FullReview : HUAWEI MateView SE มอนิเตอร์ขนาด 23.8 นิ้ว ขอบบาง ดีไซน์เรียบหรู และ HUAWEI AX3 Pro Wi-Fi 6 Plus Router เติมเต็มทุกการทำงานร่วมกับ HUAWEI Matebook D16 ในกลายเป็นหนึ่งเดียว !!!!

หลังจากที่วันก่อนทางเราได้รีวิว HUAWEI Matebook D16 กันไปแล้ว (รับชมได้ที่นี่)

ในวันนี้เราจะมารีวิวอุปกรณ์เสริมที่จะทำให้ชีวิตการทำงานของคุณราบรื่นแบบไร้รอยต่อ ตามคอนเซปของ HUAWEI EcoSystem โดยจะขอเริ่มต้นที่ HUAWEI MateView SE มอนิเตอร์ขนาด 23.8 นิ้ว ดีไซน์เรียบหรู ราคาไม่แรงกันก่อนครับ

สเปค HUAWEI MateView SE

ประเภทหน้าจอ : IPS
ขนาด : 23.8 นิ้ว
ความละเอียด : Full HD (1920×1080 พิกเซล)
อัตราส่วน : 16:9
Refresh rate : 75 Hz
ความสว่างสูงสุด : 250 nits
มุมมองกว้าง (FOV) 178º

พอร์ตการเชื่อมต่อ ประกอบด้วย

HDMI port × 1
DP port × 1
Charging port × 1

ขนาดตัวเครื่อง : 538.5 x 413 x 174 มม.
น้ำหนัก : ~3.3 กก.

Design & Display

HUAWEI MateView SE เป็นมอนิเตอร์ตั้งโต๊ะขนาด 23.8 นิ้ว รองรับการแสดงผล Refresh rate สูงสุด 75 Hz , ขอบเขตสี 16.7 พันล้านสี, P3 Color Gamut 90% , sRGB 100% และ ค่าเดลต้าอี (Delta E) น้อยกว่า 2

กระจกหน้าจอเป็นแบบ Anti-Glare ผิวด้านสำหรับลดแสงสะท้อน โดยที่ขอบหน้าจอมีความบางมาก

ส่วนขอบล่างจะมีโลโก้ HUAWEI พร้อมปุ่ม Power แบบ Joy Stick 4  ทิศทาง สำหรับควบคุมเมนูการตั้งค่าหน้าจอ

ด้านหลังใช้วัสดุพลาสติกพื้นผิวด้านสีดำ พร้อมตรา HUAWEI ขนาดใหญ่ โดยที่ตรงกลางมีขาตั้งจอยึดติดอยู่ 

ซึ่งสามารถปรับระดับมุมจอแสดงผลได้แบบ Tilt Adjustment ได้ 2 รูปแบบ คือ มุมเงย 3 องศา และ มุมกดหน้าจอลงได้ 18 องศา แต่จะไม่สามารถปรับระดับความสูงได้

ถัดลงมาเป็นพื้นที่สำหรับเสียบพอร์ตการเชื่อมต่อทั้งหมด 3 พอร์ต ประกอบด้วย Charging Port , HDMI และ Display Port

ในส่วนของการแสดงผลต้องบอกว่า HUAWEI MateView SE ทำออกมาได้ดีมาก ด้วยมาตราฐานหน้าจอที่ให้ค่าความสว่างและสีสันลงตัว บนความละเอียด Full HD และ อัตราส่วนการแสดงผลแบบ 16 : 9 สามารถรับชมคอนเท้นต์ความบันเทิงได้อย่างลื่นไหล และ ค่อนข้างสบายตา

มีมุมมองกว้างถึง 178 องศา มองจากมุมไหนก็เห็นชัดเจน

อัตรา Refresh Rate สูงสุด 75 Hz ดังนั้นการแสดงผลทั่วไปในระดับ 60 Hz จึงไม่ใช่ปัญา ลื่นไหลสบายๆ อีกทั้งยังรองรับ AMD Freesync อีกด้วย

นอกนี้ตัวมอนิเตอร์ยังผ่านการรับรองจาก TUV Rheinland Low Blue Light และ Flicker สำหรับลดความเมื่อยล้าของดวงตา และมีโหมดการแสดงผลให้ปรับหลายแบบ ประกอบด้วย

P3 Color
sRGB Color
HDR Color
Game
eBook
Custom

โดยโหมดที่โดดเด่นเป็นไฮไลท์คือ โหมด eBook ที่สามารถปรับสีหน้าจอให้แสดงผลเป็นขาว-ดำ เพื่อความสบายตาในการอ่าน พร้อมลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายลงอีก 18% ด้วย

ส่วนการเชื่อมต่อกับ HUAWEI Matebook D16 สามารถทำได้ง่ายๆผ่านพอร์ต HDMI ครับ

สรุป

HUAWEI MateView SE เป็นหน้าจอมอนิเตอร์ในกลุ่มราคาไม่แรงมาก แต่ยังคงมาพร้อมคุณสมบัติแบบจัดเต็ม ครอบคลุมทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยดีไซน์สวยหรู และ เรียบง่าย เหมาะสำหรับทุกสาย ไม่ว่าจะงานหรือการเอนเตอร์เทนต์ครับ


HUAWEI AX3 Pro Wi-Fi 6 Plus Router

ถัดมาคือคิวของ HUAWEI AX3 Pro Wi-Fi 6 Plus Router ที่พร้อมจะเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงให้กับคุณแบบง่ายๆด้วย HUAWEI Super Device

สเปค  HUAWEI AX3 Pro Wi-Fi 6 Plus Router

Wi-Fi Transmission Standard
IEEE 802.11b/g/n/ax 2 x 2 MIMO, IEEE 802.11a/n/ac/ax 2 x 2 MU-MIMO

Wireless Transmission Rate
2.4 GHz: 574 Mbps (theoretical)

5 GHz: 2402 Mbps (theoretical)

Total theoretical negotiated rate: 2976 Mbps

Wireless Frequency Band
2.4 GHz & 5 GHz (supports prioritize 5 GHz)

หน่วยความจำ : 256 MB RAM + 128 MB ROM

พอร์ต : 10/100/1000 Mbps auto-negotiation Ethernet port × 4

ปุ่ม HUAWEI H Button สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในระบบ HarmonyOS และ WPS Wireless Devices

รองรับ NFC OneTouch Comnect

Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย

HUAWEI WiFi AX3 Pro × 1
Power Adapter × 1
Quick Start Guide × 1
Warranty Card × 1
Ethernet Cable × 1

Design

HUAWEI WIFI AX3 Pro จะยังคงมาพร้อมดีไซน์เหมือน AX3 Dual / Quad Core ด้วยตัวเครื่องสีดำผิวด้าน รูปทรงมาแบบสี่เหลี่ยม

ด้านบนตัวเครื่อง HUAWEI WIFI AX3 จะมีปุ่ม "H" ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ WPS และ การเชื่อม Router แบบ Mesh

ที่มุมขวามี NFC Area สำหรับผู้ใช้งาน Android ที่ตัวเครื่องมีระบบ NFC เพื่อแตะและทำการเชื่อมต่อกับ Wireless Network ได้แบบง่ายๆ

เสาอากาศที่ติดตั้งมา 4 เสา บริเวณท้ายตัวเครื่อง ไม่สามารถถอดออกได้ อีกทั้งยังปรับมุมระหว่างการพับจนถึงกางออกสุดได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

บริเวณด้านหน้ามีไฟแสดงสถานะดวงเดียว โดยหากเครือข่ายใช้งานได้จะเป็นสีเขียว และ หากเครือข่ายมีปัญหาจะเป็นสีแดง 

ด้านหลังจะมีพอร์ต 10/100/1000 Mbps auto-negotiation Ethernet port จำนวน 4 พอร์ต , Power Port และ ปุ่ม Reset

การตั้งค่า

ในการตั้งค่าครั้งแรก หากคุณใช้สมาร์ทโฟน HUAWEI หรือสมาร์ทโฟนใดๆที่รองรับ NFC ในตัว สามารถนำไปวางที่บริเวณ NFC Arena เพื่อทำการเชื่อมต่อกับ Router จากนั้นไปที่เบราเซอร์แล้วเข้า IP : 192.168.3.1 

จะเข้าสู่หน้า Wizard สำหรับตั้งค่าเราเตอร์

โดยในตัวเลือกสำหรับการตั้งค่าครั้งแรก จะมีให้เลือกระหว่าง ติดตั้งแบบเป็น New Router หรือ เป็นแบบ Extend Mode สำหรับขยายสัญญาณ (ในรีวิวนี้จะเลือกติดตั้งเป็นแบบ Extend Mode)

หลังจากเราเลือกโหมดแล้ว ก็ให้เลือกว่าจะขยายแบบใช้สาย LAN หรือ ใช้ Wireless จากนั้นก็เลือกเครือข่ายไวไฟหลัก ที่เราต้องการจะขยายสัญญาณ จากนั้นก็เพียงอึดใจก็เป็นอันเสร็จสิ้น

หลังจากนั้นหากต้องการตั้งค่าขั้นสูง จะมีแท๊บทั้งหมด 5 แท๊บ ประกอบด้วย

Home
Connect to Internet
My Wi-Fi
Manage Device
More Function

โดยในหน้า Home จะแสดง Network Map ของระบบที่เราตั้งค่าไว้ให้เห็นกันพร้อมข้อมูลเบื้องต้น และ ยังสามารถสั่ง restart ตัว router ผ่านหน้าเมนูนี้ได้ด้วย

ในส่วนของ More Funtion จะเป็นการตั้งค่าขั้นสูง เช่น VPN , Firewall , Bandwidth เป็นต้น

ความแรงของสัญญาณ

ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมมากครับ เพราะบ้านแอดมีปัญหาในเรื่องที่ตัว Router หลักนั้นอยู่ชั้น 2 และบ้านชั้นแรกมีหลายห้อง ทำให้พบปัญหาสัญญาณกระจายไม่ทั่วถึง เคยลอง repeater หลายตัวแล้วก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ 

แต่พอเปลี่ยนมาใช้ AX3 Pro ชีวิตดีขึ้นทันตา ขยายสัญญาณได้มาเต็มๆครับ ใช้กับการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัว ทั้ง สมาร์ททีวี , โน๊ตบุ๊ค , สมาร์ทโฟน ประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้นั้น ถือว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานในยุคนี้ได้อย่างสบายๆ ที่การทดสอบความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 324 Mbps อัพโหลดสูงสุด 337 Mbps 

สรุป

HUAWEI AX3 Pro Wi-Fi 6 Plus Router สามารถเป็นส่วนเสริมให้กับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานบนอินเตอร์เน็ตไร้สายได้เป็นอย่างดี มีความแรงสัญญาณที่สามารถทะลุทะลวงได้ประทับใจมาก ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งจากแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายชั้นนำของโลก ที่มีการออกแบบการใช้งานได้อย่างครบถ้วน

ราคาจำหน่าย

HUAWEI MateView SE ราคาพิเศษ 4,790 บาท จากราคาปกติ 4,990 บาท และเราเตอร์ HUAWEI WiFi AX3 Pro ในราคา 2,590 บาท พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ เติมเต็มอีโคซิสเต็มเพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมแบบครบวงจร โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าที่เปิดตัวภายในงาน HUAWEI APAC Smart Office Launch 2022 ได้ที่นี่  

Article By : โลกไอทีวันนี้ 

Comments