FullReview : POCO X5 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สำหรับผู้ใช้ Gen-Z !!! ด้วย หน้าจอ Amoled 120 Hz , ชิปเซ็ต Snapdragon 695 , กล้อง 48 ล้านพิกเซล และ แบตเตอรี่ 5000 mAh + 33W Fast Charging ในราคาเพียง 10,990 บาท !!!! พร้อมโปรโมชันพิเศษ 9,299 บาท !!!!
POCO ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีชื่อรุ่นว่า POCO X5 5G ซึ่งถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความน่าสนใจหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Snapdragon 695 พร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในสูงถึง 256 GB , หน้าจอ Amoled 120 Hz , กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ 5000 mAh ที่มาพร้อมกับมาตราฐานการชาร์จเร็วแบบ 33W Fast Charging ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 0 - 100% ได้ภายใน 68 นาที
สเปค POCO X5 5G
หน้าจอ Dot Display ชนิด Amoled ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ พร้อมอัตรา Refresh Rate 120 Hz, Touch Sampling Rate 240 Hz , ความสว่างสูงสุด 1,200 nits, ช่วงสี DCI-P3 100% ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3
CPU : Qualcomm Snapdragon 695
GPU : Adreno 619
RAM : 8 GB ชนิด LPDDR4x
รองรับ Extended RAM
ROM : 256 GB ชนิด UFS 2.2
รองรับ Micro SD Card สูงสุด 1 TB
รองรับ 2 Sim Cards
รองรับ 5G Dual Mode
กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย
กล้องหลังหลัก 48 ล้านพิกเซล , f/1.8
เลนส์ Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 118 องศา
เลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล , f/2.4
บันทึกวิดีโอสูงสุด Full HD@30fps
กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล , f/2.45
รองรับระบบสแกนใบหน้า
รองรับระบบสแกนนิ้วมือที่ปุ่ม Power
รองรับพอร์ต IR Blaster
รองรับลำโพงคู่แบบ Stereo + Hi - Res Audio
รองรับช่องหูฟัง 3.5 mm.
รองรับการกันน้ำกันฝุ่นมาตราฐาน IP53
รองรับ Z - Axis Linear Motor
รองรับ Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz)
รองรับ Bluetooth 5.2 / NFC
พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
แบตเตอรี่ความจุ : 5000 mAh + 33W Fast Charging
ระบบปฎิบัติการ : Android 12 + MIUI 13 For POCO
หนา : 7.98 mm.
น้ำหนัก : 189 กรัม
Unboxing
บรรจุภัณฑ์ของ POCO X5 5G ยังคงเอกลักษณ์ด้วยพื้นสีดำ ตัดกับตัวอักษรสีเหลือง บนเนื้อกระดาษแบบด้าน
ภายในกล่องประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง POCO X5 5G × 1 เครื่อง
- เคสใสแบบ TPU × 1 ชิ้น
- สาย USB Type C × 1 เส้น
- 67W Turbo Charge × 1 ตัว
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด × 1 ชิ้น
- เอกสารและคู่มือต่างๆ × 1 ชุด
Display & Design
POCO X5 5G มาพร้อมกับหน้าจอแบบ DotDisplay ชนิด AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว , ความละเอียด Full HD+ , ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 3 มีอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120 Hz และ อัตรา Contrast Ratio 4,500,000 : 1
ทำให้หน้าจอค่อนข้างสวยมากครับ ความสว่างสูงสุดถึง 1,200 nits การแสดงผลในสภาวะกลางแจ้งคมชัด จัดว่าดีเยี่ยม สีสันของหน้าจอก็สดใส
ที่สำคัญคือหน้าจอ DotDisplay นั้นมีรูเจาะตรงกลางที่ขนาดเล็ก ซึ่ง Xiaomi น่าจะเป็นแบรนด์ที่ทำได้เล็กสุดแล้ว จึงทำให้เกิดการรบกวนสายตาน้อยมาก และแสดงผลได้อย่างเต็มตา
รองรับระบบ Always On Display ที่ให้การปรับแต่งได้ค่อนข้างอิสระ , Dark Mode และ Reading Mode 3.0
ด้านหลังมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว (Triple Rear Camera) วางเรียงในโมดูลทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง พร้อมแถบคาดดำสกรีนโลโก้ POCO ยืดออกไปด้านข้าง สร้างความสวยงามและดูพรี่เมี่ยมมากยิ่งขึ้น พร้อมฝาหลังแบบเคลือบผิวมันวาว ในสี Astral Black
ขอบบนเป็นที่อยู่ของช่องลำโพงสนทนา , ลำโพง Speaker , พอร์ต IR Blaster และ ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน อีกทั้งยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม.ด้วย
ขอบเครื่องด้านขวามี ปุ่มเพิ่ม/ลด ระดับเสียง และ ปุ่ม Power ซึ่งสามารถใช้งานเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ได้ อีกทั้งยังมีการออกแบบทรงปุ่มใหม่ ให้ปุ่มมีความเล็กเพรียวสอดรับกับตัวเครื่องที่บางเพียง 7.98 มม. แต่ยังคงสแกนได้รวดเร็วและแม่นยำเช่นเคย
ขอบเครื่องด้านซ้ายมี ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot ที่สามารถเลือกใส่ Micro SD Card ในช่องซิม 2 ได้
ขอบด้านล่างมี ไมโครโฟนสนทนา , พอร์ต USB Type - C และ ลำโพง Speaker ตามลำดับ
ทำให้โดยภาพรวมแล้วการออกแบบและวัสดุประกอบตัวเครื่องของ POCO X5 5G นั้นยังคงรักษามาตราฐานและเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้เป็นอย่างดี ด้วยงานประกอบที่แน่นหนา แข็งแรง ถือจับกระชับมือ รวมไปถึงรอบนี้ตัวเครื่องก็มีความบางลงเมื่อเทียบจากรุ่นก่อนด้วย
Performance
POCO X5 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 แบบ Octa Core ที่ถือว่าเป็นชิปเซ็ตระดับกลางรุ่นยอดนิยม ณ เวลานี้ ใช้กระบวนการผลิตขนาด 6 นาโนเมตร โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 15% และรันกราฟิกเร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 690
ภายในประกอบด้วย ซีพียูแบบ Octa Core ประกอบด้วย 2x 2.2 GHz – Kryo 660 Gold (Cortex-A78) และ 6x 1.7 GHz – Kryo 660 Silver (Cortex-A55) ส่วน GPU ใช้ Adreno 619 และ มีหน่วยประมวลผล AI เป็น Hexagon 686
โดยรุ่นที่นำมาทดสอบนี้เป็นรุ่น RAM 8 GB/ROM 256 GB พร้อมรองรับ Memory Extension สูงสุด 5 GB (นำพื้นที่ ROM มาเพิ่ม RAM) และรองรับ Micro SD Card สูงสุด 1 TB
ทำงานภายใต้ระบบปฎิบัติการ Android 12 และ MIUI 13 For POCO ซึ่งจะมีเทคโนโลยีที่ทำให้ระบบเรียนรู้และจัดสรรค์ทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้เครื่องสามารถทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีลูกเล่นในการปรับแต่งใหม่ๆ เช่น Control Center , Smart Devices และการปรับแต่งอีกมากมาย
MIUI 13 For POCO มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงฟังก์ชั่นหลัก โดยมีความลื่นไหลโดยรวมเพิ่มขึ้น 52% บริษัทได้ปรับปรุง Focused Algorithms, Atomized Memory และ Liquid Storage ที่พัฒนาขึ้นเอง และระบบใหม่นี้เน้นที่การปรับความสามารถในการประมวลผลสำหรับแอปหลักระหว่างการใช้งานที่หนักหน่วง ป้องกันและลดการเสื่อมสภาพของความสามารถในการอ่าน-เขียนผ่าน Atomized Memory และ Liquid Storage technology 5% ในช่วง 36 เดือน ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้นานยิ่งขึ้น
โดยมีจุดเด่นที่ AppDrawer อันเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถจัดหมวดหมู่แอปพลิเคชั่นตามประเภทได้ ทำให้สะดวกและรวดเร็วต่อการค้นหาแอป
ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพพลิเคชั่น GeekBence 5.0 ได้ผลทดสอบ
Single Core ได้ 678 คะแนน
Multi Core ได้ 2011 คะแนน
ซึ่งตัวเลขรุ่นอาจทำให้เราสับสน แต่โดยพื้นฐานแล้ว ประสิทธิภาพของ Snapdragon 695 จะอยู่ใกล้เคียงกับชิป Snapdragon 845 และ น้อยกว่า Snapdragon 855 อยู่เล็กน้อย จึงจัดว่าเป็นตัวโหดเอาเรื่องทีเดียว
Gaming
มี Game Turbo 4.0 สำหรับช่วยจัดระบบระเบียบทรัพยากรภายในตัวเครื่องให้มีประสิทธิภาพดีที่สุดยามคุณอยู่ในโลกของเกมส์
โดยทดสอบด้วยเกมส์ PUBG Mobile สามารถเปิดกราฟิคได้สูงสุดระดับ HD เปิด Frame rate ที่ระดับ High ได้ โดยภาพรวมสามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นไหล ไม่มีปัญหาครับ
ระบบรักษาความปลอดภัย
มาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือ ที่ยังคงมีประสิทธิภาพให้การทำงานได้รวดเร็วมาก และสามารถใช้ระบบสแกนใบหน้าแบบ AI Face Unlock ได้เช่นเคย
Camera
สำหรับระบบกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 48 ล้านพิกเซล (f/1.8) , กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ให้มุมกว้าง 118 องศา รวมถึง กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล
กล้องหลัก มีความคมชัด ด้วยความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ให้เฉดสีสดใส โดยที่โหมด auto จะใช้หลักการรวมพิกเซลแบบ 4 in 1 Pixel binning ทำให้ได้ภาพความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประมวลผลได้ไวขึ้น แต่ก็มีโหมด 48 ล้านพิกเซล แยกมาให้สำหรับการถ่ายภาพเต็มความละเอียด นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟิลเตอร์ 12 แบบที่ถูกออกแบบมาให้เข้ากับอารมณ์ของผู้ใช้ POCO X5 5G ด้วย
ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra Wide 118 องศา มีประสิทธิภาพค่อนข้างดี มีมุมมองที่กว้างพอเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วน มีการแก้ไข Distort ของภาพให้ ซึ่งทำออกมาได้ยอดเยี่ยม
โหมด Macro ให้รายละเอียดที่ดีครบถ้วน ในระยะโฟกัส 4 ซม.
การถ่ายวิดีโอรองรับที่ความละเอียดสูงสุด 1080p @ 30fps
ส่วนกล้องหน้า มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีความสามารถในการถ่ายวิดีโอ 1080p @ 30fps เช่นกัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ AI Beauty และ HDR สำหรับปรับแต่งโทนภาพให้สวยงาม
ตัวอย่างภาพถ่าย
กล้องหลัก
กล้อง Ultra Wide
กล้อง Macro
Night Mode
กล้องหน้า
ระบบเสียง
POCO X5 5G มาพร้อมลำโพงคู่ Stereo + ระบบเสียง Dolby Atmos โดยมีมิติเสียงที่ค่อนข้างดี มีความดังชัดเจน เปิดจนสุดแล้วเสียงไม่แตก มีโทนเสียงในย่าน Bass บางๆ แต่ออกไปทางเสียงกลางเยอะ ฟังเเล้วค่อนข้างละมุนหูครับ
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh พร้อมการสนับสนุนการชาร์จเร็ว 33W Fast Charge ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มในเวลา 68 นาที ที่สำคัญคือหัวชาร์จ 33W แถมมาให้ในกล่องไม่ต้องไปหาซื้อแยก อีกทั้งยังรองรับมาตราฐาน USB PD (Power Delivery) และ Qualcomm QC (Quick Charge) ด้วย
ราคาจำหน่าย
POCO X5 5G ขนาดความจุ 8GB+256GB มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Green และ Blue จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อในระหว่างวันที่ 9-15 กุมภาพันธ์ 2566 สามารถรับโปรโมชันพิเศษ 9,299 บาท (จากราคาปกติ 10,990 บาท) เมื่อลูกค้ากดรับคูปองส่วนลดขณะซื้อสินค้าโดยคูปองมีจำนวนจำกัด 400 สิทธิ์ พร้อมรับฟรี หูฟัง earbuds มูลค่า 699 บาท เฉพาะที่ Shopee เท่านั้น
สรุป
POCO X5 5G เป็นสมาร์ทโฟน X Series รุ่นล่าสุดของแบรนด์ที่มอบประสบการณ์ชั้นเยี่ยมมากมาย แต่มาในราคาคุ้มค่าสำหรับคน Gen - Z รุ่นใหม่ที่รักในเทคโนโลยี กับความต้องการอุปกรณ์ที่สามารถรองรับการใช้งานได้ในทุกๆวัน ด้วยคุณสมบัติล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ Amoled 120 Hz ที่สวยงามและลื่นไหล , ชิปเซ็ต Snapdragon 695 , กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล คมชัดทุกสถานการณ์ และ แบตเตอรี่ 5000 mAh พร้อม 33W Fast Charging ในค่าตัวเพียง 10,990 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่าสุดๆครับ
Article By : โลกไอทีวันนี้
Comments
Post a Comment