#FullReview : Samsung Galaxy Buds ชุดหูฟัง True Wireless รุ่นอัพเกรดใหม่ เสียงดีขึ้น , ไมค์แจ่มขึ้น แบตอึดขึ้น , สีสวยขึ้น ในราคาเท่าเดิม !!!


การที่จะหาหูฟัง True Wireless ซักตัวนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่การที่จะหาหูฟัง True Wireless ที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่ไม่ยุ่งยาก , มีระบบการจัดการที่ดี และมีคุณภาพเสียงชั้นเลิศ นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

หนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆของหลายๆคน ก็ต้องมี Samsung Galaxy Buds ซึ่งเป็นหูฟังไร้สาย ที่เปิดตัวมาพร้อมกับสมาร์ทโฟน Galaxy S10 Series เมื่อปีก่อน

แต่ล่าสุดในปีนี้กับการอัพเกรดแบบจัดเต็มที่มาใหม่ในชื่อว่า Samsung Galaxy Buds+



โดยเจ้า Galaxy Buds+ นี้เป็นทายาทสายตรงของ Galaxy Buds อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมีหน้าตาภายนอกที่เหมือนกันซะเหลือเกิน แต่ว่าภายในก็ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง

คุณสมบัติใหม่



เริ่มต้นด้วยความจุของแบตเตอรี่ที่ได้รับการปรับปรุงอย่างมาก มีการใช้งานสูงสุด 11 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (Galaxy Buds รุ่นแรกได้เพียง 6 ชั่วโมง) ในขณะเดียวกันเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของหูฟังรุ่นใหม่สามารถใช้งานได้นานถึง 22 ชั่วโมง ซึ่งมากเกือบสองเท่าของรุ่นเก่าที่ได้ 13 ชั่วโมง

คุณภาพเสียงของ Samsung Galaxy Buds+ ใหม่ จะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์  ตามข้อมูล หูฟังจะได้รับการติดตั้งวูฟเฟอร์และทวีตเตอร์โดยเฉพาะ ที่เรียกว่า  2 Ways Dynamic Speaker เมื่อเทียบกับลำโพงเดี่ยวรุ่นก่อนหน้า คุณภาพเสียงจะดีขึ้นอย่างชัดเจน

เพื่อตอบสนองต่อข้อบกพร่องของรุ่นก่อนหน้านี้ ในแง่ของคุณภาพการโทร ว่าเสียงสนทนาอู้อี้เหลือทน Samsung ได้ทำการอัพเกรดด้วยการ เพิ่มไมโครโฟน เป็น 2 ตัว (Two Outer) ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการที่หูฟังจับเสียงได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมการลดเสียงรบกวนที่ดีขึ้น (1 Inner)

โดยรวมการออกแบบ Galaxy Buds+ นั้นมีความคล้ายคลึงกันอย่างมากในแง่การออกแบบและขนาดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากความจุของแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ฟังก์ชั่นสัมผัสยังคงใช้งานได้ และสามารถใช้ควบคุมการเล่นเพลงได้ 

นอกจากนี้ Galaxy Buds+ ยังมีคุณสมบัติกันน้ำ IPx2  และ รองรับ Bluetooth 5.0

แกะกล่อง

ภายในกล่องนั้นประกอบไปด้วย



Charging Case × 1 ชุด

หูฟัง × 2 ข้าง
ยางซิลิโคนสำหรับเปลี่ยนจุกหูฟัง × 4 ชิ้น
สาย USB Type - C × 1 เส้น
คู่มือ × Warranty Card × 1 ชุด


ดีไซน์



Galaxy Buds+ นั้นอย่างที่กล่าวเบื้องต้น ยังคงมีดีไซน์โทนเดียวกับ Galaxy Buds รุ่นที่แล้วแบบเป๊ะๆ แต่ว่ามีการปรับวัสดุตัวชุดหูฟังรวมไปถึงกล่องบรรจุ ให้เป็นแบบผิว Glossy ที่ดูเรียบง่ายและมีความหรูหรามากขึ้น



ตัว Charging Case หรือ ตลับชาร์จ ที่เป็นกล่องเก็บหูฟัง นั้นด้านหน้ามีไฟ LED สำหรับแสดงสถานะของแบตเตอรี่ โดยมีทั้งหมด 3 สี คือ



1.สีแดง เมื่อแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 30%
2.สีเหลือง เมื่อแบตเตอรี่เหลือ 30 - 60%
3.สีเขียว เมื่อแบตเตอรี่เหลือเกิน 60%



เมื่อเปิดฝาตลับขึ้นมา จะพบตัวหูฟังพร้อมไฟแสดงสถานะด้านใน ซึ่งมี 2 สี คือ แดง(กำลังชาร์จ) และ เขียว(ชาร์จเต็มแล้ว)



ตัวหูฟังทั้ง 2 ข้าง มีการพิมพ์อักษรกำกับ L และ R สำหรับแยกซ้ายและขวา

ที่ฝั่งด้านในจะมีก้านหูฟังแบบ in - ears , ด้านข้างจะมีหน้าสัมผัสทองแดง 2 จุด สำหรับการชาร์จแบตกับตัวตลับ และ Touch Sensitive Sensors สำหรับตรวจจับการใส่หูฟัง โดยเจ้าเซนเซอร์นี้มีประโยชน์คือ เมื่อเราถอดหูฟังออกทั้ง 2 ข้าง เพลงจะหยุดเล่นแบบอัตโนมัติทันที



ฝั่งด้านนอกจะมีพื้นที่สำหรับสั่งงานด้านการสัมผัส(TouchPad) และ รูไมโครโฟน ด้านล่างทั้ง 2 ข้าง



ส่วนด้านหลังของตลับชาร์จ มีพอร์ต USB Type - C สำหรับชาร์จด้วยสาย และ ตัวตลับยังรองรับ Wirelss Charging อีกด้วย

การเชื่อมต่อ



ถือเป็นข้อดีของอุปกรณ์ EcoSysyem ของ Samsung เพราะใช้การเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่นเดียวกันทั้งหมดคือ Galaxy Wearables ซึ่งง่ายแสนง่ายมาก



ในการเชื่อมต่อครั้งแรก เมื่อคุณเข้ามาในหน้าแรกของแอพ Galaxy Wearables แล้ว ให้คุณเลือกเชื่อมต่อในหัวข้อ Galaxy Buds/Buds+ จากนั้นเปิดฝาของตลับชาร์จขึ้นมา หลังจากนั้นก็รอให้มัน Set Up แค่เพียงชั่วอึดใจเท่านั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น เราไม่ต้องไปตั้งค่ายุ่งยากอะไรเลยครับ




หลังจากเชื่อมต่อเสร็จ หน้าแรกในแอพ Galaxy Wearable จะมีการปรับตั้งค่าและแสดงสถานะต่างๆดังนี้



- Ambient Sound คือการเปิดรับเสียงรอบข้าง ในกรณีที่เราเดินบนถนนหรือขับขี่ยานพาหนะ เช่น เสียงคนรอบข้าง , เสียงแตรรถยนต์ ก็จะแทรกเข้ามาในหูฟังให้เราได้รู้ตัว (เหนุเพราะหูฟัง in ears เวลาอุดหูแน่นๆจะไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกเลย)



ซึ่งเลือกได้ 3 ระดับ (แต่ถ้าเลือกในโหมด Lab จะมีเพิ่มเป็น 4 ระดับ)

- การปรับแต่งโทนเสียง โดยปรับได้ 5 รูปแบบ คือ Bass boost, Soft, Dynamic, Clear และ Treble boost 



- การตั้งแจ้งเตือน ว่าเลือกจะให้แจ้งเตือนจากแอพไหนบ้าง (ตัวหูฟังจะอ่านชื่อแอพและเนื้อหาเบื้องต้นให้ รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ)

- การตั้งค่า TouchPad โดยหลักๆมีดังนี้



แตะ 1 ครั้งเพื่อหยุด/เล่นเพลง
แตะ 2 ครั้งเพื่อข้ามไปเพลงถัดไป
แตะ 3 ครั้งเพื่อย้อนกลับเพลงก่อนหน้า
แตะค้างไว้จะเป็นการเรียกใช้งาน Bixby หรือ Google Assistant
แตะหูฟัง 2 ข้างพร้อมกัน เพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น (Pairing Mode) 



- Find My EarsBuds สำหรับใช้คนหาหูฟังในกรณีลืมไว้ โดยเมื่อกดฟังก์ชั่นนี้ เราจะได้ยินเสียงดังออกมาจากหูฟัง ทำให้เราทราบตำแหน่ง



ส่วนการใช้งานในครั้งต่อๆไปหลังจากตั้งการเชื่อมต่อไว้แล้วก็ง่ายมากๆ แค่คุณเปิด Bluetooth บนสมาร์ทโฟนที่จับคู่ไว้ จากนั้นเปิดฝาของตลับชาร์จ เพียงเท่านี้ตัวหูฟังก็จะเชื่อมต่อให้อัตโนมัติทันที

คุณภาพเสียงที่ได้และการสวมใส่



ต้องบอกว่า Galaxy Buds+ นั้นให้คุณภาพเสียงที่ค่อนข้างประทับใจกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจนมาก โดยมาในโทนเสียงแหลมและเบสเป็นหลัก แต่เสียงเบสอาจจะไม่ได้แน่นหนักมาก แต่ก็มาเป็นลูกๆเหมือนกัน อันเนื่องมาจาก Tweeter และ Woofer ที่เพิ่มเข้ามา โดยรวมแล้วต้องบอกว่าให้เสียงที่มีรายละเอียดครบถ้วนพอสมควร ตามสไตล์ AKG เลยครับ

ตัวหูฟัง in ears มีการออกแบบที่ค่อนข้างดี กระชับกับใบหู แต่ไม่รู้สึกว่าอึดอัดจนมากเกินไป ใส่สบายกว่ารุ่นก่อน สามารถใส่ฟังเพลงได้ต่อเนื่องนานกว่าปกติ และไม่มีส่วนยื่นส่วนเกินออกมานอกใบหู ซึ่งจุดนี้ถือว่าออกแบบได้สวยงามมาก

คุณภาพสัญญาณ

ค่อนข้างดี ไม่มีอาการกระตุกหรือเสียงดีเลย์ให้เห็น หรือถ้ามีก็อาจจะน้อยมาก ซึ่งผมไม่ทันรู้สึกตัว เท่าที่ลองทดสอบฟังเพลง , ดูหนัง และเล่นเกมส์ ต่อเนื่องราวๆ 2 - 3 ชั่วโมง จัดว่ารอบนี้ทำออกมาดีเช่นเคยครับ

คุณภาพการใช้เพื่อโทรออกรับสาย



จุดนี้ต้องขอบอกว่าแก้ไขได้ตรงจุดและประทับใจมาก จากรุ่นก่อนที่พบว่าเสียงพูดจากฝั่งเราอู้อี้และฟังยาก , เสียงก้องเหมือนเปิด Speaker ในรุ่น Buds+ จึงได้แก้ไขโดยการเพิ่มไมค์ขึ้นเป็น 2 ตัว ทำให้จับเสียงสนทนาได้ดีกว่าเดิม , ลดอาการเสียงก้องหรือเสียงสะท้อนไปได้ และเมื่อเราโทรออกไปหรือรับสาย จะได้ยินเสียงของคู่สนทนาชัดเจนดีมาก 

ระยะเวลาการใช้งาน

ทาง Samsung เคลมว่า Galaxy Buds สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 11 ชั่วโมง ต่อการชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้ง , ส่วนตลับชาร์จเมื่อมีแบตเต็มสามารถเติมไฟให้หูฟังได้ถึง 4 ครั้ง และจากที่ลองแม้จะไม่ได้ใช้งานต่อเนื่องเกินสิบชั่วโมง แต่โดยเฉลี่ยแล้วแบตค่อนข้างอึดทีเดียวครับ แถมยังรองรับ Wireless Charging ยิ่งถ้าคุณมีสมาร์ทโฟนซึ่งรองรับ PowerShare ชีวิตจะยิ่งง่ายทันทีเลยครับ

สรุป



Galaxy Buds+ นั้นจัดเป็นหูฟังที่ดีและมีคุณสมบัติครบรอบด้าน , มีความง่ายต่อการเชื่อมต่อและเปิดใช้งาน , มีคุณภาพเสียงที่จัดว่าดีในระดับต้นๆของหูฟังชนิด True Wireless มีการปรับปรุงในเรื่องระบบสนทนาแล้ว โดยรวมจัดว่าเยี่ยมครับ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวที่เท่าเดิมแล้ว ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มน่าใช้งานอย่างมากครับ

คะแนน

- ดีไซน์ : 9/10
- การเชื่อมต่อ : 9/10
- ความง่ายในการใช้งาน 9.5/10
- คุณภาพเสียง : 8.5/10
- แบตเตอรี่ : 9/10
- คุณภาพการโทร : 8.5/10
- ราคา : 8/10

รวมคะแนนเฉลี่ย : 8.78/10 คะแนน

Galaxy Buds+ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ตาม Samsung Brand Shop ทุกสาขา และ ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย รวมถึงช่องทางออนไลน์ต่างๆ ในราคา 4,990 บาท

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments