#FullReview : Samsung Galaxy S6 Lite แท๊บเล็ตรุ่นกลาง ที่มาพร้อมกับ ปากกา S - Pen ใหม่ เขียนลื่นไวกว่าเดิม พร้อม ระบบปฎิบัติการ Android 10 + OneUI 2.1 ที่อัดฟีเจอร์มาเต็ม !!!!



Samsung เปิดตัวแท็บเล็ต "lite" รุ่นใหม่ ในชื่อ Galaxy Tab S6 Lite ด้วยดีไซน์คล้ายกับรุ่นพี่ Galaxy Tab S6 แต่มาพร้อมกับ S Pen ที่ออกแบบใหม่ ที่น่าใช้กว่าเดิม พร้อมราคาที่จับต้องได้อย่างมาก

สเปคกลางสำหรับแท็บเล็ต "Lite" 

Samsung Galaxy Tab S6 Lite ใช้ชิปเซ็ต Exynos 9611 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ตัวเดียวที่พบในสมาร์ทโฟนระดับกลางของบริษัทหลายรุ่น โดย Exynos 9611 เป็นโปรเซสเซอร์ที่มีความสามารถสูง จะมาพร้อมกับ RAM 4 GB และ ROM 64 GB 

คุณสมบัติใหม่ใน One UI 2.1 แบบใน Galaxy S20 Series จะถูกนำมาลงไว้ใน Tab S6 Lite รวมไปถึง MDE Call & Text on Other Devices ที่สามารถรับสายโทรเข้าหรือข้อความจากอุปกรณ์ Samsung Galaxy รุ่นอื่นๆ ผ่านการล๊อคอิน Samsung Account เดียวกันได้ (สูงสุด 3 เครื่อง)

ความโดดเด่นที่สำคัญคือ ปากกา S - Pen ดีไซน์ใหม่  จับถนัดมือมากกว่าเดิม รองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ และมีอัตราความหน่วงอยู่ที่ 26 มิลลิวินาที ทำให้ตอบสนองได้ไวขึ้น อีกทั้งไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ สามารถหยิบมาใช้งานได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด และไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม เพราะปากกา S Pen รุ่นนี้ แถมมาให้กับตัวเครื่องอยู่แล้ว

สเปค Samsung Galaxy Tab S6 Lite

หน้าจอชนิด TFT ขนาด 10.4 นิ้ว , ความละเอียด WUXGA+ (2000 × 1200 พิกเซล)
CPU : Samsung Exynos 9611 Octa Core ความเร็ว 2.3 GHz
GPU : Mali - G72
RAM : 4 GB
ROM : 64 GB
รองรับ Micro SD Card สูงสุด 1 TB
รองรับ 1 Sim Card (เฉพาะรุ่น 4G LTE) 
กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับปากกา S - Pen แรงกด 4,096 ระดับ
รองรับ Speaker คู่ แบบ Stereo Sound By AKG 
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/ b/ g/ n/ ac 2.4G + 5 GHz, MIMO, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.0
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ : USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 7040 mAh + 15W Adaptive Fast Charging 
ระบบปฎิบัติการ : Android 10 + One UI 2.1
สี : Chiffon Pink , Angora Blue และ Oxford Gray

#ราคาจำหน่าย

รุ่น WiFi Only (มีทุกสี) ราคา 11,990 บาท

รุ่น LTE (มีเฉพาะ สีฟ้าและดำ) ราคา 14,990 บาท

#ราคาอุปกรณ์เสริม

Book Cover + ช่องเก็บ S - PEN ราคา 1,690 บาท

S - Pen ราคา 1,590 บาท (สามารถใช้ร่วมกับ Galaxy Note 10 Series ได้)


#Design

Samsung Galaxy Tab S6  Lite มาพร้อมวัสดุประกอบตัวเครื่องแบบ Metal Unibody ให้สัมผัสที่หรูหราและมีน้ำหนักเบา โดยตัวเครื่องอยู่ที่ 244.5 x 154.3 x 7 มม. น้ำหนัก 467 กรัม




ใช้หน้าจอชนิด TFT LCD ขนาด 10.4 นิ้ว, ความละเอียด 2000 × 1200 พิกเซล โดยที่ขอบบนมีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ติดตั้งอยู่




ด้านขอบขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ถาดใส่ซิมการ์ด (1 ซิม + microSD Card) , ไมโครโฟน, ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power




โดยรุ่นที่นำมารีวิวนั้นเป็นรุ่น LTE ทำให้รองรับการใช้งาน Mobile Data 4G และ รองรับการโทรได้ แต่จะสังเกตุเห็นว่า ที่ขอบบนจะไม่มีลำโพงสนทนา ทำให้เวลาโทรต้องต่อหูฟังอย่างเดียวเท่านั้นครับ




ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้นไม่มีพอร์ตใดๆ เพราะ Tab S6 Lite ไม่ได้รองรับการต่อ Keyboard Book Cover แต่ยังสามารถเชื่อมต่อ Keyboard แบบ Bluetooth ได้อยู่ครับ




ขอบด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพง Speaker (ตัวที่ 1), ไมโครโฟน และช่องหูฟัง 3.5 mm.




ส่วนขอบด้านล่างของตัวเครื่อง มีพอร์ต USB Type-C  และลำโพง Speaker (ตัวที่ 2)




ส่วนด้านหลังนั้นมีเพียง กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (ไม่มีไฟแฟลช LED)

ปากกา S - Pen ใหม่




ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงความถนัดในการเขียนมากยิ่งขึ้น ด้วยแท่งปากกาจะไม่ใช่ทรงกลม แต่มีด้านตัด สำหรับวางติดกับขอบขวาตัวเครื่อง 



โดยยึดติดแบบแม่เหล็กได้แนบสนิทแล้ว ยังทำให้เขียนง่ายขึ้นด้วยครับ



และในเมื่อมีปากกา S Pen จึงมีแอพพลิเคชั่น Samsung Notes ที่ทำให้การจดบันทึกรวดเร็วและง่ายขึ้น โดยคุณสามารถเปลี่ยนบันทึกย่อที่เขียนด้วยลายมือให้เป็นข้อความเพื่อให้ง่ายต่อการแก้ไขและแบ่งปัน ด้วยฟีเจอร์ Hand Writing to Text ที่แปลงลายมือเขียนให้กลายเป็นตัวอักษรและสามารถส่งออกเป็นไฟล์ Word , PDF หรือ Text ได้ทันที




นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ AR Doodle กับการวาดภาพ 3 มิติ เชิงเส้น ให้กับตัวบุคคลหรือฉากหลัง สำหรับการ Create Content ที่สร้างสรรค์ยิ่งกว่าเดิม และ คุณสมบัติสุดคลาสสิคอย่าง Screen Off Memo และ Live Message ก็มีมาด้วยเช่นกัน




และเนื่องจากปากกา S Pen ของ Samsung Galaxy Tab S6 Lite นั้น ไม่ได้รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ทำให้การใช้งานอาจจะไม่ครบถ้วนเหมือนใน Galaxy Note แต่ก็ถือว่ามากเกินพอครับ

Hardware & Performance




ด้านสเปคของหน่วยประมวลผล มาพร้อมชิปเซ็ต Samsung Exynos 9611 Octa Core , ขนาด 10 นาโนเมตร (Quad 1.7 GHz + Quad 2.3 GHz) และ GPU  Mali - G72MP3 โดยมี RAM 4 GB และ ROM 64 GB 




ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม GeekBench ออกมาได้คะแนนค่อนสมดุล ไม่ได้สูงมากนัก แต่ว่าคะแนนทดสอบนั้นไม่ใช่ทุกสิ่ง เมื่อลองใช้งานจริงกลับพบว่าลื่นไหว 




เนื่องด้วย One UI 2.1 ของ Samsung และระบบปฎิบัติการ Android 10 ที่ค่อนข้างเสถียร โดยรวมแล้วในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งเปิด Social แอพต่างๆ หรือจะดู YouTube ก็ไม่ติดขัดใดๆครับ




หน้าจอหลักหากปัด Tray ในขอบขวาออกมา จะเป็นถาด Multi-Window ซึ่งเป็นเมนูลัดเข้าสู่แอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อย โดยผู้ใช้สามารถเปิดปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ที่ การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง > ถาดมัลติวินโดว์




ที่สำคัญคือ Samsung Galaxy Tab S6 Lite รองรับ Widevine L1 Certificate นั่นหมายความว่าคุณสามารถรับชม Netflix ได้ที่ความละเอียดระดับ HD เลยครับ




การเล่นเกมส์นั้นสามารถเล่นได้ตั้งแต่เกมส์กราฟฟิคปกติขึ้นไปครับ แต่หากเล่นเกมส์กราฟฟิคสูงอาจจะพบการหน่วงบางจังหวะ และยังรองรับ Game Booster สำหรับจัดสรรค์ทรัพยากรในระบบและตัดการแจ้งเตือน เช่น สายเรียกเข้า ที่จะมาจัดขวางการเล่นเกมส์ได้ครับ

#Camera




ต้องบอกว่า กล้องถ่ายรูป ไม่ใช่โจทย์หลักของ Tablet อยู่แล้วครับ แต่ก็พอจะมีไว้ให้ถ่ายใช้งานกันได้อยู่หลายฟีเจอร์ เช่น Live Focus, วิดีโอ, โปร, Panorama, Food และ Hyperlapse พร้อมรองรับ Digital Zoom 2 เท่า กับ Scene Optimizer


#ตัวอย่างภาพถ่าย




#Battery




Samsung Galaxy Tab S6 Lite มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 7040 mAh ซึ่งถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก และรองรับ 15W Adaptive Fast Charging อีกด้วย ทำให้ครอบคลุมการใช้งานได้ตลอดวันแบบสบายๆครับ


#สรุป




Samsung Galaxy Tab S6 Lite ถือเป็นแท๊บเล็ตชั้นดีที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวันตลอดไปจนถึงการทำงานด้านการขีดเขียน ด้วย S Pen ใหม่ อันเป็นเอกลักษณ์และนวัตกรรมของทาง Samsung ที่ให้ความใกล้เคียงกับการเขียนด้วยปากกาจริงๆ และเสริมด้วยความโดดเด่นของฟีเจอร์ทันสมัยต่างๆ ก็แทบจะครอบคลุมแบบจบในเครื่องเดียวเลยครับ




สำหรับ Samsung Galaxy Tab S6 Lite รุ่นที่วางจำหน่ายในไทย จะมีให้เลือก 2 รุ่น นั่นก็คือ รุ่น Wi-Fi ราคา 11,990 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Oxford Gray, Chiffon Pink และ Angora Blue ส่วนอีกรุ่นได้แก่ 4G LTE ราคา 14,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ได้แก่ Oxford Gray และ Angora Blue

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments