เมื่อวานนี้ Pete Lau ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ OnePlus ได้ออกอีเมลภายในโดยระบุว่า “ภายใต้คำแนะนำอย่างเป็นเอกฉันท์ของทีมผู้บริหารหลักของ OnePlus และ OPPO เราตัดสินใจรวมทีม OnePlus และทีม OPPO เข้าด้วยกัน โดย OnePlus จะกลายเป็นแบรนด์ที่ดำเนินการอย่างอิสระภายใต้ OPPO”
ฝ่ายที่เกี่ยวข้องของ OPPO และ OnePlus ยืนยันการควบรวมกิจการ จากข้อมูลที่หลายคนคุ้นเคยในเรื่องนี้ มีเหตุผลหลักสองประการที่อยู่เบื้องหลังการปรับของ OPPO และ OnePlus
หนึ่ง คือการเปิดโครงสร้างภายในให้มีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในตลาดโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะการแข่งขันในตลาดระดับไฮเอนด์ อีกประการหนึ่งคือ การปรับองค์กรและบุคลากรและเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จากความต้องการของ Chen Mingyong ผู้ก่อตั้ง OPPO
ทั้ง OPPO และ OnePlus เป็น บริษัทที่อยู่ภายใต้ BBK Electronics ในกวางตุ้ง แต่นอกเหนือจากซัพพลายเชนและการแบ่งปันการผลิตแล้ว แบรนด์ต่างๆยังดำเนินการอย่างอิสระอยู่เสมอ ตำแหน่งทางการตลาดของพวกเขาก็แตกต่างกันเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปในช่วงสองปีที่ผ่านมา ในเดือนพฤษภาคม 2020 Pete Lau กลับมาที่ OPPO ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ซึ่งรับผิดชอบสายผลิตภัณฑ์ของ OPPO และ OnePlus
และในเดือนมีนาคม 2021 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ OnePlus รุ่น OnePlus 9 ได้ทิ้งระบบ Hydrogen OS เดิม และใช้ระบบปฏิบัติการ ColorOS เดียวกันกับ OPPO
นอกจากนี้ ตามที่กล่าวไว้ด้านบน เหตุผลที่สอง คือโอกาสที่กว้างขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า จะเห็นได้ว่าผู้ผลิตรถยนต์ที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมดั้งเดิมจำนวนมากได้เริ่มเข้าสู่ตลาดนี้ กรณีที่เห็นชัดที่สุดคือ Xiaomi ซึ่งได้ประกาศไปแล้วว่าจะลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi คันแรกจะออกสู่ตลาดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ในขณะเดียวกัน Apple ก็กำลังเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
ในความเป็นจริงมีแบรนด์มากเกินไปในตลาดสมาร์ทโฟน นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมองหาช่องทางอื่นเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นผลให้พวกเขานำเสนอ ชุดหูฟังไร้สาย แล็ปท็อป เครื่องใช้ในบ้านอัจฉริยะ ฯลฯ
ในแง่นี้ OnePlus และ OPPO ได้ทำการตัดสินใจที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล การรวมทีมเข้าด้วยกันจะสามารถออกแบบและผลิตรถยนต์ที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ที่มีอยู่ได้
และการดำเนินกิจการภายใต้บริษัทเดียวกัน ก็เกิดขึ้นอยู่เนิ่นนานตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว ดังนั้นเจ้าของสมาร์ทโฟน OnePlus และ OPPO จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับการควบรวมกิจการดังกล่าว
Source : GizChina
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment