#FullReview : Fitbit Versa 3 สมาร์ทวอชรุ่นใหม่ สำหรับคนรักการออกกำลังกายขั้นเทพ แบบพิเศษ กับการแกะกล่องรีวิวบนรถไฟตู้นอนไปเชียงใหม่ !!!


Fitbit Versa 3 สมาร์ทวอชรุ่นใหม่ ที่สานต่อมาจากรุ่นยอดนิยมอย่าง Versa 2 โดยแน่นอนว่าสำหรับสายออกกำลังกายแบบจัดหนัก ไม่มีอะไรจะขึ้นชื่อไปกว่า Fitbit อีกแล้ว โดยที่ Fitbit Versa 3 จะมาพร้อมจุดเด่นอย่าง GPS ในตัว , รองรับการใช้งานคำสั่งเสียงจาก Google Assistant และ Amazon Alexa ในเครื่อง , รองรับการกันน้ำลึก 50 เมตร , การวัด SpO2 , เตือนการล้างมือ , เทคโนโลยี PurePulse 2.0 และ Active Zone Minutes พร้อมฟีเจอร์เพื่อสุขภาพอีกมากมายกว่า 20 โหมด


แน่นอนว่าการรีวิวครั้งนี้ จะอินดี้ยิ่งกว่า เพราะว่าผมทำการแกะกล่องรีวิวระหว่างการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ ในรถไฟตู้นอน อุตรวิถี ที่ให้บรรยากาศที่แตกต่าง แกะปุ๊ปใส่นอนปั๊ป ลองไปดูกันครับว่าเป็นอย่างไร

Unboxing ภายในกล่องประกอบไปด้วย





- ตัวเรือน Fitbit Versa 3
- สายนาฬิกาสำรองแบบยาว × 1 เส้น
- สายชาร์จแบบ Magnet
- คู่มือเบื้องต้น

ดีไซน์



ด้านดีไซน์ตัวเรือนจะยังคงคล้ายกับรุ่นก่อน ด้วยทรงสี่เหลี่ยมกึ่งจตุรัส วัสดุอลูมิเนียมชุบสีทอง ดูเรียบหรู พร้อมหน้าจอ Amoled ขนาด 1.5 นิ้ว สามารถสู้แสงแดดกลางแจ้ง มองเห็นได้อย่างชัดเจน รองรับ Always On Display พร้อมการกันน้ำระดับ 5ATM



ตัวเรือนด้านซ้ายเป็นปุ่มกด ที่ตอบสนองการใช้งานด้วยการสั่น ซึ่งจะมองไม่เห็นปุ่มแต่สามารถสัมผัสได้ ถัดไปด้านล่างจะเป็นช่องไมโครโฟนสำหรับใช้งานคำสั่งเสียง



ส่วนตัวเรือนด้านขวา จะเป็นช่องลำโพง Speaker และไมโครโฟนอีกหนึ่งตัว



ด้านหลังจะมีเซ็นเซอร์ต่างๆ สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ , อ๊อกซิเจนในเลือด และจะนมีพอร์ตสีทอง 4 ด้าน ใช้สำหรับยึดติดกับแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก



ตัวสายนาฬิกาเป็นแบบซิลิโคนนิ่ม ถอดเปลี่ยนง่าย เพียงแค่กดสลักหลังเครื่อง



โดยในกล่องมีสายมาให้ 2 ขนาด ได้แก่ ไซส์ S สำหรับข้อมือขนาด 5.5- 7.1 นิ้ว และไซส์ L สำหรับข้อมือขนาด 7.1 – 8.7 นิ้ว



การใช้งานเมนูเบื้องต้น



ปัดหน้าจอขึ้น จะเป็นหน้าต่าง Manage Tap แสดงค่า Core Stats เช่น การเดิน , การขึ้นบันได , ระยะทาง , การเบิร์นแคลลอรี่ และ Active Zone Minute



ปัดหน้าจอลง จะแสดงการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ



ปัดทางขวา จะเป็น Shortcuts สำหรับตั้งค่าความสว่าง , ปรับเสียง , เปิด/ปิด Sleep Mode



ปัดทางซ้าย จะเป็นหน้า App Drawer ของเครื่อง

การเชื่อมต่อ

Fitbit Versa 3 สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฎิบัติการ iOS ตั้งแต่เวอร์ชั่น 12.2 ขึ้นไป หรือระบบปฎิบัติการ Android 7.0 ขึ้นไป โดยทำงานผ่านแอปพลิเคชั่น Fitbit ที่สามารถดาวน์โหลดได้จาก iOS App Store และ Google Play Store


เมื่อเข้าแอพครั้งแรก ให้เลือกรุ่นที่ต้องการเชื่อมต่อเป็น Versa 3 แล้วกด Set up



จากนั้นให้กรอก Email และ Password เพื่อสมัครใช้งาน Fitbit ID



ในการตั้งค่าครั้งแรก ระบบจะแนะนำให้เชื่อมต่อนาฬิกาเข้ากับแท่นชาร์จ แล้วทำตามขั้นตอนของระบบไปเรื่อยๆ

เมื่อเสร็จสิ้นจะเข้ามาสู่หน้าแรก เรียกว่า Today





ซึ่งเป็นหน้ารวมข้อมูล Profile ซึ่งสามารถดูข้อมูลการเชื่อมต่อต่างๆของผู้ใช้ เช่น Active Zone Minutes


สถานะการออกกำลังกาย , สุขภาพ (Health Metric) เช่น การวัดการหายใจ , อัตราการเต้นหัวใจ , ปริมาณอ๊อกซิเจนในเลือด , อุณหภูมิผิวหนัง

หน้าต่างหมวด Discovery



จะเป็นเมนูที่ให้คำแนะนำในการออกกำลังกาย , วิธีคลายความเครียด ตามคำแนะนำของเทรนเนอร์ผ่านวิดีโอ ในการปฎิบัติตามอย่างถูกต้อง

หน้าต่างหมวด Community



สำหรับรวบรวมชุมชนคนชอบออกกำลังกายที่ใช้ Fitbit จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อร่วมแบ่งปันข้อมูลการออกกำลังกาย และ พูดคุยกัน

หน้าต่างหมวดหมู่ Premium



จะเป็นหน้าสำหรับฟีเจอร์ระดับ Premium ที่ต้องเสียเงินรายเดือน แต่สำหรับผู้ใช้ครั้งแรก สามารถทดลองใช้งานฟรีได้ 3 เดือน ฟีเจอร์เด่นๆได้แก่ 





Advance Sleep Analytics ที่จะวิเคราะห์การนอนของคุณอย่างละเอียด

หน้าต่างหมวดหมู่ COVID - 19



สำหรับติดตามข้อมูลต่างๆ จากองค์กรอนามัยโลก หรือ WHO ในการดูยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก พร้อมให้คำแนะและการปฎิบัติให้ปลอดภัย

หน้าต่างตั้งค่านาฬิกา



จะแสดงแบตเตอรี่, รวมถึงการตั้งค่าต่างๆ เช่น การแจ้งเตือน



Watch Faces มีให้เลือกดาวน์โหลดมากกว่า 1000 รูปแบบ ทั้งฟรี และ เสียเงิน



Amazon Alexa สามารถ Log in และ เรียกใช้งานได้ผ่านหน้าต่างนี้ 



ด้านการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Facebook , Messenger หรือ Line สามารถทำได้ แต่ยังไม่รองรับภาษาไทย

ฟีเจอร์เด่น

โหมดออกกำลังกาย

มีให้มากกว่า 20 โหมด เช่น วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, ปีนเขา โยคะ กอล์ฟ , เทนนิส , ปียเขา , ลู่วิ่ง เป็นต้น ซึ่งมีให้เลือกใช้งานเยอะและครอบคลุมการออกกำลังกายทุกรูปแบบ

การวัดอัตราการเต้นหัวใจแบบ Real Time 24/7




ด้วยเทคโนโลยี PurePulse 2.0 สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ มีความแม่นยำสูง และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลแบบละเอียดผ่านทางแอพพลิเคชั่น Fitbit ได้ด้วย

Oxygen Saturation (SpO2 – ระดับออกซิเจนในเลือด)



สำหรับการวัดออกซิเจนในเลือด พร้อมมีหน้าปัดนาฬิกา Watch Face แบบพิเศษ สำหรับประเมินตลอดช่วงเวลานอนหลับด้วย

GPS ในตัว

Versa 3 มาพร้อมกับ GPS ในตัว ซึ่งจะช่วยติดตามการออกกำลังกายโดยที่เราไม่ต้องนำสมาร์ทโฟนติดตัวไปด้วยในระหว่างการออกกำลังกาย

Active Zone Minutes

สำหรับประเมิน Zone ของการออกกำลังกายว่าร่างกายของคุณอยู่ในระดับกานเผาผลาญโซนไหน ซึ่งจะช่วยให้เราออกกำลังกายได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ฟังเพลงผ่าน Deezer, Pandora และ Spotify

Fitbit Versa 3 รองรับการควบคุมการเล่นเพลงจาก Spotify , Deezer และ Pandora ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของคุณได้

แบตเตอรี่



สามารถใช้งานได้นานกว่า 6 วัน ในโหมดการใช้งานปกติ หรือ 12 ชั่วโมงต่อเนื่อง ในการเปิดใช้งาน GPS นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบชาร์จเร็ว เพียงชาร์จ 12 นาที ก็สามารถใช้งานได้ 1 วันเต็ม

สรุป

ข้อมูลและจุดเด่น Fitbit Versa 3

• Fitbit Versa 3 ราคา 9,190 บาท

• สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ สุดพรีเมี่ยม ที่อัพเกรดขึ้นเพื่อช่วยในการติดตามสุขภาพและสายฟิตเนส

• มีระบบติดตั้งระบบ GPS บนเครื่อง

• เทคโนโลยี PurePulse 2.0 ระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

• Sleeping Score ระบบช่วยตรวจวัดการนอนและข้อมูลเชิงลึก บ่งบอกระดับการนอนแต่ละระดับทั้ง หลับลึก หลับไม่สนิท และช่วงหลับฝัน ทำให้ผู้ใช้สามารถประเมินคุณภาพการนอนได้แบบเรียลไทม์ทุกเช้าหลังตื่นนอน

• ฟังก์ชั่น Active Zone Minute ตัวช่วยตรวจจับชีพจรและระดับความเข้มข้นในการออกกำลังกาย

• ระบบชาร์จโฉมใหม่ แบบแม็กเนคติกที่สามารถใช้ได้ทั้งรุ่น Fitbit Versa 3 และ Fitbit Sense เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอร์รี่ได้ยาวนานถึง 6 วัน

Fitbit Premium ให้คุณได้มากขึ้นจากอุปกรณ์ฟิตบิทของคุณ

• Fitbit Premium ยกระดับประสบการณ์ฟิตบิทเมื่อจับคู่กับอุปกรณ์ของฟิตบิท ปลดล็อคการวิเคราะห์ข้อมูล และข้อมูลเชิงลึกเฉพาะบุคคลที่เป็นการเชื่อมต่อกิจกรรมต่างๆ ของคุณ รวมไปถึงการนอนและจังหวะการเต้นหัวใจ Fitbit Premium นำเสนอเครื่องมือด้านการนอนหลับขั้นสูง คลิปการออกกำลังกายมากกว่าร้อยรายการจากสตูดิโอชื่อดัง เช่น Aaptiv barre3  Daily Burn  Down Dogobé  Physique 57  POPSUGAR และ Yoga Studio โดย Gaiam เช่นเดียวกับเทรนเนอร์และอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียง อย่าง Aaptiv  Aura  Breethe และ Ten Percent Happier รวมถึงเกมและความท้าทายต่าง ๆ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจ แนะนำกิจกรรม การนอนหลับและโภชนาการ ตลอดจนรายงานสุขภาพเพื่อร่วมแบ่งปันในทีม Fitbit Premium ยังคงต่อยอดการบริการข้อเสนอต่างๆ และขยายการเข้าถึง ด้วยผู้ใช้บริการแบบพรีเมียมกว่า 500,000 รายทั่วโลก หลังเปิดบริการเพียงหนึ่งปี พรีเมียมจะมีการขยายบริการไปยังภาษาดัตช์ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาอิตาเลียน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาสเปน และภาษาสวีดิชภายในปลายเดือนกันยายน ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพให้ผู้ใช้ฟิตบิทโลกได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการให้บริการ

• Fitbit Premium เปิดให้บริการโดยราคาอยู่ที่ 300 บาทต่อเดือน หรือ 2,500 บาทต่อปี สำหรับผู้ใช้ Fitbit Premium นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการได้ในประเทศสิงคโปร์ สามารถเยี่ยมชมได้ผ่าน Fitbit app หรือ Fitbit.com

ราคาและการวางจำหน่าย


• Fitbit Versa 3 ในราคา 9,190 บาท พร้อมจำหน่ายอุปกรณ์เสริมหลายรูปแบบ รวมถึงสายถักจากไนลอนรีไซเคิล (REPREVE®) นอกจากนี้ยังมีสายแบบถักสานจาก Pendleton® และ Victor Glemaud สำหรับสายถักเชฟรอน โดยราคาเริ่มต้นที่ 1,190 บาท

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fitbit Versa 3 ได้ ที่

https://www.fitbit.com/global/us/products/smartwatches/versa3

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments