เป็นเวลาสองสามปีแล้วที่เราเห็นวิกฤตการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับ Huawei ก่อนหน้านี้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากจนกระทั่งถึงเวลาที่โดนสหรัฐฯคว่ำบาตร โดยกล่าวหา Huawei ว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ขึ้นบัญชีดำการส่งออก และห้ามไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยีที่สำคัญที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการออกแบบชิปของตัวเองและการจัดหาส่วนประกอบจากซัพพลายเชน เนื่องจากไม่สามารถสั่งซื้อชิ้นส่วนประกอบตามจำนวนที่ต้องการสำหรับการผลิตได้
นับเป็นการสูญเสียเส้นทางสู่การเป็นเจ้ามหาอำนาจสูงสุดทางเทคโนโลยีไป ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นยอดขายสมาร์ทโฟนของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง
Huawei เองเชื่อว่าความยากลำบากทั้งหมดสามารถเอาชนะได้ และไม่ใช่ปัญหาสำหรับการอยู่รอด สิ่งนี้ถูกกล่าวโดยประธานบริษัท Guo Ping เขาไม่ได้ปกปิดข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐฯ สร้างปัญหามากมายให้กับบริษัท แต่ก็ไม่มีปัญหาที่แก้ไม่ได้ งานหลักคือการแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปเซ็ต บริษัทยังคงสามารถผลิตโปรเซสเซอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ได้ แต่ต้องนำไปผลิตเอง ดังนั้น Huawei จึงยุ่งอยู่กับการหาพันธมิตรในการสร้างสายการผลิตขึ้นมาใหม่
Guo Ping ยืนยันว่าบริษัทจะไม่ละทิ้งธุรกิจสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ Huawei จะกลับมาก้าวขึ้นสู่อันดับต้นๆของตลาดอีกครั้ง บริษัทจะไม่เพียงแต่สามารถออกแบบและผลิตได้เท่านั้น แต่ยังจะกลายเป็นผู้นำตลาดอีกด้วย
“ทุกคนรู้ดีว่าชิปโทรศัพท์ต้องการเทคโนโลยีขั้นสูงในขนาดที่เล็กและใช้พลังงานต่ำ Huawei สามารถออกแบบได้ แต่ไม่มีใครช่วยเราผลิตได้ เราติดอยู่ในขั้นตอนนี้”
“Huawei จะยังคงมีอยู่ในวงการโทรศัพท์มือถือ และด้วยความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการผลิตชิป บัลลังก์ของสมาร์ทโฟนจะกลับมายัง Huawei ในที่สุด” เขากล่าว
Guo Ping ประธานของ Huawei กล่าวในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับ Reuters
ตอนนี้ลำดับความสำคัญของบริษัทคือ : บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และสมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทอย่าง HarmonyOS จะช่วยให้ Huawei สามารถสร้างระบบนิเวศและทำให้บ้านอัจฉริยะทำงานอย่างสมบูรณ์แบบได้ แน่นอนว่าบริษัทจะไม่ผลิตรถยนต์ด้วยตัวเอง แต่จะมีส่วนร่วมในการจัดหาระบบอัจฉริยะเพื่อติดตั้งให้กับรถยนต์ของบริษัทนั้นๆ
บริษัทวิจัย Canalys ระบุว่า Huawei ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลก หลุดจากอันดับยอดขายสูงสุด 5 อันดับแรกของจีนในไตรมาสล่าสุด
ในเดือนพฤศจิกายน Huawei ขายกิจการ HONOR ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มุ่งเป้าไปที่การรักษาธุรกิจให้อยู่รอด
รายรับของ Huawei ร่วงลง 29% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งถือว่าลดลงมากที่สุด โดยรายได้จากกลุ่มธุรกิจผู้บริโภคซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน ลดลงถึง 47%
Comments
Post a Comment