#FullReview : POCO X4 Pro 5G สมาร์ทโฟนสายแรงสุดคุ้มยืนหนึ่งรอบด้าน !!!​ ด้วย หน้าจอ Amoled 120 Hz , ขุมพลังชิปเซ็ต Snapdragon 695 , กล้อง 108 ล้านพิกเซล และ แบตเตอรี่ 5000 mAh + 67W Turbo Charge ในราคาเพียง 10,990 บาท !!!!


POCO ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในประเทศไทย​ อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีชื่อรุ่นว่า​ POCO​ X4 Pro 5G ซึ่งถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความน่าสนใจหลายประการ​ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตตัวใหม่จาก Qualcomm อย่าง​ Snapdragon 695 , หน้าจอ Amoled 120 Hz , กล้องหลัง​ 108 ล้านพิกเซล​, แบตเตอรี่​ 5000 mAh ที่มาพร้อมกับมาตราฐานการชาร์จเร็วแบบ 67W​ Turbo​ Charge ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0 - 100% ได้ภายใน 42 นาที

สเปค POCO X4 Pro 5G

หน้าจอ Dot Display ชนิด Amoled ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ พร้อมอัตรา Refresh Rate 120 Hz, Touch Sampling Rate 360 Hz , ความสว่างสูงสุด 1,200 nits, ช่วงสี DCI-P3 100% ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5
CPU : Qualcomm Snapdragon 695
GPU : Adreno 619
RAM : 8 GB ชนิด LPDDR4x
รองรับ Extended RAM
ROM : 256 GB ชนิด UFS 2.2
รองรับ Micro SD Card สูงสุด 1 TB
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย
กล้องหลังหลัก 108 ล้านพิกเซล , f/1.9 , เซนเซอร์ Samsung ISOCELL HM2
เลนส์ Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 118 องศา
เลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล , f/2.4
บันทึกวิดีโอสูงสุด Full HD@30fps
กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล , f/2.4
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power
รองรับพอร์ต IR Blaster
รองรับลำโพงคู่แบบ Stereo + Hi - Res Audio
รองรับช่องหูฟัง 3.5 mm.
รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP53
รองรับ Z - Axis Linear Motor
รองรับ Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz)
รองรับ Bluetooth 5.2 / NFC
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mAh + 67W Pro Fast Charging
ระบบปฎิบัติการ : Android 11 + MIUI 13 For POCO
สี : Laser Blue , POCO Yellow และ Laser Black

Unboxing

บรรจุภัณฑ์ของ POCO X4 Pro 5G ยังคงเอกลักษณ์ด้วยพื้นสีดำ ตัดกับตัวอักษรสีเหลือง บนเนื้อกระดาษแบบด้าน

ภายในกล่องประกอบด้วย

- ตัวเครื่อง POCO X4 Pro 5G × 1 เครื่อง
- เคสใสแบบ TPU × 1 ชิ้น
- สาย USB Type C × 1 เส้น
- 67W Turbo Charge × 1 ตัว
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด × 1 ชิ้น
- เอกสารและคู่มือต่างๆ × 1 ชุด

Display & Design

POCO X4 Pro 5G มาพร้อมกับหน้าจอแบบ DotDisplay ชนิด AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5 มีอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120 Hz และ อัตรา Contrast Ratio 4,500,000 : 1

ทำให้หน้าจอค่อนข้างสวยมากครับ ความสว่างสูงสุดถึง 1,200 nits การแสดงผลในสภาวะกลางแจ้งคมชัด จัดว่าดีเยี่ยม สีสันของหน้าจอก็สดใส

ที่สำคัญคือหน้าจอ DotDisplay นั้นมีรูเจาะตรงกลางที่ขนาดเล็กมาก ซึ่งน่าจะเป็นค่ายที่ทำได้เล็กสุดแล้ว จึงทำให้เกิดการรบกวนน้อยมาก และแสดงผลได้อย่างเต็มตา

รองรับระบบ Always On Display ที่ให้การปรับแต่งได้ค่อนข้างอิสระ , Dark Mode และ Reading Mode 3.0

ด้านหลังมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (Triple Rear Camera) วางเรียงในโมดูลทรงสี่เหลี่ยมแบบขนาดใหญ่วางเป็นแนวยาวทั้งแถบ สร้างความสวยงามและดูพรี่เมี่ยมมากยิ่งขึ้น พร้อมฝาหลังแบบเคลือบผิวมันวาว ในสี Laser Black ด้วยเส้นสายตัดสะท้อนยามกระทบแสง เป็นอีกหนึ่งความใส่ใจด้านการออกแบบครับ

ขอบบนเป็นที่อยู่ของช่องลำโพงสนทนา , ลำโพง Speaker , พอร์ต IR Blaster และ ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน อีกทั้งยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม.

ขอบด้านขวามี ปุ่มเพิ่ม/ลด ระดับเสียง และ ปุ่ม Power ซึ่งสามารถใช้งานเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ได้ อีกทั้งยังมีการออกแบบทรงปุ่มใหม่ ให้ปุ่มมีความเล็กเพรียวสอดรับกับตัวเครื่องที่บางเพียง 8.12 มม. แต่ยังคงสแกนได้รวดเร็วและแม่นยำเช่นเคย

ขอบล่างมี ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot ที่สามารถเลือกใส่ Micro SD Card ในช่องซิม 2 ได้ , ไมโครโฟนสนทนา , พอร์ต USB Type - C และ ลำโพง Speaker ตามลำดับ

ทำให้โดยภาพรวมแล้วการออกแบบและวัสดุประกอบตัวเครื่องของ POCO X4 Pro 5G นั้นยังคงรักษามาตราฐานและเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้เป็นอย่างดี ด้วยงานประกอบที่แน่นหนา แข็งแรง ถือจับกระชับมือ รวมไปถึงหน้าจอ Amoled ที่มีความสวยงามและลื่นไหลมากขึ้นด้วย

Performance

POCO X4 Pro 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต​ Qualcomm Snapdragon 695 แบบ Octa Core ที่ถือว่าเป็นชิปเซ็ตระดับกลางรุ่นใหม่ล่าสุด ณ เวลานี้ ใช้กระบวนการผลิตขนาด 6 นาโนเมตร โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 15% และรันกราฟิกเร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 690

ภายในประกอบด้วย ซีพียูแบบ Octa Core ประกอบด้วย 2x 2.2 GHz – Kryo 660 Gold (Cortex-A78) และ 6x 1.7 GHz – Kryo 660 Silver (Cortex-A55) ส่วน GPU ใช้ Adreno 619  และ มีหน่วยประมวลผล AI เป็น Hexagon 686


โดยรุ่นที่นำมาทดสอบนี้เป็นรุ่น RAM 8 GB/ROM 128 GB พร้อมรองรับ Memory Extension 2 GB (นำพื้นที่ ROM มาเพิ่ม RAM) และรองรับ Micro SD Card สูงสุด 1 TB (แต่รุ่นขายจริงจะเป็น RAM 8 GB/ROM 256 GB และมี Memory extension 3 GB)

ทำงานภายใต้ระบบปฎิบัติการ Android 11 และ MIUI 13 For POCO ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะมีเทคโนโลยีที่ทำให้ระบบเรียนรู้และจัดสรรค์ทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ตลอดเวลา​ อีกทั้งยังมีลูกเล่นในการปรับแต่งใหม่ๆ เช่น Control Center , Smart Devices และการปรับแต่งอีกมากมาย

MIUI 13 For POCO มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงฟังก์ชั่นหลัก โดยมีความลื่นไหลโดยรวมเพิ่มขึ้น 52%  บริษัทได้ปรับปรุง Focused Algorithms, Atomized Memory และ Liquid Storage ที่พัฒนาขึ้นเอง และระบบใหม่นี้เน้นที่การปรับความสามารถในการประมวลผลสำหรับแอปหลักระหว่างการใช้งานที่หนักหน่วง ป้องกันและลดการเสื่อมสภาพของความสามารถในการอ่าน-เขียนผ่าน Atomized Memory และ Liquid Storage technology 5% ในช่วง 36 เดือน ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้นานยิ่งขึ้น

โดยมีจุดเด่นที่ AppDrawer อันเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถจัดหมวดหมู่แอปพลิเคชั่นตามประเภทได้ ทำให้สะดวกและรวดเร็วต่อการค้นหาแอป

ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพพลิเคชั่น GeekBence 5.0 ได้ผลทดสอบ Single Core ได้ 687 คะแนน ส่วน Multi Core ได้  2032 คะแนน

ซึ่งตัวเลขรุ่นอาจทำให้เราสับสน แต่โดยพื้นฐานแล้ว​ ประสิทธิภาพของ Snapdragon 695 ​จะอยู่ใกล้เคียงกับ​ชิป Snapdragon 845 และ​ น้อยกว่า​ Snapdragon​ 855 อยู่เล็กน้อย​ จึงจัดว่าเป็นตัวโหดเอาเรื่อง​ทีเดียว

Gaming

มี Game Turbo 4.0 สำหรับช่วยจัดระบบระเบียบทรัพยากรภายในตัวเครื่องให้มีประสิทธิภาพดีที่สุดยามคุณอยู่ในโลกของเกมส์ และช่วยปิดการแจ้งเตือนต่างๆที่ไม่สำคัญ เพื่อป้องกันการรบกวน 

รวมไปถึงการเปิดแอปแบบ Floating Windows เพื่อทำงานและเล่นเกมไปพร้อมๆกันได้

และ POCO​ X​4 Pro 5G มาพร้อมด้วย "ระบบระบายความร้อน quadruple cooling system" ซึ่งประกอบด้วย VC (Vapor Chamber) กราไฟท์เจลนำความร้อน​ และ​ฟอยล์ทองแดง​ เพื่อให้มีพื้นที่กระจายความร้อนใหญ่มากถึง 16370 มม.²

โดยทดสอบด้วยเกมส์ PUBG Mobile สามารถเปิดกราฟิคได้สูงสุดระดับ HD เปิด Frame rate ที่ระดับ High ได้ โดยภาพรวมสามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นไหล ไม่มีปัญหาครับ

ระบบรักษาความปลอดภัย


มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่ยังคงมีประสิทธิภาพให้การทำงานได้รวดเร็วมาก และสามารถใช้ระบบสแกนใบหน้าแบบ AI Face Unlock ได้เช่นเคย

Camera

สำหรับระบบกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 108 ล้านพิกเซล (f/1.9) เซนเซอร์ Samsung HM2 , กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ให้มุมกว้าง 118 องศา รวมถึง กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล

กล้องหลัก มีความคมชัดสูง ด้วยเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1/1.52 นิ้ว ทำให้รับแสงภายนอกได้ดี ปรับจูนสีได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ทำให้เฉดสีสดใส โดยที่โหมด auto จะใช้หลักการรวมพิกเซลแบบ 9 in 1 Pixel binning ทำให้ได้ภาพความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประมวลผลได้ไวขึ้น แต่ก็มีโหมด 108 ล้านพิกเซล แยกมาให้สำหรับการถ่ายที่ความละเอียดสูงมาก

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ​ Ultra​ Wide​ 118 องศา มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี​ มีมุมมองที่กว้างพอเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน มีการแก้ไข​ Distort ของภาพให้ ซึ่งทำออกมาได้ยอดเยี่ยม

โหมด Macro ให้รายละเอียดที่ดีครบถ้วน ในระยะโฟกัส 4 ซม.

การถ่ายวิดีโอรองรับที่ความละเอียดสูงสุด 1080p @ 30fps

ส่วนกล้องหน้า มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มีความสามารถในการถ่าย 1080p @ 30fps เช่นกัน พร้อมระบบ AI Beauty และ HDR สำหรับปรับแต่งโทนภาพให้สวยงาม รวมถึงฟิลเตอร์ต่างๆที่มีให้เลือกเพียบ

ตัวอย่างภาพถ่าย

กล้องหลัก


โหมด Ultra Wide

โหมด Macro

Night Mode

ระบบเสียง

POCO X4 Pro 5G ใส่ลำโพงคู่ Stereo มาให้ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos โดยมีมิติเสียงที่ค่อนข้างดี มีความดังชัดเจน เปิดจนสุดแล้วเสียงไม่แตก มีโทนเสียงในย่าน Bass บางๆ แต่ออกไปทางเสียงกลางเยอะ ฟังเเล้วค่อนข้างละมุนครับ

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมการสนับสนุนการชาร์จเร็ว 67W แบบ Turbo Charge ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มในเวลาราวๆ 40 นาที ที่สำคัญคือหัวชาร์จ 67W แถมมาให้ในกล่องไม่ต้องไปหาซื้อแยก อีกทั้งยังรองรับมาตราฐาน USB PD (Power Delivery) และ Qualcomm QC (Quick Charge) ด้วย

ราคาจำหน่าย

POCO X4 Pro 5G มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สี Laser Black สี Laser Blue และสี POCO Yellow ในขนาดความจุ 8GB+256GB โดยจะวางจำหน่ายผ่านทาง JD Central เท่านั้น ในราคา 10,990 บาท (ราคาพิเศษ 8,999 บาท หมดโปรโมชั่นไปเมื่อวันที่ 3 มีนาคม)

สรุป

POCO X4 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของแบรนด์ที่มอบประสบการณ์ระดับเรือธง แต่มาในราคาคุ้มค่าสำหรับคนรุ่นใหม่ที่หลงไหลในเทคโนโลยีที่ต้องการอุปกรณ์ที่สามารถรองรับการใช้งานหนักได้ในทุกๆวัน ด้วยคุณสมบัติล้ำสมัย และยังมอบประสิทธิภาพระดับไฮเอนด์รอบด้านสำหรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมและการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ด้วยหน้าจอ Amoled 120 Hz ที่สวยงามและลื่นไหล , ชิปเซ็ต Snapdragon 695 รุ่นใหม่ แรงมากกว่าที่เคย , กล้องหลัง 108 ล้านพิกเซล โปรเกรด คมชัดทุกสถานการณ์ และ แบตเตอรี่ 5000 mAh พร้อม 67W Turbo Charge ในค่าตัวเพียง 10,990 บาท เท่านั้น ถือว่าคุ้มค่าจริงๆครับ

Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments