#FullReview : vivo V23 5G !!!! จัดเต็มด้วย กล้องเซลฟี่คู่ รองรับระบบ Eye Auto Focus ความละเอียด 50 + 8 ล้านพิกเซล และ กล้องหน้า Ultra Wide 105 องศา พร้อมไฟ Dual-Tone Spotlight​, ฝาหลังโดนแดดเปลี่ยนสีได้ , ชิปเซ็ต​ Dimensity 920, RAM 12 GB, ROM 256 GB, กล้องหลัง​ 64 ล้านพิกเซล​ และ​ แบตเตอรี่​ 4200 mAh​ + 44W Flash Charge !!! ในราคา 17,999 บาท !!!!



vivo ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน V23 5G​ ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ด้วยสโลแกน "คมชัดทุกโมเมนต์ที่เป็นคุณ" ด้วยจุดเด่น กล้องเซลฟี่โฟกัสอัตโนมัติ 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Eye Auto Focus และ กล้อง Ultra Wide 105° ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และ ไฟแฟลช Dual-Tone Spotlight รุ่นแรกของประเทศไทย

พร้อมตัวเลือกสี Sunshine Gold มีเฟรมเครื่อง Unibody แบบมันวาว พร้อมกระจกฝาหลังเปลี่ยนสี (Color Changing Glass) ซึ่งทำปฎิกริยากับแสงแดดและแหล่งกำเนิดรังสียูวีอื่นๆ เพื่อสะท้อนสเปกตรัมของสีสันที่สดใส มีความละเอียดอ่อนแต่สะดุดตาไม่เหมือนใคร และ สี Stardust Black มีเฟรมเครื่องแบบด้านที่นุ่มนวลน่าสัมผัส

สเปค vivo V23 5G

หน้าจอชนิด Amoled ขนาด 6.44 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , อัตรา Refresh Rate 90 Hz , Touch Sampling Rate 240 Hz , 98% NTSC color gamut , รองรับ HDR10+ , อัตราส่วน 20 : 9
CPU : MediaTek Dimensity 920 Octa Core ระดับ 6 นาโนเมตร (2 x 2.5GHz Cortex-A78 + 6 x 2GHz Cortex-A55)
GPU : Mali-G68 MC4
RAM : 12 GB ชนิด LPDDR4x
ROM : 256 GB
รองรับ 5G Dual Mode
รองรับ 2 Sim Cards
*ไม่รองรับ Micro SD Card
รองรับ 5G Dual Mode
กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 64 + 8 + 2 ล้านพิกเซล , รองรับ OIS , Ultra Wide และ Macro Lens , f/1.89 + f/2.2 + f/2.4
กล้องหน้าคู่ความละเอียด 50 + 8 ล้านพิกเซล , f/2.2 + f/2.28 , รองรับ Eye Auto Focus และ กล้อง Ultra Wide 105 องศา พร้อมไฟแฟลช Dual Tone Sportlight
รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@30fps
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ลำโพง Speaker เดี่ยวแบบ Mono
รองรับ WiFi AC Dual Band / Bluetooth 5.2
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type - C
แบตเตอรี่ความจุ : 4200 mAh + 44W Flash Charge
ระบบปฎิบัติการ Android 12 + FunTouch OS 12
ขนาด: 157.20×72.42×7.39 mm.(Stardust Black) / 7.55 mm. (Sunshine Gold)
น้ำหนัก : 179 กรัม (Stardust Black) / 181 กรัม (Sunshine Gold)

Unboxing

กล่องของ​ vivo​ V23 5G​ มีทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โทนสีน้ำเงินเข้ม​ พร้อมด้วย​ Texture กล่องแบบสะท้อนแสงเป็นรูปตัวอักษร​ V ขนาดใหญ่​

ภายในกล่องประกอบด้วย

- ตัวเครื่อง​ vivo​ V23 5G​
- Adapter vivo Flash Charge 44W
- สาย USB Type - C
- หูฟัง​ 3.5 mm.
- Adapter 3.5 to Type C
- เคสซิลิโคน
- เข็มจิ้มถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน


Design

การออกแบบของ vivo​ V23 5G​ ยังคงมาพร้อมดีไซน์ที่หรูหรา และคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ที่มีสไตล์ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ และ ศิลปะ จินตนาการโดยนักออกแบบผู้มากประสบการณ์ พร้อมทั้งผสมผสานนวัตกรรมใหม่ สะท้อนความงานด้วยเฉดสีที่ทันสมัย

โดยเครื่องที่นำมารีวิวนี้คือสี Sunshine Gold ซึ่งใช้เทคโนโลยีการเคลือบผิวแบบ Satin AG ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ผ่านกระบวนการเคลือบสีระดับนาโน ให้ความรู้สึกนุ่มนวลดุจใยไหม และหลงไหลทุกสัมผัส

และตัวเครื่องสีทอง Sunshine Gold นั้นยังเป็นตัวแทนของความงามเปล่งประกายภายใต้แสงแดด ยิ่งมองยิ่งชวนหลงไหลอย่างมาก

Color Changing Glass ครั้งแรกกับ "ฝาหลังเปลี่ยนสีได้ ด้วยแสง UV"

นับเป็นไฮไลท์สำคัญอย่างมากของ vivo V23 5G กับฝาหลังที่ใช้เทคโนโลยี Color Changing Glass เป็นครั้งแรก สำหรับตัวเครื่องสี Sunshine Gold ด้วยเทคโนโลยีโฟโตโครมิก ซึ่งจะเปลี่ยนสีเมื่อกระทบกับแสง UV โดยสีทองประกายจะค่อยๆเปลี่ยนเฉดสีเป็นสีฟ้าอมเขียวที่งดงามดุจอัญมณี

แน่นอนว่าถ้าใครมีความคิดสร้างสรรค์ ก็สามารถนำอุปกรณ์ตัวช่วยต่างๆ มาออกแบบฝาหลังสวยๆตามต้องการได้อีกด้วย

vivo V23 5G มีขนาด 157.20×72.42×7.55 มิลลิเมตร และ น้ำหนัก 181 กรัม ถือจับสะดวกมือ บางเบา

อีกทั้งยังดีไซน์เฟรมเครื่องแบบขอบเรียบชุบสีทองมันวาวเป็นแนวตรง​ เพื่อเน้นความเรียบง่าย แต่ให้ดูทันสมัย ตัวเครื่องจึงเป็นทรงเหลี่ยมแบบมีระดับสัมผัสรับกับฝ่ามือ ใช้วัสดุอลูมิเนียมเกรดการบิน จึงมีความแข็งแรงทนทานอย่างมาก

ปุ่ม Power อยู่ทางด้านขอบขวา และปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่เหนือขึ้นไป

ขอบด้านบนติดตั้งไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง

ในขณะที่ขอบด้านล่าง​ จะมีพอร์ต USB Type - C บริเวณตรงกลาง​ พร้อมไมค์สนทนา​ ขนาบข้างด้วยลำโพง และ ถาดซิมการ์ดแบบ Nano Hybrid คู่ และไม่มีช่องเสียบหูฟัง​ 3.5​ mm.​

ที่ด้านหลังจะพบโมดูลกล้องขนาดใหญ่ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสวางแนวตั้ง ซึ่งมีกล้อง​ 3 ตัว โดยกรอบโมดูลยกขึ้นเพียง 2 - 3 มิลลิเมตร ด้วยการจัดวางตัวกล้องที่ดูสง่างาม มีพื้นเป็นสีเดียวกับฝาหลัง

โดยกล้องที่วางในกรอบโมดูลทั้ง 3 เลนส์ ประกอบไปด้วย

กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล + Ultra Wide Angle 8 ล้านพิกเซล + Super Macro 2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED

"ทั้งหมดนี้ทำให้ภาพรวมของการออกแบบ vivo​ V23 5G ออกมาสวยงามน่าหลงไหล พร้อมด้วยลูกเล่นสะดุดตาน่าค้นหากับฝาหลัง Color Changing Glass ที่มองอย่างไรก็ไม่มีวันเบื่อ"

หน้าจอ​ (Display)

vivo V23 5G มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.44 นิ้ว ชนิด Amoled , ความละเอียด Full HD+ , ให้ความสวยสดใส สมจริง​ พร้อมความลื่นไหลไปกับอัตรา Refresh Rate 90 Hz

บริเวณรอยบาก คือ กล้องหน้าคู่ความละเอียด 50 + 8 ล้านพิกเซล รองรับระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF Front Camera) พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI และ Eye Auto Focus และไฟแฟลช Dual Tone Sportlight สำหรับการถ่ายในที่มืดด้วย

"โดยภาพรวม​ หน้าจอของ​ vivo​ V23 5G​ ให้สีสันที่คมชัด​ สว่างสดใส​ และมีขนาดใหญ่เต็มตา​ ด้วยขอบจอที่ค่อนข้างบาง​ สามารถสู้แสงแดดได้แม้ใช้งานในสภาวะกลางแจ้ง​ บนความละเอียด​ระดับ Full​ HD+"

Software


vivo V23 5G มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ​ Android​ 12 ภายใต้ FunTouch OS​ 12 เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งเป็น​ UI ที่ยังคงมีหน้าตาเรียบง่ายสวยงามและใช้งานไม่ยุ่งยาก โดยหน้าตา Home screen , AppDrawer นั้นจะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างมาก และยังปรับแต่งได้หลากหลาย

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น


Nano Music Player ฟังเพลงสะดวกสบายยิ่งขึ้น รองรับ Spotify และ Joox ได้เพียงคลิกเดียว

อีกทั้งยังรองรับระบบ​ Always​ On​ Display ที่ปรับแต่งได้ยืดหยุ่นหลากหลาย​และทีเด็ดกว่าใครคือ​ Ambient​ Light Effect ที่ปรับแต่งการแสดงผลได้แทบจะทุกส่วนในเครื่อง​ ไม่ว่าจะเป็น เอฟเฟคสำหรับ​สายโทรเข้า, การแจ้งเตือน, ระบบสแกนใบหน้า, ระบบสแกนนิ้วมือ, การชาร์จ, การเสียบ​ USB,​ การปลดล๊อคเครื่อง​

และยังมีฟีเจอร์ iManager สำหรับควบคุมและจัดการทรัพยากรของระบบในเครื่องได้โดยง่าย

รองรับ Dark Mode และ​ โหมดถนอมสายตา เพื่อการใช้งานในสภาวะแสงสว่างน้อย ลดการเมื่อยล้าของดวงตาได้เป็นอย่างดี


Hardware & Performance

vivo V23 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต​ MediaTek​ Dimensity​ 920 แบบ Octa Core​ ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่รองรับ 5G ระดับ 6 นาโนเมตร ที่เน้นประสิทธิภาพการทำงานและประหยัดพลังงาน โดย CPU​ ประกอบด้วย Cortex-A78 ความเร็ว 2.5GHz จำนวน 4 แกน ที่เหลือใช้เป็นตัวประหยัดพลังงาน Cortex-A55 ความเร็ว 2.0​ GHz มาพร้อม GPU Mali-G68MP4 ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ลื่นไหลขึ้น 9% เมื่อเทียบกับ Dimensity 900

อีกทั้งมาพร้อม​ RAM 12 GB​ พร้อมด้วยฟีเจอร์ Extended RAM 2.0 ที่จะซัพพอร์ตหน่วยความจำ RAM ตัวหลัก มอบประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น โดยจะดึงพื้นที่ ROM 256 GB มาจำนวน 4 GB เพื่อใช้เป็นพื้นที่ RAM ให้มากขึ้น ทำให้คุณสามารถสลับการใช้งานระหว่างแอปำด้รวดเร็วและไม่สะดุดมากกว่าที่เคย

ทำให้ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Geekbench ทำคะแนนในโหมด Multi Core ได้ 1853 คะแนน และ Single Core ได้​ 736 คะแนน


Camera​ System

กล้องหน้า​ คือไฮไลค์หลักของ​ vivo​ V23 5G​ เพราะอัดแน่นมาด้วยฟีเจอร์มากมาย

ซึ่ง​ vivo V23 5G พกพาสุดยอดกล้องหน้าคู่ความละเอียด 50 + 8 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับระบบ Eye Auto Focus เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพในทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย หมดปัญหาภาพเบลอ ได้ภาพถ่ายที่คมชัดมากขึ้น

และนอกจากนี้ยังมี

- AI HD Portrait ฟีเจอรที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ภาพเซลฟี่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี AI สุดล้ำ

- Dual Tone Sportlight ไฟสปอร์ตไลท์คู่สำหรับกล้องหน้า เพื่อการเซลฟี่ในที่แสงน้อยอย่างมีคุณภาพคมชัด

- รองรับ​ Eye AutoFocus​ ที่ติดตามดวงตาของผู้ถูกถ่ายพร้อมโฟกัสแบบอัตโนมัติ เป็นลูกเล่นระดับสูง ซึ่งจะทำให้คุณถ่ายภาพได้เสมือนมีตากล้องมีอาชีพถ่าย โดยระบบจะจับโฟกัสไปที่ดวงตาและใบหน้าของผู้ถ่าย ภาพที่ได้จากกล้องหน้าจึง สวย คม อย่างดีเยี่ยม

- Ultra Wide Angle 105° ถ่ายเซลฟี่ให้กว้างสะใจกว่าที่เคย ด้วยมุมที่กว้างเทียบเคียงกล้องหลัง

จากการทดสอบ​ กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ให้คุณภาพรูปถ่ายในระดับที่สูงมาก , มีการปรับแต่ง Beauty Mode ได้หลายระดับ​ เอฟเฟคหลายรูปแบบ ทั้งการปรับผิว , รูปหน้า และ การละลายฉากหลังรูปแบบต่างๆ​

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า Ultra Wide


กล้องหลัง​ ประกอบด้วย

- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล​ , f/1.89

- กล้อง Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล​ , f/2.2 , มุมกว้าง 120 องศา

- กล้อง Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล​ , f/2.4

ภาพรวมการถ่ายภาพด้วยเลนส์หลักนั้น ให้รายละเอียดที่คมชัดสูง​ โดยเฉพาะในโหมด​ ​High Resolution (ความละเอียด​ 64 ล้านพิกเซล)​ และ​ มี​ Dynamic​ ของภาพที่​ดี​ ภายใต้สภาวะกลางวันทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

ตัวอย่างภาพถ่ายเลนส์หลัก


ภาพถ่ายมุมกว้าง

แบบ​ Ultra​ Wide​ 120 องศา​ มีประสิทธิภาพดี​ มีมุมมองที่กว้างพอเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน ไม่มีอาการ​ Distort ของภาพให้เห็น

ตัวอย่างภาพถ่าย​ Ultra Wide


ภาพถ่ายโหมด​บุคคล

ละลายหลังได้เป็นธรรมชาติ​ มีการตัดขอบได้ค่อนข้างเนียนตามาก สามารถปรับระดับเบลอหลังแบบ​ Manual ได้​ และยังสามารถใส่​ Filter ได้หลากหลายรูปแบบ

ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคล​ (Portrait Mode)


ภาพถ่าย Filters Effect


ภาพถ่าย​ Macro

ระยะโฟกัสใกล้สุด​ 4 cm. ใช้งานค่อนข้างง่าย​

ตัวอย่างภาพถ่าย​ Macro

ตัวอย่างภาพถ่าย Night Mode


งานวิดีโอก็แจ่ม ลูกเล่นเพียบ



โดย vivo V23 5G รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

(30 fps สำหรับกล้องหน้า และ 60 fps สำหรับกล้องหลัง)


รวมไปถึงการรองรับระบบกันสั่น Ultra Steabilization


และโหมด Dual View


Gaming

สำหรับประสบการณ์ในการเล่นเกมด้วย​ vivo​ V23 5G​ นั้นทำได้ดี จากการทดสอบด้วย PUBG Mobile นั้นพบว่าสามารถปรับกราฟฟิคเกมส์ได้ในระดับ​ HD​ และ​ เฟรมเรทในระดับ High

และสามารถเล่นได้ต่อเนื่องโดยที่ไม่มีอาการกระตุก พร้อมด้วยการสนับสนุนจากระบบ Ultra - Game Mode ตัวล่าสุด ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้เหมาะสำหรับการเล่นเกมอย่างแท้จริง​

พร้อมด้วยการสนับสนุนจากระบบ Multi - Turbo 3.0 ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้เหมาะสำหรับการเล่นเกมอย่างแท้จริง​ และช่วยให้การเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตลอดไปจนถึงฟังก์ชั่น AI Turbo ที่ช่วยวิเคราะห์ปัญหาของแอพ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ไหลลื่นและดีขึ้น

อีกทั้งยังมี Game Acceleration Engine สำหรับเร่งประสิทธิภาพ , โหมดห้ามรบกวน เพื่อช่วยปฏิเสธสายเรียกเข้า และการแจ้งเตือนอื่นๆไม่ให้รบกวนในระหว่างเล่นเกม , ล็อกความสว่างของหน้าจอ โดยจะปิดใช้งานการปรับความสว่างอัตโนมัติ เพื่อให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ไหลลื่นยิ่งขึ้น , ฟีเจอร์ Picture-in-Picture เพียงแค่ลากสามนิ้วจากหน้าจอลงมา ก็สามารถเปิดแอพอื่นๆหรือแชทกับเพื่อนๆในระหวางเล่นเกมได้


รวมไปถึงลูกเล่นเทพๆอย่าง eSport Mode, 4D Vibration, Game Surround Sound, Ears - customized Sound Effect

การเชื่อมต่อ​ 5G

รองรับ 5G ทั้งเครือข่ายแบบ SA (Standalone) และ NSA (Non-Standalone) และด้วยโมเด็ม 5G ในชิป Dimensity 920 ทำ​ให้​ vivo V23 5G รองรับ 5G dual SIM dual stand และมาพร้อมกับเทคโนโลยี MediaTek 5G UltraSave ที่เข้ามาจัดการการทำงานของโมเด็มตามสภาพแวดล้อมเครือข่ายและคุณภาพการรับส่งข้อมูล​ เพื่อช่วยปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ให้ดีมากยิ่งขึ้น

ระบบรักษาความปลอดภัย

vivo V23 5G รองรับระบบเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ซึ่งทำงานได้รวดเร็ว​ แม่นยำ และสามารถลงทะเบียนได้หลายนิ้ว สแกนติดง่าย​ ปลดล๊อคไว​ รวมไปถึงระบบสแกนใบหน้าด้วยเช่นกัน

แบตเตอรี่

มาพร้อมความจุ 4200 mAh ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดความบางของตัวเครื่อง​ และเพียงพอต่อการใช้งานแบบข้ามวันสบายๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบชาร์จ​ Vivo​ Flash​ Charge​ 3.0 ให้ความเร็ว​ในการชาร์จ​ 44W สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 1 – 65% ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที

ราคาจำหน่าย vivo V23 5G

vivo V23 5G มีตัวเลือกสี Stardust Black และ Sunshine Gold โดยมีราคาอยู่ที่ 17,999 บาท​ สำหรับรุ่น 12GB + 256GB

เริ่มจองได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่​ 20​ มกราคม​ โดยจะได้รับ​ VIP​ Card​ ขยายเวลารับประกันนานถึง​ 2 ปี​, ประกันจอแตก​ 1 ปี​ และ​ V23​ 5G​ Premium Gift (มูลค่า​ 1,899 บาท)​

พร้อมมีสิทธิลุ้นรับ​ vivo​ V23​ 5G​ Win Special Gift (มูลค่า​ 1,999​ บาท)​ จำกัด​ 500 ชุด​ สำหรับ​แฟนๆของ​ วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร​ เท่านั้น​ ประกอบด้วย​ Photo​ Card, Signature Case, DIY Sticker และ​ Griptok

และจะวางจำหน่ายจริงตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม ผ่าน Vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทาง Vivo Official Online Store รวมถึงร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั้ง Lazada , Shopee และ JD Central ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

https://www.vivo.com/th

พิเศษ​ โปรโมชั่นเครือข่าย​ AIS, DTAC และ​ TrueMove H ราคาเริ่มต้นเพียง​ 6,989 บาท

สรุป

vivo V23 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่ถือว่าทำออกมาตอบโจทย์คนรักการเซลฟี่เป็นสำคัญ แต่ยังไม่ลืมรากฐานแห่งความงามของดีไซน์ตัวเครื่อง ที่ยังคงปราณีตในทุกมุมมอง พร้อมด้วยนวัตกรรมอย่าง Color Changing Glass ที่ถือว่าโดดเด่นสะดุดตาเกินใคร ทำให้น่าจับจองเป็นเจ้าของอย่างไม่ต้องลังเลเลยครับ

Article​ By​ : โลกไอทีวันนี้

Comments