Samsung Galaxy Buds Core หูฟังไร้สายราคาประหยัดรุ่นล่าสุดของ Samsung ที่ในวันนี้เราต้องขอหยิบนำมาพูดถึงซักหน่อย เพราะโดดเด่นมากในเรื่องของราคา แต่ว่ามีดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาให้สวมใส่ได้อย่างสบายพร้อมกับฟังก์ชันที่ครบครันในทุกด้าน ตอบโจทย์สาย Budgets เป็นอย่างดี
สเปค Samsung Galaxy Buds Core
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4
รองรับตัวแปลงสัญญาณ AAC, SBC และ Scalable (ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Samsung)
รองรับ Active Noise Cancelling
เซ็นเซอร์ Proximity, Hall, Touch
ไมโครโฟน 6 ตัว (2 ข้าง)
รองรับการกันน้ำระดับ IP54
แบตเตอรี่เฉพาะหูฟัง 65mAh
แบตเตอรี่เคสชาร์จ 500mAh
ขนาดหูฟังแต่ละข้าง 17.1 x 19.2 x 22.2 มิลลิเมตร
น้ำหนักหูฟังแต่ละข้าง 5.3 กรัม
ขนาดเคสชาร์จ 50.0 x 27.7 มิลลิเมตร
น้ำหนักเคสชาร์จ 31.2 กรัม
รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Android 8.0 ขึ้นไป ที่มี RAM มากกว่า 1.5GB
ดีไซน์ และ การสวมใส่
เคสชาร์จของ Galaxy Buds Core นั้นมีขนาดที่ดีและกะทัดรัด ง่ายต่อการพกพาและใส่ลงในกระเป๋า ด้วยทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบมนขนาดกะทัดรัด ซึ่งใช้วัสดุพลาสติกที่มีผิวสัมผัสแบบมันเงา โดยสีที่รีวิวในวันนี้เป็นสีดำ
ด้านหน้ามีไฟ LED แสดงสถานะแบตเตอรี่ของตัวเคส โดย
สีแดง : แบตเตอรี่น้อยกว่า 30%
สีเหลือง : แบตเตอรี่ระดับ 30% - 60%
สีเขียว : แบตเตอรี่มากกว่า 60%
ส่วนที่ด้านหลังของตัวเคสมีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
เมื่อเปิดฝาเคสชาร์จออกจะพบกับหูฟัง Galaxy Buds Core อยู่ด้านใน
ซึ่งตัวเคสมีระบบยึดหูฟังด้วยแม่เหล็ก ช่วยให้หูฟังไม่หลุดออกโดยง่ายเวลาเปิดฝาออก
Galaxy Buds Core เป็นหูฟังเอียร์บัดที่เล็กและเบามากของ Samsung โดยแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียง 5.3 กรัม น้ำหนักที่เบาราวขนนกนั้นหมายความว่าคุณจะลืมไปชั่วขณะหนึ่ง เลยว่าใส่หูฟังอยู่ ด้วยการออกแบบที่พิสูจน์แล้วว่าสวมใส่สบาย รูปทรงตามหลักสรีรศาสตร์ถูกร่องเข้ารูปพอดี
พร้อมรองรับระบบ Gesture Control ที่ด้านหลังของหูฟังทั้ง 2 ข้าง
โดยตัวหูฟังมีดีไซน์ Wingtip เพื่อให้สวมใส่ได้แบบสะดวกสบาย พอดีกับใบหูไม่หลุดง่ายหรือไม่เจ็บใบหู
นอกจากนี้ Galaxy Buds Core ยังได้รับการรับรองตามมาตราฐาน IP54 เพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นและฝุ่นได้ด้วย
คุณสมบัติ และ การเชื่อมต่อ
Samsung Galaxy Buds Core สามารถจับคู่ผ่าน Bluetooth 5.4 ได้ทันที พร้อมรองรับ Hi-Fi Coding, SBC, AAC และ SSC (Samsung Seamless Codec) ซึ่งทำงานคล้ายกับ aptX Adaptive ในการแก้ไขอัตราบิตเรทเพื่อรักษาการเชื่อมต่อที่ดีไว้ แต่จะใช้งานได้เฉพาะในอุปกรณ์ Samsung ที่รองรับเท่านั้น
และเมื่อคุณเชื่อมต่อกับแอป Galaxy Wearable จะสามารถปรับแต่งคุณสมบัติทั้งหมดของ Galaxy Buds Core ได้มากยิ่งขึ้น เช่น
การควบคุมเสียงรบกวน ได้แก่โหมด ANC, Off และ Ambient รวมทั้งยังมีการตั้งค่าปุ่มสำหรับการควบคุมแบบสัมผัส
มีโปรไฟล์ EQ
รองรับการตั้งค่า Gesture Control
แตะครั้งเดียว – เล่นหรือหยุดเล่น
แตะ 2 ครั้งติดกัน – เล่นเพลงถัดไป
แตะ 3 ครั้งติดกัน – ย้อนกลับไปเพลงที่แล้ว
แตะค้างไว้ ที่หูฟังข้างซ้าย – ลดระดับเสียง
แตะค้างไว้ ที่หูฟังข้างขวา – เพิ่มระดับเสียง
ฟีเจอร์ Earbud fit test ตรวจสอบว่าเราใส่หูฟังแน่นและถูกต้องหรือไม่ เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด และการปรับตั้งค่าอื่นๆอีกมากมาย
การใช้งานจริง
Samsung Galaxy Buds Core มากับ Driver ขนาด 6.5 มิลลิเมตร แม้ค่อนข้างเล็ก แต่ก็ให้ Dynamic Range ที่สูง คุณภาพเสียงดีเกินราคา ให้โทนเสียงที่นุ่มนวลแบบอุ่นๆ เสียงแหลมไม่มากจนน่ารำคาญ เบสหนักกำลังดี และเน้นเสียงร้องเป็นหลัก มีรายละเอียดและความคมชัดในระดับที่ดีเยี่ยม ถือว่าสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ใช้ทุกประเภท
มีไมโครโฟนสามตัว สองตัวด้านนอกและด้านในอีกหนึ่งตัว เพื่อช่วยรับเสียงที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณและเสียงที่มาจากตัวคุณ ลำโพงสองทางช่วยเพิ่มความสามารถในการได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากหูฟัง มีลำโพงทางเดียวแบบใหม่ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้าง เพิ่มคุณภาพให้กับระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC)
มีโหมดเสียงรอบข้างหลายระดับซึ่งจะช่วยให้คุณได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณ คุณภาพการโทรนั้นดีมาก เนื่องจากมีโครงข่าย Deep Neural ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะแยกเสียงของคุณออกจากเสียงรบกวนรอบข้างเพื่อปรับปรุงการโทรของคุณ
นอกจากนี้ในการใช้ฟังเพลงหรือเอนเตอร์เทนต่างๆ ระบบ AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะ รถเมล์ รถไฟ เครื่องบิน หรือที่ไหน ก็ไร้ซึ่งเสียงกวนใจ
ทั้งโหมดเสียง ANC และ Ambient สร้างความประทับใจอย่างมาก ด้วยการตัดเสียงรบกวนที่ให้ความรู้สึกสงบในทันที ไม่ว่าจะรถ ผู้คน และเสียงอึกทึกในชีวิตประจำวัน จนทำให้คุณดื่มด่ำกับดนตรีได้อย่างดีเยี่ยม
ด้านการฟังเพลง ให้โทนเสียงที่มีเบสค่อนข้างดี เน้นเสียงกลาง แต่ขาดโทนเสียงแหลมไปหน่อย คุณภาพการโทรก็น่าประทับใจกว่าหูฟังไร้สายหลายๆตัว ในการทดสอบปลายสายสนทนาจะบอกว่าได้ยินเสียงชัดเจน ภาพรวมคือเสียงคมชัด ตัดเสียงรบกวนรอบข้างดีครับ
ระบบตามหาหูฟังด้วย SmartThings
Samsung Galaxy Buds Core มีฟีเจอร์ช่วยป้องกันการสูญหาย เรียกว่า Find My Earbuds กรณีทำหูฟังหล่นหายไว้ไม่ไกล สามารถสั่งให้หูฟังส่งสัญญาณเสียงเพื่อง่ายต่อการค้นหาในระยะสายตา
แต่หากเป็นระยะไกล ในแอป SmartThings สามารถระบุตำแหน่งของหูฟังบนแผนที่ได้ โดยเป็นการระบุตำแหน่งล่าสุดที่เปิดใช้งาน
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
Samsung Galaxy Buds Core ให้ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานถึง 11 ชั่วโมง และขยายระยะเวลาการใช้งานได้นานสูงสุด 35 ชั่วโมง ในการใช้ร่วมกับเคสชาร์จ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดโหมด ANC จะสามารถใช้ฟังได้นาน 7 ชั่วโมง และรวมระยะเวลาสูงสุดถึง 20 ชั่วโมงในการใช้ร่วมกับเคสชาร์จ
ราคาจำหน่าย
Galaxy Buds Core มี 2 สี ได้แก่ สี Black และ White วางจำหน่ายในราคา 1,490 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์
บนเว็บไซต์ samsung.com และ Samsung Official Store บน Shopee และ Lazada หรือหน้าร้านที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ
สั่งซื้อได้ทาง :
https://s.shopee.co.th/4q5io9XCjb
Article By : โลกไอทีวันนี้