#FullReview : realme 5 Pro สมาร์ทโฟนกล้องหลัง​ 4 ตัว​ ขนาด​ 48​ ล้านพิกเซล​, ชิปเซ็ต​ Snapdragon 712 AIE และ​แบตเตอรี่​ 4035 mAh + ระบบ VOOC Flash Charge 3.0 พร้อมดีไซน์พรี่เมี่ยม​ ในราคาเริ่มต้น​ 7,999 บาท​ !!!!!




realme 5 Pro อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนในระดับ Mid -​ Range ที่สร้างปรากฎการณ์​ ด้วยจุดเด่นด้านประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่อัดแน่นมา​ ในราคาที่เอื้อมถึง

ทั้งยังมาพร้อมกับดีไซน์สุดพรีเมี่ยมที่ยกระดับขึ้นอีกขั้น ด้วยหน้าจอหยดน้ำที่เล็กกว่าเดิม (Mini Drop FullScreen) และฝาหลังแบบ Crystal Design ที่มีการไล่เฉดสีแบบ Holographic Color Effect พร้อมกล้องหลัง​ 4 ตัว​ ที่ตอบโจทย์ในการถ่ายภาพทุกสภาวะ​ เบื้องต้นเราลองไปดูสเปคกันครับ

สเปค realme 5 Pro

หน้าจอแบบ Mini Drop FullScreen ชนิด IPS LCD ขนาด 6.3 นิ้ว , อัตราส่วน 19.5 : 9 , ความละเอียด Full HD+ , พื้นที่หน้าจอ 89% , ครอบทับด้วยกระจกโค้ง 2.5D กันรอยแบบ Gorilla Glass 3+ 
CPU : Qualcomm Snapdragon 712 AIE Octa Core
GPU : Adreno 616
RAM : 4 GB/8 GB
ROM : 128 GB
รองรับ 2 Sim Cards (Triple Slot)
รองรับ Micro SD Card สูงสุด 256 GB
กล้องหลัง 4 ตัว (Quad Rear Camera) ความละเอียด 48 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล , f/1.79 + f/2.25 + f/2.4 , (เซนเซอร์  Sony IMX586 + Ultra Wide Angle 119 องศา + Portrait Lens + Macro Lens ระยะ 4 cm.) , รองรับ AI Scene Recognition, Chroma Boost และ Super Night Scape 
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์ Sony IMX471 , f/2.0 + ระบบ AI Beauty
รองรับระบบสแกนใบหน้า (AI Face Unlock)
รองรับระบบสแกนนิ้วมือ 
รองรับ WiFi AC Dual Band และ Bluetooth 5.0
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C 
แบตเตอรี่ความจุ 4035 mAh + ระบบ VOOC Flash Charge 3.0
ระบบปฎิบัติการ : Android 9.0 Pie + ColorOS 6.0
สี : Sparking Blue และ Crystal Green

Unboxing ภายในกล่องประกอบไปด้วย




- ตัวเครื่อง​ realme​ 5 Pro​ จำนวน​ 1 เครื่อง

- เคสกันกระแทกแบบ​ TPU จำนวน​ 1 ชิ้น

- สาย​ USB Type - C จำนวน​ 1 เส้น

- VOOC Adapter​ จำนวน​ 1 ตัว

- Manual & Warranty Card จำนวน​ 1 ชุด

Design



realme 5 Pro มาพร้อมกับหน้าจอ​ WaterDrop​Screen​ ขนาด​ 6.3 นิ้ว​, ความละเอียด​ Full​ HD+ ซึ่งถือว่าเป็นขนาดหน้าจอมาตราฐานในปัจจุบัน​ ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป

มีมิติตัวเครื่อง​ 157 x 74.2 x 8.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 184 กรัม​ ถือจับค่อนข้างพอดีมือ​ แต่น้ำหนักแอบเยอะและตัวเครื่องหนาไปเล็กน้อย​ 




ด้านหลังตัวเครื่องมีการไล่เฉดสีแบบ​ Holograhic พร้อมการออกแบบ Diamond Design อันเป็นเอกลักษณ์ของค่าย​ ที่มุมซ้ายบนมีกล้องหลัง​ 4 ตัว​ วางเรียงกันในแนวตั้ง​ พร้อมไฟแฟลช​ LED และเซนเซอร์สแกนนิ้วมือที่ตรงกลางของฝาหลัง




ด้านขอบขวาของตัวเครื่อง​ มีปุ่ม​ Power เพียงอย่างเดียว




ส่วนขอบซ้ายจะมี​ปุ่ม​ Volume Up/Down และเหนือขึ้้นไปมีถาดใส่​ Sim Cards​ แบบ​ Triple Slot อยู่




ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน​ อยู่ที่มุมขวาเพียงอย่างเดียว




ขอบล่างมีช่องหูฟัง​ 3.5 mm. , ไมโครโฟนสนทนา​, พอร์ตเชื่อมต่อ​ USB Type -​C และ​ ช่องลำโพง​ Speaker​ ตามลำดับ

Software &​ Performance



realme 5 Pro มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ​ Android​9.0​ Pie​ ภายใต้​ ColorOS 6.0 ซึ่งเป็น​ UI อันโด่งดังของทางค่าย​ ที่มีหน้าตาสวยงามและใช้งานไม่ยุ่งยาก



ระบบควบคุมมีทั้งแบบ​ Navigation Bar หรือสามารถปรับไปใช้​ Gesture Control ที่ตั้งค่าได้หลากหลายรูปแบบ

realme​ 5 Pro มาพร้อมกับชิปเซ็ต​ Snapdragon​ 712​ AIE​ ที่ผลิตขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมระดับ​ 10 นาโนเมตร​ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า​และประหยัดไฟมากกว่า​ Snapdragon​ 710​ รุ่นเดิม




อีกทั้งรุ่นที่นำมาทดสอบนี้​ มาพร้อม​ RAM​ 8​ GB​ และ​ ROM​ 128​ GB​ ซึ่งถือว่าสูงมากในระดับ​ Mid -​ Range  ทำให้เมื่อทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม​ AnTuTu Benchmark ผลที่ได้คือ​ 181,721 คะแนน​ ซึ่งถือว่าค่อนข้างดีมากในระดับนี้

ส่งผลให้การใช้งานในชีวิตประจำวันไม่มีอาการสะดุดแต่อย่างใด

Gaming


ส่วนในด้านการเล่นเกมส์​ realme​ 5 Pro​ มาพร้อมกับ​ Game​ Engine อย่าง​ Game Space ที่จะคอยจัดการทรัพยากรในระบบให้เหมาะสม​ รวมไปถึงจัดการแจ้งเตือนต่างๆ​ไม่ให้รบกวนผู้ใช้ขณะเล่นเกมส์



เมื่อทดลองเล่น​ PUBG Mobile​ พบว่าสมารถตั้งกราฟฟิคในระดับสูงสุดได้้​, เฟรมเรทสูงสุดได้​ แต่ความละเอียดปรับได้สูงสุดที่ระดับ​ HD​ เท่านั้น


โดยรวมออกมาน่าประทับใจครับ​ ไม่มีปัญหาการค้างหรือสะดุดใดๆ​ แต่เรื่องทัชมีหน่วงๆไม่ตามมือเล็กน้อย

ระบบความปลอดภัย



realme​ 5 Pro มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือแบบ​ Capasitive ที่ด้านหลังเครื่อง​ ซึ่งสามารถบันทึกได้สูงสุด​ 5 ลายนิ้วมือ​ และทำได้ค่อนข้างรวดเร็ว​ นอกจากนี้ก็ยังคงมีระบบสแกนใบหน้าด้วยเช่นกัน​ แต่การสแกนใบหน้าเป็นแบบ​ 2 มิติ​ และไม่มีเซนเซอร์​ Infrared สำหรับสแกนในที่มืด

ระบบกล้อง​ ประกอบด้วย




- เซนเซอร์หลัก  Sony IMX586​ ความละเอียด​ 48​ ล้านพิกเซล​, f/1.79

- Ultra Wide Angle ความละเอียด​ 8 ล้านพิกเซล​ , 119 องศา​, f/2.25

- Portrait Lens ความละเอียด​ 2 ล้านพิกเซล​, f/2.4

- Macro Lens ระยะ 4 cm. ความละเอียด​ 2 ล้านพิกเซล​, f/2.4

รองรับ AI Scene Recognition, โหมดเร่งสี​ Chroma Boost และ Super Night Scape




- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล , เซนเซอร์ Sony IMX471 , f/2.0 + ระบบ AI Beauty

โดยภาพรวมการถ่ายภาพความละเอียดสูง​ 48​ ล้านพิกเซล​ ให้รายละเอียดที่คมชัด​ และ​ มี​ Dynamic​ ของภาพที่​ดี​ ภายใต้สภาวะกลางวันทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ย​ม

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ​ Ultra​ Wide​ 119 องศา​ มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี​ มีอาการ​ Distort ของภาพให้เห็นบ้าง​เล็กน้อย​ ในตอนกลางวันทำออกมาดี แต่พอกลางคืนเนื่องจากรูรับแสงแคบ​ ภาพที่ได้ก็จะทึมๆพอประมาณ

โหมดเร่งสี​ Chroma Boost ใช้แล้วสีสดมาก​ จนบางครั้งติด​ Vivid เกินไป​ ควรจะเลือกใช้ให้ถูกตามสถานการณ์

โหมดถ่ายภาพกลางคืน​ Night Scape ถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์​ เพราะใช้เวลาเพียง​ 2 วินาที​ ในการถ่ายภาพ​ ถ้าในที่พอมีแหล่งกำเนิดแสง​ จะให้ภาพที่ออกมามี Quality ที่ดี แต่ถ้ามืดมากๆ​ Noise จะขึ้นให้เห็นกันประปรายทันที

ภาพถ่ายโหมด​บุคคล​ ละลายหลังได้เป็นธรรมชาติ​ แต่ไม่สามารถปรับระดับเบลอหลังแบบ​ Manual ได้

ภาพถ่าย​ Macro ในระยะใกล้สุด​ 4 cm. ใช้งานค่อนข้างง่าย​ และมีประสิทธิภาพค่อนข้างดี

กล้องหน้าความละเอียด​ 16​ ล้านพิกเซล​ ใช้เซนเซอร์ชั้นดีอย่าง​ Sony​ IMX471 พร้อมระบบ​ AI​ Beauty​ เป็นอะไรที่ลงตัวมาก​ โดยเฉพาะสาวๆน่าจะชื่นชอบ​ เพราะเป็นจุดขายเลยครับ​ ออกมาเนียนเป็นธรรมชาติพอสมควร​ อีกทั้ง​ AI​ ​Beauty​ ยังมีตัวเลือกให้ปรับแต่งในส่วนต่างๆมากมาย เช่น ผิวเรียบ, ใบหน้าเรียว, ใบหน้าเล็ก, คาง, ตาโต, จมูกเล็ก, และ โครงหน้าแบบ​ 3 มิติ​ เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัก



ตัวอย่างภาพถ่ายมุมกว้าง


ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคล


ตัวอย่างภาพถ่ายมาโคร


ตัวอย่างภาพถ่ายในที่แสงน้อย


ตัวอย่างภาพถ่าย​ Night Scape


ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า



แบตเตอรี่




มีความจุ​ 4035 mAh​ ซึ่งถือว่าใหญ่มากและเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน​ นอกจากนี้ยังมีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกปรับแต่งเองอีกมาก​ และรองรับระบบ​ VOOC​ Flash Charge 3.0 ซึ่งให้กำลัง​ 20W ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่​ 0 -​ 100% ได้ภายใน​ 80 นาที

สรุป




realme​ 5 Pro เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง​ที่มาครบจบในเครื่อง​ สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานได้อย่างรอบด้าน​ ไม่ว่าจะเป็น​ การใช้งานทั่วไป​, การถ่ายภาพ​ หรือ​ การเล่นเกมส์​ ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆครับ

ราคา realme 5 Pro

รุ่น RAM 4 GB/ROM 128 GB ราคา 7,999 บาท

รุ่น RAM 8 GB/ROM 128 GB ราคา 8,999 บาท

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments