iPhone SE (1st Gen) จากปี 2016 อายุจะขึ้นปีที่ 7 แม้ไม่ได้ไปต่อกับ iOS 16 แต่ก็ยังได้รับอัปเดตย่อยเรื่อยๆ ล่าสุดกับ iOS 15.7.2 ขนาดไฟล์ 4.2 GB !!!! แล้วทำไม Android ถึง อัปเดตยาวๆแบบนี้ไม่ได้ โพสนี้มีคําตอบ !!!!
ไม่ได้หยิบมาใช้นานมาก ล่าสุดเปิดเครื่องมาเจออัปเดต ก็ตกใจเพราะนึกว่าหมดสิทธิอัปเดตไปแล้ว แถมอัปแล้วก็ไม่หน่วง ต้องยอมรับเลยว่านี่คือจุดเด่นจุดแข็งมากของ Apple ในเรื่องการ Lifetime Update Software ในขณะที่ฝั่ง Android ตอนนี้การันตีอัปเดตเวอร์ชั่นระบบปฎิบัติการสูงสุดที่ 4 ปี (4 Major Update) จากทาง Samsung ซึ่งก็ถือว่าเยอะมากที่สุดในฝั่ง Android แล้ว
ในขณะที่ iPhone SE รุ่นแรกเปิดตัวพร้อม iOS 9 ผ่านมา 6 Major Update แล้ว
โดยยุคนี้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคหลายๆประเทศ เริ่มมีการบังคับใช้ในเรื่องของระยะการอัพเดทของอุปกรณ์แล้วว่า ไม่ใช่แค่ 2 - 3 ปี อาจต้องมี 5 ปี ขึ้นไป (เยอรมันกำลังเสนอบังคับใช้ 7 ปี) เพราะบรรดาผู้ใช้สมาร์ทโฟนฝั่งตะวันตก มักจะไม่ค่อยเปลี่ยนรุ่นบ่อยๆถี่ๆเหมือนฝั่งเอเชียรึแบบบ้านเรา บางคนใช้ก็ยาวไปเลย 4 - 5 ปี ค่อยเปลี่ยนที ดังนั้นจึงเป็นเหตุที่ผู้ใช้จึงต้องการ Support ด้านซอฟแวร์ที่ยาวนานขึ้นครับ
แต่ฝั่ง Android เองก็มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้การอัปเดตนั้นทำได้ลำบาก เช่น การเป็นระบบเปิดแบบ Android ที่มีผลิตภัณฑ์และฮาร์ดแวร์ที่หลากหลายกว่ามาก ต้องมีการ Optimize ให้ระบบเข้ากับฮาร์ดแวร์ยากกว่าระบบปิดแบบ Apple ยิ่งรุ่นเก่าลงก็ยิ่งทำยากขึ้น พูดง่ายๆคือ สมาร์ทโฟน 100 รุ่น ก็ สเปค 100 แบบ แถมรุ่นถูกสุดกับแพงสุด รุ่นเก่าหลายปีกับรุ่นใหม่ ก็มีระดับฮาร์ดแวร์ที่แตกต่างกันมากเกินไป บวกกับกระบวนการในการได้มาซึ่งซอฟแวร์อัปเดตนั้นยุ่งยากกว่าฝั่ง Apple เยอะครับ ต้องมีการทำ HAL (Hardware Abstraction Layer) ซึ่งเป็นการปรับจูนชิปแต่ละรุ่นของแต่ละแบรนด์ ให้สามารถทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์ Android เวอร์ชันใหม่ได้ (นี่แค่ขั้นตอนเดียวนะ มีอีกเยอะ)
ซึ่งจุดนี้ Apple ไม่ต้องกังวล เพราะความแตกต่างด้านฮาร์ดแวร์ของผลิตภัณฑ์ไม่สูงเท่า Android และ ชิปเซ็ตก็ใช้ของที่ตัวเองออกแบบเอง ดังนั้นก็ทำ HAL ได้เอง ไม่ต้องไปรอ Process จากผู้ผลิตภายนอกให้ชักช้า
แต่คาดว่าในอนาคตฝั่ง Android ก็คงมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนนี้หลายค่ายอย่างเช่น Samsung และ Xiaomi ก็ขยับตัวกันแล้ว ให้อัปเดตที่ยาวขึ้นเร็วขึ้น ที่เหลือก็คงค่อยๆทยอยตามๆกันมาครับ อย่าง OPPO ปีก่อนถึงตอนนี้ก็อัปเดต Android 13 ให้หลายๆรุ่นและเร็วขึ้นด้วยครับ
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment