#รู้หรือไม่ OPPO , Vivo , OnePlus , realme และ iQOO นั้นมีเจ้าของเดียวกันทั้งหมด คือ บริษัท BBK Electronics คำถามคือ เขาเป็นใครหนอ? เขามาจากไหน? ทำไมถึงต้องแยกแบรนด์มาแข่งกันขาย?

คุณเคยทราบหรือไม่ว่า

OPPO เริ่มต้นแบรนด์จากการขายเครื่องเล่น DVD และ MP3 ก่อนผลิตโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกที่มีหน้ายิ้มด้านหลัง

OnePlus เป็นแบรนด์จีนแต่เริ่มจำหน่ายครั้งแรกในอเมริกา

realme เปิดบริษัทได้ 2 ปี ออกสมาร์ทโฟนมา 27 รุ่น และกลายเป็นแบรนด์อันดับ 7 ของโลก

คำตอบของทุกเรื่องที่เกี่ยวกับแบรนด์เหล่านี้หาอ่านแบบละเอียดได้ที่โพสนี้เท่านั้น !!!!

Samsung เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมี Huawei แซง Apple ขึ้นที่สองในปีที่แล้ว แต่มีอีกกลุ่มหนึ่งของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในตลาดรองลงมา ในห้าปีที่ผ่านมา แบรนด์เช่น OPPO และ Vivo ครองยอดขายในประเทศจีนและอินเดีย และตอนนี้แบรนด์เหล่านี้หันมาสนใจตลาดตะวันตกมากขึ้น

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ OPPO และ Vivo ก็คือในขณะที่พวกเขาต่อสู้กันเอง ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาเป็นเจ้าของโดยบริษัทแม่เดียวกัน  บริษัทดังกล่าวคือ BBK Electronics และยังเป็นเจ้าของ OnePlus , realme และ iQOO อีกด้วย

นี่คือเรื่องราวของวิวัฒนาการของ BBK ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา และวิธีการที่บริษัทหมายมั่นที่จะครอบครองอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนให้ได้

การเริ่มต้นของ BBK Electronics

BBK Electronics ไม่ใช่ชื่อที่คุณจะพบเจอได้มากนักจากสื่อต่างๆ กลุ่มบริษัท BBK จัดตั้งขึ้นในรูปแบบเอกชน โดยผู้ก่อตั้งและประธาน Duan Yongping 

เขาเป็นมหาเศรษฐีสันโดษที่ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์กับสื่อ Duan เริ่มต้นจากการเป็นครู แต่การหักเหในชีวิตครั้งใหญ่ของเขา เกิดขึ้นเมื่อเขาเข้าร่วมกลุ่มจงซานอี้หวู่ ที่เขาจัดตั้งบริษัทเครื่องเล่นวิดีโอเกมซึ่งเป็นเครื่องเลียนแบบของ Nintendo

Duan ออกจาก จงซานอี้หวู่ ในปี 1995 เพื่อจัดตั้ง BBK Electronics ซึ่งเขาถือหุ้น 70%  จากจุดเริ่มต้น BBK มุ่งเน้นไปที่สามหน่วยงานหลัก ได้แก่  การศึกษาอิเล็กทรอนิกส์, อุปกรณ์ภาพและเสียง และ อุปกรณ์สื่อสาร  แต่ละหน่วยงานมีหัวหน้าแผนกและทีมที่แตกต่างกัน และในปี 1999 Duan ได้เริ่มผันหน่วยงานเหล่านี้เป็นองค์กรธุรกิจของตนเองโดยสัดส่วนการถือหุ้นของเขาใน BBK ลดลงถึง 17%

 

ความปั่นป่วนนำไปสู่การสร้างแบรนด์ OPPO ในปี 2004 บริหารงานโดย Chen Mingyong และ Vivo ในปี 2009 บริหารงานโดย Shen Wei  และหลังจากนั้นก็แตกหน่อใหม่มามากมาย เช่น OnePlus, realme และ iQOO เมื่อเร็วๆนี้ 

ทีนี้เรามาลองดูแต่ละบริษัทเหล่านี้ว่าพวกเขาได้เติบโตขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอย่างไร

OPPO  จากเครื่องเล่น DVD ไปจนถึงความทะเยอทะยานทางธุรกิจสมาร์ทโฟนที่สูงส่ง

จากแนวร่วมทั้งสามที่จัดตั้งโดย BBK นั้น OPPO ได้รับมอบหมายในช่วงเริ่มแรกกับการเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โสตทัศน์ชั้นนำ  แบรนด์ดังกล่าวเปิดตัวในปี 2004 

ในฐานะผู้ผลิตเครื่องเล่น MP3 และ DVD และขยายไปสู่เครื่องเล่น Blu-ray, แอมป์ และ หูฟัง โดย แอมพลิฟายเออร์ HA-1 มูลค่า 1,200 USD ของ OPPO เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในกลุ่มประเภทเดียวกันเมื่อเริ่มวางจำหน่าย

OPPO หันเหความสนใจไปที่โทรศัพท์ด้วยการผลิต Smile Phone ในปี 2008 โทรศัพท์มือถือที่มีหน้าอีโมจิยิ้มอยู่ด้านหลัง

และหลังจากนั้นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของ OPPO เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 และแบรนด์ดังทำคะแนนได้อันดับหนึ่งใน Ulike ด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่นำเสนอคุณสมบัติด้าน Beauty Mode สำหรับกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล และในปีเดียวกันนั้นบริษัท ได้เปิดตัว Find 5 หนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีหน้าจอความละเอียด Full HD

OPPO ได้รับแรงผลักดันอย่างรวดเร็วในตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจีน และเป็นการลงทุนที่เติบโตที่น่าตื่นเต้น  OPPO N1 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีโมดูลกล้องหมุนได้พร้อมเลนส์ด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล ให้มุมการหมุน 206 องศา ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องด้านหลังได้  เปิดตัวด้วย ColorOS แต่ผู้ใช้มีทางเลือกในการโหลด CyanogenMod ลงในเครื่อง

จากนั้นก็มี Find 7 ในเดือนมีนาคม 2014 และเป็นครั้งแรกในโลกที่มีจอแสดงผลระดับ QHD โดย OPPO ทำเพื่อเอาชนะ LG - G3 ในเวลานั้น

Find 7 มีคุณสมบัติกล้องที่เป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์การหลายภาพเข้าด้วยกันเพื่อสร้างภาพความละเอียด 50 ล้านพิกเซล อีกทั้ง Find 7 ยังได้เปิดตัวตรฐานการชาร์จ 20W VOOC ที่เร็วที่สุดในเวลานั้น และมาตรฐานนี้ได้กลายเป็นมาตราฐานในสมาร์ทโฟน OPPO รุ่นต่อไป และบนอุปกรณ์ OnePlus ในฐานะ Dash Charge / Warp Charge

ซึ่ง Find 7 นั้นกลายเป็นอุปกรณ์ในตำนาน ที่สามารถฝ่ากำแพงใหญ่สำหรับ OPPO และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

ไม่กี่ปีต่อมา OPPO ได้ร่วมมือกับ Sony ในการเปิดตัวโมดูล IMX398 ในสมาร์ทโฟน R9 Series โดยแบรนด์ดังกล่าวได้รับคำชมอย่างมากจากภาพถ่ายในที่แสงน้อย และในปี 2017 OPPO ปรากฏตัวที่งาน Mobile World Congress ด้วยสมาร์ทโฟนที่มีเลนส์ซูม 5 เท่า ตามด้วย Find X ในปี 2018 มีมอเตอร์แบบพับเก็บได้ซึ่งซ่อนทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังและซีรี่ส์ Reno ในปี 2019 ที่รองรับเลนส์ซูม 10 เท่า

OPPO หยุดการผลิตอุปกรณ์โสตทัศน์ในปี 2018 โดยมุ่งเน้นที่สมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญอันดับ 5 ของโลก และหันมาให้ความสนใจกับตลาดตะวันตกมากขึ้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา OPPO ได้สร้างเครือข่ายการค้าปลีกขนาดใหญ่ในประเทศจีนและอินเดียและเครือข่ายค้าปลีกรวมกับแคมเปญโฆษณาขนาดใหญ่ทำให้บริษัทได้รับแรงผลักดันในตลาดเหล่านี้

Vivo การออกแบบสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่ออนาคต

Vivo เป็นหนึ่งในสามกลุ่มธุรกิจของ BBK ที่ได้รับการจัดให้เป็นธุรกิจเดี่ยว จากจุดเริ่มต้น Vivo ถูกมอบหมายให้เป็นบริษัทอุปกรณ์สื่อสารและในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายไปสู่ตลาดทั่วโลกกว่า 100 แห่ง

ในขณะที่ OPPO ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยกล้อง Vivo หันมาเน้นการออกแบบที่เพรียวบางและระบบเสียง Hi-Fi เพื่อแยกโฟกัสออกจากกัน แบรนด์นี้เป็นรายแรกที่เสนอสมาร์ทโฟนที่มีชิปเสียง Hi-Fi โดยเฉพาะใน X1 ในปี 2012 และในปี 2014 และ 2015 ได้เปิดตัวอุปกรณ์บางเฉียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง V5 Max นั้นเป็นจุดที่โดดเด่นเนื่องจากมีความหนาเพียง 5.1 มม.  Vivo ยังสร้างความแตกต่างของการเป็นผู้ผลิตรายแรกที่เสนอสมาร์ทโฟนที่มี RAM ขนาด 6GB ในปี 2016 ในรุ่น Xplay 5

นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น Vivo ได้ทดลองสิ่งต่างๆมากมาย เช่น ได้จัดแสดงรุ่นต้นแบบที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเป็นรายแรกของโลก และ Vivo - NEX รุ่นแรก ได้กลายเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่นำเสนอโมดูลกล้องหน้าแบบพับเก็บได้

เช่นเดียวกับ OPPO ความสำเร็จของ Vivo นั้นมาจากการผลักดันระบบการค้าปลีกที่หนักแน่น ด้วยการจัดตั้งบริษัท ร้านค้าในเครือของตนเองหรือการสร้างแรงจูงใจในการขายสินค้า นอกจากนี้ Vivo ยังได้สิทธิ์ในการโฆษณากับแฟรนไชส์กีฬาที่มีกำไรอีกหลายแห่ง รวมถึงพรีเมียร์ลีกอินเดียและเป็นสปอนเซอร์ชื่อของฟุตบอลโลกปี 2018 

OnePlus จะยึดครองโลกต้องตีตะวันตกให้แตก

ในขณะที่ส่วนที่เหลือของบริษัท BBK เริ่มต้นในตลาดเอเชียเช่นจีนและอินเดีย OnePlus มีความทะเยอทะยานระดับโลกตั้งแต่เริ่มต้น ผู้ผลิตเริ่มขายสมาร์ทโฟนเครื่องแรกในสหรัฐอเมริกา จนถึงวันนี้ OnePlus เป็นบริษัทเดียวของ BBK ที่ได้รับการยอมรับในตลาดโลกส่วนใหญ่

ซึ่งแตกต่างจาก OPPO และ Vivo ทาง OnePlus เน้นความสนใจไปที่ตลาดสหรัฐอเมริกา และ อินเดีย ตั้งแต่เริ่มต้น

แม้ว่า OnePlus จะครองส่วนแบ่งในตลาดเช่นอินเดียสหรัฐอเมริกา แต่ก็ไม่ได้มีขนาดมากเท่า OPPO หรือ Vivo  ดังนั้นบริษัทจึงใช้ประโยชน์จาก OPPO สำหรับการออกแบบและการผลิตสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจ โดย OnePlus CEO Pete Lau เป็นรองประธานที่ OPPO ก่อนที่เขาจะร่วมก่อตั้ง บริษัท ในความเป็นจริง OnePlus One นั้นแทบเหมือนกับ OPPO Find 7a และแนวโน้มของการร่วมมือกันในการเลือกใช้ฮาร์ดแวร์ของ OPPO นั้นยังคงดำเนินต่อไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  OnePlus 5 เกือบจะเหมือนกับ R11 ของ OPPO และ OnePlus 8 Pro ของปีนี้กลับกลายเป็นว่าคล้ายกับ Find X2 Pro มาก สมาร์ทโฟน OnePlus ทุกเครื่องที่จำหน่ายในตลาดโลกนั้นสร้างขึ้นที่โรงงานผลิตตงกวน ของ OPPO และอุปกรณ์ที่จำหน่ายในอินเดียนั้นถูกประกอบขึ้นที่โรงงาน OPPO ของอินเดีย

ในขณะที่ OPPO และ Vivo ให้ความสำคัญกับกล้องและเสียงเป็นความแตกต่างสำหรับสมาร์ทโฟนของพวกเขา OnePlus หันความสนใจไปที่ฮาร์ดแวร์ภายใน จากสมาร์ทโฟน OnePlus เครื่องแรก การเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพ ทำให้มันโดดเด่น

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา OnePlus ให้ความสำคัญกับการพัฒนาซอฟต์แวร์บนสมาร์ทโฟนของตนด้วย OxygenOS มันมอบประสบการณ์ที่ Pure ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะพบบน Android 

OnePlus อาจไม่ได้คะแนนช่วงแรกในการเข้าอุตสาหกรรม แต่มันได้รวบรวมแฟนๆนับล้านสำหรับการมุ่งเน้นไปที่ซอฟต์แวร์ที่รวมกับฮาร์ดแวร์ภายในที่แข็งแกร่ง

ด้วยการมุ่งเน้นไปที่ตลาดโลกตั้งแต่แรกเริ่ม OnePlus จึงสามารถสร้างความมั่นคงให้กับบริษัทในประเทศต่างๆ เช่นสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, อินเดีย และอีกมากมาย  OnePlus นั้นแตกต่างจาก OPPO และ Vivo เพราะมันขายแบบออนไลน์  โดยในปีแรกยอดขายของ OnePlus เป็นแบบพูดกันปากต่อปาก

OnePlus เปิดตัวสมาร์ทโฟนไป 18 รุ่นจนถึงปัจจุบัน ด้วยความหลากหลายรูปแบบ จากผิวฝาหลัง Sandstone ใน OnePlus One ไปจนถึงการออกแบบโลหะของ OnePlus 3 series, สลับไปยังฟอร์มแฟคเตอร์ 18 : 9 ใน OnePlus 5T และหน้าจอ FullScreen ของ OnePlus 7 Pro แสดงให้เห็นว่า OnePlus มีรูปแบบในการนำเสนอมากมายในอุตสาหกรรมนี้ในช่วงหกปีที่ผ่านมา

realme ผู้ท้าชิง Xiaomi

realme เป็นผู้ผลิตหน้าใหม่ในอุตสาหกรรม โดยแบรนด์ดังกล่าวเปิดตัวสมาร์ทโฟนเครื่องแรกเมื่อสองปีก่อน realme ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นแบรนด์ย่อยของ OPPO เพื่อท้าทาย Xiaomi ในตลาดอินเดีย โดยแบรนด์มุ่งเน้นที่สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นและกลุ่ม Budget ในเริ่มแรก

realme บุกเข้ามาในตลาดปี 2018 และคิดไม่ถึงว่าสามารถเอาชนะ Xiaomi ได้

ด้วยราคาที่ถูกและการเปิดตัวที่ร้อนแรง ทำให้ realme สามารถทะยานอย่างรวดเร็ว แบรนด์เปิดตัวสมาร์ทโฟนมากถึง 27 รุ่นในระยะเวลาเพียง 2 ปี และครองส่วนแบ่งการตลาด 16.2% ในอินเดีย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มาก  realme ได้ทำการตัดราคา Xiaomi ด้วยการใช้ประโยชน์จากสเกลการผลิตขนาดใหญ่ของ BBK ทำให้แบรนด์ขายสมาร์ทโฟนในราคาที่ต่ำที่สุดได้  ทุกอย่างเกี่ยวกับแบรนด์ออกแบบมาโดยคำนึงถึง Xiaomi แม้แต่ชื่อ realme ก็ฟังดูเหมือนเป็นบริษัทในเครือ Redmi ของ Xiaomi

แต่ด้วยการท้าชิง Xiaomi ทำให้ realme สามารถสร้างช่องทางสำหรับตัวเองในอินเดียด้วยเวลาอันสั้น สมาร์ทโฟนกลุ่ม Budget ในอินเดียมีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก แต่ถึงกระนั้น realme ก็สามารถที่จะบันทึกสถิติยอดขายที่เพิ่มขึ้นในหมวดหมู่นี้ได้ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ขณะนี้ realme ได้แตกแขนงออกมาในสมาร์ทโฟนกลุ่มระดับ Mid - Range ด้วยอุปกรณ์อย่าง X2 Pro และ X50 Pro 5G ที่แนะนำหน้าจออัตราการรีเฟรชสูงและคุณสมบัติใหม่ เช่น การเชื่อมต่อ 5G

iQOO ออกแบบมาสำหรับยุค 5G

iQOO เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนล่าสุดของ BBK โดยมีการเปิดตัว iQOO 3 ในอินเดียเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 865 ซึ่ง iQOO นั้นเดิมที่เป็นแบรนด์ย่อยของ Vivo เมื่อแรกเริ่ม

ณ ตอนนี้มีข้อมูลไม่มากพอที่จะพูดคุยเกี่ยวกับ iQOO แต่เป็นที่ชัดเจนว่า BBK ต้องการให้ความสำคัญกับ 5G

5 บริษัท ที่แตกต่างกันบนตัวตนเดียวกัน

BBK ตอนนี้มี 5 แบรนด์สมาร์ทโฟน ในขณะที่แต่ละแบรนด์ทำงานในแยกกัน มีจุดขายแตกต่างกัน แต่พวกเขาแบ่งปันทรัพยากรฮาร์ดแวร์ร่วมกัน ทำให้ทั้ง 5 แบรนด์ได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับแบรนด์ขนาดเล็กรายอื่น

ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ realme สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 7 ของโลก ได้ภายในสองปี ด้วยแรงสนับสนุนจาก BBK ตอนนี้กลายเป็นเรี่ยวแรงที่ต้องคำนึงถึงอย่างมากในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน

Source : Android​ Central
Article By : โลกไอทีวันนี้