุณภาพสูง ได้รับการปรับแต่งโดยทีม Golden Ear ของ Harman และยังมีโหมดเสียง "Master Harman" ควบคู่ไปกับโหมด EQ ที่ตั้งไว้ล่วงหน้า 4 โหมด
ในส่วนของการตัดเสียงรบกวน Buds 5 Pro มี ANC สูงถึง 55dB โดยอาศัยระบบไมโครโฟน 3 ตัว ซึ่งรับประกันความต้านทานเสียงลมได้ 15m/s และการลดเสียงรบกวนการโทรที่ชัดเจนเป็นพิเศษ 100dB นอกจากนี้ หูฟังเหล่านี้ยังมีฟีเจอร์ที่ใช้ AI เช่น การแปลแบบเรียลไทม์เพื่อการสื่อสารที่ราบรื่น และการสรุปเสียงเป็นข้อความ
และยังมาพร้อมคุณสมบัติระดับไฮเอนด์ เช่น เทคโนโลยี aptX Lossless ที่มีอัตราการส่งข้อมูล 2.1Mbps ด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง Snapdragon Sound™ Technology Suite และ Qualcomm® aptX™ Lossless
เราได้ทดสอบในแนวเพลงที่หลากหลาย พบว่า Xiaomi Buds 5 Pro สร้างเสียงเบสได้อย่างเหมาะสม เสียงร้องก็สะอาดและเสียงความถี่สูงก็คมชัดแม้ในระดับเสียงที่สูง เพลงอะคูสติกและแทร็กที่มีเครื่องดนตรีมากมายก็ฟังดูสะอาดไม่รกหู
ไมโครโฟนสำหรับการโทรสนทนา
ประสิทธิภาพของไมโครโฟนนั้นยอดเยี่ยม เฉพาะสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมากและมีลมแรงด้านข้างเท่านั้นที่อาจรบกวนการโทรสนทนาไปบ้าง แต่เสียงจากท้องถนนตามปกติหรือสภาพแวดล้อมทั่วๆไป ไม่ได้รบกวนการสนทนาเลย
อายุแบตเตอรี่และการชาร์จ
เอียร์บัดแต่ละข้างมีแบตเตอรี่ขนาด 53mAh ในขณะที่เคสมีแบตเตอรี่ขนาด 570mAh จากประสบการณ์ใช้จริง เคสและหูฟังชาร์จเร็วมาก โดย Xiaomi ให้ข้อมูลว่าการชาร์จเพียง 5 นาที จะทำให้เล่นเพลงต่อเนื่องได้ 3 ชั่วโมง และยังเผยว่าสามารถฟังได้นานสูงสุด 38 ชั่วโมง เมื่อชาร์จกับเคสชาร์จ (แต่ต้องปิด ANC และ Dimensional Audio นะ)
สรุป
Xiaomi Buds 5 Pro มีหลายสิ่งที่ดีงาม ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือคุณภาพเสียงซึ่งยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง ไม่มีอะไรให้ติแม้แต่น้อย การออกแบบก็ดี ประสิทธิภาพของไมโครโฟนดีมากในสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยอดเยี่ยม อีกทั้งคุณสมบัติสุดเทพอย่าง Dimensional Audio ก็ไม่ได้หากันได้ง่ายๆในหูฟังที่มีราคาใกล้ๆกัน
ราคาและการวางจำหน่าย
Xiaomi Buds 5 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ceramic White และ Titan Gray วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 5,990 บาท (จากราคาปกติ 6,990 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2568 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศรวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ต
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment