โลกไอทีวันนี้ (World IT Today)

FullReview | Samsung Galaxy Watch8 Classic ด้วยดีไซน์ที่หรูหราเหนือกาลเวลา แต่ว่าอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ด้านสุขภาพสุดล้ำ !!!

Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุด Galaxy Watch8 Classic ที่ยังคงดีไซน์แบบ cushion design โดยมุ่งเน้นที่การติดตามสุขภาพอย่างต่อเนื่องและความสามารถในการสวมใส่ที่ดีขึ้น

โดย Samsung Galaxy Watch8 Classic เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่ต้องขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะพกพาคุณสมบัติสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและสายสุขภาพมาให้แบบจัดเต็ม โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบันที่คนเรานั้นต้องใส่ใจและรอบคอบกับสุขภาพอยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยที่แม่นยำและไว้วางใจได้อย่างมาก

แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นสมาร์ทวอชในระดับ High End ฟีเจอร์และคุณสมบัตินั้นคือแบบเยอะมากๆๆๆ กว่าจะเล่าหมดอาจจะยาวไป ดังนั้นสำหรับคนที่อาจไม่อยากอ่านยาวๆ ในตอนต้นเราจะขอสรุป ไฮไลท์ฟีเจอร์เด็ดๆด้านสุขภาพที่เราชื่นชอบมาเล่าให้ฟังกันก่อนครับ


● การตรวจสอบภาระหลอดเลือด (Vascular Load Monitoring) ประเมินความเครียดของระบบหลอดเลือดระหว่างการนอนหลับเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพที่ครอบคลุม

โดยโรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก การติดตามภาวะหลอดเลือดของคุณสามารถช่วยให้คุณใช้ชีวิตประจำวันที่ส่งเสริมสุขภาพหัวใจได้ โดยภาวะหลอดเลือดดเป็นตับ่งชี้สุขภาพของหลอดเลือด โดยจะวัดปริมาณความเครียดที่เกิดขึ้นกับระบบหลอดเลอืดของคุณ ซึ่งทำหน้าที่นำพาเลือดไปทั่วร่างกายเพื่อส่งออกซิเจนและสารอาหาร รวมถึงการรักษาระดับภาระหลอดเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ดีผ่านการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้

โดยฟีเจอร์นี้จะวัดตอนนอน (ใส่นาฬิกานอน 3 คืน เพื่อ ให้ได้ค่า baseline ของผู้สวมใส่)

● ดัชนีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant Index) วัดระดับแคโรทีนอยด์ในห้าวินาที แค่วางนิ้วโป้งลงบนเซนเซอร์ด้านหลังตัวเรือน เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับวัยชรา

อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากกระบวนการปกติภายในร่างกาย เช่น การเผาผลาญพลังงาน หรือจากปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ ควันบุหรี่ แสงแดด อาหารปิ้งย่าง ความเครียด หรือการออกกำลังกายหนักเกินไป

ซึ่งเจ้า สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant Index) นี้สามารถชะลอวัยและบำรุงผิวพรรณ ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด , โรคมะเร็งบางชนิด , โรคอัลไซเมอร์และโรคทางสมองอื่นๆ , โรคเบาหวาน, บำรุงสุขภาพตา

ที่นี้จะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระได้จากที่ไหนบ้าง ?

- ผัก ผลไม้ธัญพืช ถั่ว และเมล็ดพืช โดยเฉพาะผัก และผลไม้ หลากสี เช่น วิตามินซี (ในส้ม ฝรั่ง) , วิตามินอี (ในถั่ว เมล็ดพืช ) , เบต้าแคโรทีน (ในแครอท ฟักทอง), ซีลีเนียม (ในอาหารทะเล ธัญพืช) เป็นต้น

● การติดตามและการฝึกสอนการนอนหลับขั้นสูง (Advanced Sleep Tracking & Coaching) ประกอบด้วยคำแนะนำเวลาเข้านอนตามจังหวะชีวภาพ และการตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับปานกลางถึงรุนแรง

Bedtime Guidance เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ โดยเป็นเครื่องมือที่ดีที่จะช่วยให้คุณจัดการตารางการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมสุขภาพ การนอนที่ดีขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันถัดไป โดยฟีเจอร์นี้จะทำงานดังนี้

- เก็บข้อมูลการนอน 3 วันติดกัน (ใส่นาฬิกานอน3ติดกัน)

- คำนวณระยะเวลาการนอนที่เหมาะสม

- แนะนำเวลานอนที่เหมาะสม

ฟีเจอร์ Bedtime Guidance อธิบายเพิ่มเติมถึงหลักการทำงานอย่างละเอียด โดยเน้นไปที่การทำความเข้าใจ กลไกทางชีวภาพของการนอนหลับและการตื่น , แรงกดดันในการนอนหลับ (Sleep Pressure) และ จังหวะนาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm)

Bedtime Guidance เป็นฟีเจอร์ที่ไม่ได้แค่แนะนำเวลาเข้านอนแบบตายตัว แต่ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ของ ร่างกายในการวิเคราะห์และประเมิน เพื่อให้คุณได้รับการนอนหลับที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการ เฉพาะตัวของคุณในแต่ละวันครับ

● Body Composition การวัดมวลกล้ามเนื้อ % ไขมัน น้ำ ในร่างกาย ช่วยให้เรารู้ว่าใน ร่างกายเรามีส่วนประกอบต่างๆ เท่าไหร่

โดยการที่เรารู้คะแนนกล้ามเนื้อ และ % ไขมัน ทำให้เราเห็นการพัฒนาของตัวเองในแต่ละ ช่วงได้ บางคนหนักเพราะมีมวลกล้ามเนื้อเยอะ ก็จะมีร่างกายที่เฟิร์มสวยกว่า เมื่อเทียบกับคนที่ น้ำหนักเท่ากัน แต่หนักที่ body fat เป็นต้น

▪︎ Body Composition ค่าที่วัดได้มีอะไรบ้าง

- Weight
- Skeletal muscle
- Fat mass
- Body water
- Body Fat
- BMI
- BMR
- Measurement tip

● Running Coach มอบการประเมินสมรรถภาพส่วนบุคคล แผนการฝึกซ้อมที่ปรับแต่งได้ และคำแนะนำแบบเรียลไทม์ อีกทั้งรองรับการติดตามและบันทึกกิจกรรมการออกกำลังแบบอัตโนมัติกว่า 40 รูปแบบ โดย Running Coach ที่สามารถ Tracking การวิ่งแบบ Real - Time รวมไปถึงโปรแกรมการวิ่งอีก 7 รูปแบบที่แตกต่างกันได้

และการติดตามการออกกำลังกายก็ทำได้อย่างแม่นยำมากๆ รวมไปถึงการวัดค่าต่างๆสามารถทำได้แบบครบถ้วนพร้อมแสดงผลบนหน้าปัดนาฬิกาได้ทันที หรือจะเลือกแสดงผลบนสมาร์ทโฟนก็ได้เช่นกัน

● เครื่องมือจัดการความเครียด (Stress Management Tools) การแจ้งเตือนความเครียดสูง (High Stress Alert) ตรวจจับความเครียดที่สะสมเป็นเวลานาน ขณะที่ Mindfulness Tracker นำเสนอการฝึกหายใจและการติดตามอารมณ์

● คะแนนพลังงาน AI (AI-Powered Energy Score) ผสานรวมข้อมูลพลังงานทางร่างกายและจิตใจเพื่อนำเสนอภาพรวมพลังงานในแต่ละวัน

● Heart Rate และ ECG การเตือนหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ และ วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดย Galaxy Watch8 Classic สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดเวลาที่เราสวมใส่ และยังสามารถตรวจวัด ECG (คลื่นไฟฟ้าหัวใจ) ได้ด้วย รวมถึงมีฟีเจอร์แจ้งเตือนหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (มากกว่า 100 ครั้ง/นาที ตอนพัก)

และนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว Galaxy Watch8 Classic ยังมากับความสามารถอื่นๆอย่างครบครันอีกมากมาย สามารถอ่านได้ที่เนื้อหาด้านล่างนี้เลยครับ 

โดยSamsung Galaxy Watch8 Classic รุ่นที่เรานำรีวิวเป็นรุ่น WiFi + GPS มีขนาดหน้าปัด 46 mm. ภายในกล่องประกอบไปด้วย คู่มือการใช้งานเริ่มต้น, Warranty Card และ สายชาร์ตแบบแม่เหล็ก


สเปค Samsung Galaxy Watch8 Classic

Physical Circle Bezel
46mm : หน้าจอ Super Amoled ขนาด 1.34 นิ้ว , ความละเอียด 438 × 438 พิกเซล
ชิปเซ็ต Exynos W1000 (5 Cores , 3nm)
RAM : 2GB
Storage : 64GB

รองรับมาตราฐานกันน้ำกันฝุ่น​ :
5ATM
Built-in GPS
MIL-STD-810
IP68

เซนเซอร์​ : Samsung BioActive Sensor (Optical , Electrical , BIA)
Accelerometer ,Gyro, Barometer, Ambient Light

การเชื่อมต่อ​ :​ WiFi Dual Band , GPS, Bluetooth 5.3, NFC

รองรับปุ่ม Quick Button
Battery : 445mAh (ใช้งานทั่วไป 60 ชั่วโมง)
รองรับ Fast Wireless Charging
รองรับ​ Google Gemini
ระบบปฎิบัติการ : Wear OS 6.0 + One UI Watch 8.0

Design & Display

Galaxy Watch8 Classic ตัวเรือนขนาด 46 มม. มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว ให้ลุคแบบ Classic โดยมาพร้อมหน้าปัดทรงกลมขนาด 46mm.(1.32 นิ้ว) ชนิด Super Amoled ความละเอียด 438 × 438 พิกเซล , รองรับ Always On Display , ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Sapphire Crystal

รองรับ​ Circle Bezel สำหรับหมุนเพื่อการสั่งงาน โดยให้ความรู้สึกในการหมุนสั่งงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ (เมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทวอชทั่วไปพบว่าให้อารมณ์ที่แตกต่างกันมาก)

วัสดุประกอบตัวเรือนเป็นโลหะสแตนเลส มีความสวยหรูพรีเมี่ยม และทนทาน ในระดับ MIL-STD-810G ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการทหาร และมีคุณสมบัติกันน้ำ 5ATM และ IP68 กันน้ำได้ลึกสุด 50 เมตร รวมถึงกันฝุ่น แน่นอนว่าจากมาตราฐานทั้งหมดฟังดูมันอึดและถึกมาก แต่ยังคงสไตล์พรี่เมี่ยมไว้ได้เป็นอย่างดี

โครงสร้างภายในของ Galaxy Watch8 Classic ได้รับการออกแบบใหม่ ทำให้การติดตั้งชิ้นส่วนต่างๆ ดีขึ้น 30% และส่งผลให้ตัวเรือนบางลง 11%

สำหรับสายเป็นหนังแท้เกรดพรีเมี่ยม ขนาดไซส์มาตรฐาน 22 มม. สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายด้วย Dynamic Lug System ที่ช่วยให้เปลี่ยนสายได้ง่ายขึ้น เพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น และยังเพิ่มความกระชับยามสวมใส่ เพื่อการวัดสุขภาพที่แม่นยำมากขึ้น

ด้านหลังตัวเรือนมีเซนเซอร์วัดชีวภาพ Samsung BioActive System ประกอบด้วยเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Photodiodes ที่สามารถตรวจวัดแบบ Real - Time ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แบบละเอียดและแม่นยำมากขึ้น สามารถวัดอัตราออกซิเจนในกระแสเลือดได้ อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyroscope, Barometer และ Ambient Light สำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกายต่างๆ โดยดีไซน์มีความพยายามออกแบบให้เหมือนนาฬิกา Analog Automatic ซึ่งมีความแอบคลาสสิคอยู่ไม่น้อยครับ

บริเวณขอบตัวเรือนด้านขวาจะมีปุ่มกด 3 ปุ่ม คือปุ่ม Back และปุ่ม Home/Power พร้อมปุ่ม Quick Button ที่มีสัญลักษณ์คาดสีส้ม สำหรับการเข้าถึงแอปและฟีเจอร์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และไมโครโฟนบริเวณกึ่งกลาง ขณะที่ขอบด้านซ้ายจะเป็นลำโพง Speaker

ประสิทธิภาพ

Galaxy Watch8 Classic ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ 3nm ของ Samsung ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน แบตเตอรี่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ขณะที่ GPS แบบความถี่คู่ให้การติดตามตำแหน่งที่แม่นยำและละเอียดยิ่งขึ้นสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง

Wear OS 6 และ Google Gemini AI Assistant

Galaxy Watch8 Series เป็นรุ่นแรกของ Samsung ที่มีผู้ช่วย AI Gemini ของ Google ทำงานบน Wear OS 6 + One UI 8 โดยฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถใช้งานแบบแฮนด์ฟรีได้โดยใช้คำสั่งเสียงธรรมชาติสำหรับงานต่างๆ เช่น การส่งข้อความ การนำทาง และการออกกำลังกาย เพียงแค่พูด "Hey Google" หรือกดปุ่มมุมขวาบนของนาฬิกาค้างไว้ ก็สามารถถามคำถามหรือสั่งงานต่างๆ ได้ทันทีครับ

อินเทอร์เฟซ One UI 8 Watch ของ Samsung มาพร้อม Multi-Info Tiles เพื่อการเข้าถึงข้อมูลสำคัญอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วย Now Bar 

และรูปแบบการแจ้งเตือนที่ปรับปรุงใหม่ซึ่งปรับให้เหมาะกับการแสดงผลแบบวงกลม

Battery และ การชาร์จ

อายุการใช้งานของ Galaxy Watch8 Classic ตามคู่มืออยู่ที่ราวๆ 60 ชั่วโมง หากคุณเปิดใช้งานฟีเจอร์แบบครบทุกสิ่งอย่าง แต่เมื่อทดลองใช้งานจริงจะอยู่ได้ประมาณ 2 วัน โดยมีการติดตามการออกกำลังกายบ้าง และติดตามการนอนหลับตลอดทั้งคืนทุกวัน โดยรวมถือว่าอยู่ในมาตราฐานของสมาร์ทวอชที่มีฟีเจอร์เยอะๆ แต่เป็นไปได้ก็อยากจะให้นานกว่านี้อีกหน่อยครับ อย่างไรก็ตามอายุแบตเตอรี่มันขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน และตัว Galaxy Watch8 Classic รองรับ Wireless Charging ด้วย ใช้งานสะดวกทุกสถานที่ครับ

สรุป

จากที่กล่าวมาทั้งหมด Samsung Galaxy Watch8 Classic เป็นสมาร์ทวอชระดับแนวหน้าของวงการอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยความพรีเมี่ยมในการออกแบบ ที่ใส่ใจในไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน เข้ากันได้กับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าคุณจะออกกำลังกาย หรือ ใช้ชีวิตประจำวัน มีความแข็งแรงทนทานผ่านทุกการทดสอบมาตราฐานระดับโลก และ ฟีเจอร์สุขภาพแบบครบวงจร หากคุณกำลังมองหาสุดยอดสมาร์ทวอชไว้สวมใส่ ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์หรือว่าสายลุย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

ราคาจำหน่าย Samsung Galaxy Watch8 Classic

• รุ่น Bluetooth ราคา 17,900 บาท สั่งซื้อได้ที่นี่

• รุ่น LTE ราคา 19,900 บาท สั่งซื้อได้ที่นี่

โดยเมื่อซื้อพร้อม Samsung Galaxy Z Fold7 และ Z Flip7 รับส่วนลดทันที 30% จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม นี้ เฉพาะผ่าน Samsung Experience Store และ เว็บไซต์ Samsung เท่านั้น

Article By : โลกไอทีวันนี้  

โลกไอทีวันนี้

อัพเดทข่าวสารวงการไอทีแบบรวดเร็วทันใจ ช่องทางอื่นๆ www.facebook.com/worldittoday

Post a Comment (0)
Previous Post Next Post