FullReview : Xiaomi Watch S1 Pro นาฬิกาอัจฉริยะระดับไฮเอนด์รุ่นล่าสุด และ Xiaomi Buds 4 Pro หูฟัง TWS ขั้นเทพ ที่มาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Dimensional Audio แบบสมจริงสุดๆ !!!!


ในปัจจุบันตลาดสมาร์ทวอทช์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และ Xiaomi ในฐานะผู้ผลิตชั้นนำ ได้มีความก้าวหน้าในการพัฒนาสมาร์ทวอทช์มากขึ้นทุกวันๆ โดยมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกระดับ ด้วยตัวเลือกมากมาย และล่าสุดนี้กับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์ที่เปิดตัวไปพร้อมกับสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 13 Series เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน อย่าง Xiaomi Watch S1 Pro


Xiaomi Watch S1 Pro เต็มไปด้วยความสวยงามในแง่ของการออกแบบ ใช้วัสดุเป็นกระจกแซฟไฟร์ ที่มีความแข็งแรงสูงมาก พร้อมคุณสมบัติทางแสงที่ดี ทนต่อการสึกหรอ , ทนต่อการขีดข่วนมากกว่ากระจกทั่วไปถึง 1200 เท่า

นอกจากกระจกหน้าจอแล้ว เฟรมตรงกลางของ Xiaomi Watch S1 Pro ยังทำจากสเตนเลสสตีล 316L ออสเทนนิติก , สายรัดใช้วัสดุยางฟลูออรีนซึ่งเป็นมิตรกับผิวหนังและกันรอยเปื้อนได้ดี

นอกจากคุณภาพแล้ว ข้อกำหนดด้านฮาร์ดแวร์ของ Xiaomi Watch S1 Pro ก็ยังเหนือชั้นอีกด้วย โดยมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียด 480×480 พิกเซล เรียกได้ว่าเป็นนาฬิกาที่มีความละเอียดสูงสุดในตลาด มีค่าความสว่างสูงสุดถึง 600 nits

ในแง่ของระบบตรวจจับสุขภาพ มาพร้อม การวัดอัตราการเต้นของหัวใจในทุกสภาพ , ออกซิเจนในเลือด , การตรวจจับการนอนหลับ , รองรับโหมดกีฬามากกว่า 100 โหมด ครอบคลุมกีฬากลางแจ้งและในร่ม และจับตำแหน่งดาวเทียม GPS 5 ตำแหน่งพร้อมกัน ส่วนที่เหลือจะมีอะไรบ้างลองมาดูกันครับ

Unboxing ภายในประกอบด้วย


ตัวเรือน Xiaomi Watch S1 Pro พร้อมสายยางฟลูออรีน × 1 เส้น
Wireless Charging Pad × 1 ตัว (รองรับเอาต์พุตสูงสุด 5V2A)
สาย USB Type - C × 1 เส้น
คู่มือ × 1 ชุด


สเปคเบื้องต้นของ Xiaomi Watch S1 Pro

หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียด 480×480 พิกเซล , 326 PPI , ความสว่างสูงสุด 600 nits 

รองรับ Bluetooth 5.2 / NFC Payment

รองรับการกันน้ำระดับ 5ATM

เซนเซอร์ 
● PPG heart rate sensor (including SpO2)
3-axis accelerometer
3-axis gyroscope
Geomagnetic sensor
Air-pressure sensor
Ambient light sensor
Capacitive sensor
Temperature sensor
Dual-band multi-system GPS
- BNS, GPS, GLONASS, GLILEO, QZSS

แบตเตอรี่ : 500 mAh

น้ำหนัก : 48.6 กรัม (รวมสาย)


Display & Design


Xiaomi Watch S1 Pro มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 1.47 นิ้ว ความละเอียด 480×480 พิกเซล , 326PPI ประกอบเข้ากับกระจกแซฟไฟร์ที่มีความทนทานต่อการขีดข่วนมากกว่ากระจกทั่วไปถึง 1200 เท่า

เฟรมตัวเรือนของ Xiaomi Watch S1 Pro ใช้สแตนเลส 316L ออสเทนนิติก ชุบสีดำ ทำให้เมื่อคุณได้สวมใส่อยู่ในข้อมือจะรู้สึกได้เลยว่า Xiaomi ใช้ความปราณีตอย่างมากในการออกแบบนาฬิกาเรือนนี้

รองรับการแสดงผลแบบ Always On Display


มีปุ่มกายภาพทางด้านซ้าย พร้อมเม็ดมะยมที่หรูหราและคลาสสิค ในเวลาเดียวกัน วิธีการใช้คือ กดที่เม็ดมะยมด้านบน เพื่อเข้าสู่เมนู และกดค้างเพื่อเรียก Alexa ปุ่มด้านล่างจะเรียกโหมดการออกกำลังกายตามค่าเริ่มต้น โดยสามารถปรับแต่งผ่านแอป "Mi Fitness" บนสมาร์ทโฟนได้

มีช่องซึ่งซ่อนไมโครโฟนและลำโพง โดยสามารถเล่นเพลงและรับสายได้โดยตรงผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth


ส่วนด้านหลังคือตัวเซ็นเซอร์ โดยมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจขนาดใหญ่ตรงกลางใช้วัสดุที่เป็นกระจกคริสตัลแซปไฟร์อย่างหนา พร้อมด้วยเซ็นเซอร์อื่นๆที่ถูกวางโดยรอบ.เพื่อสามารถตรวจสอบสถานะสุขภาพและการออกกำลังกายของผู้ใช้ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ความเร่ง, เซนเซอร์ไจโรสโคป, เซนเซอร์ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ เป็นต้น


ส่วนสายรัดผลิตจากวัสดุยางฟลูออรีนชั้นดี ซึ่งเป็นมิตรกับผิวหนังและกันรอยเปื้อนได้ดี พร้อมรองรับทุกการออกกำลังกายได้แบบไร้กังวล อีกทั้งยังมีตัวยึดสลักในการเปลี่ยนสายแบบง่ายๆมาให้ด้วย


การเชื่อมต่อ


ในการใช้ Xiaomi Watch S1 Pro เป็นครั้งแรก คุณต้องเชื่อมต่อกับแอปโทรศัพท์มือถือ "Mi Fitness" (เดิมชื่อ Mi Wear) เพื่อเปิดใช้งาน ซึ่งการจับคู่อุปกรณ์นั้นง่ายมาก แค่ทำตามที่ตัวแอปบอกไปเรื่อยๆเท่านั้นครับ 


แต่นอกจากนี้ Xiaomi Watch S1 Pro ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบจับคู่ด่วนผ่าน POP UP Windows ซึ่งสามารถรับการแจ้งเตือนข้อความ และ ซิงค์เวลากับนาฬิกาข้อมือได้ในทันที แต่คุณลักษณะ POP UP Windows นี้มีการรองรับในสมาร์ตโฟน Xiaomi บางรุ่นที่มีซอฟต์แวร์อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเท่านั้น

ทีนี้กลับมาที่วิธีการเชื่อมต่อกับ Mi Fitness หลังจากเปิดใช้งานเรียบร้อยแล้ว

เข้าสู่หน้าแรกของนาฬิกา คุณสามารถเลื่อนหน้าจอไปทางซ้ายและขวา โดยจะใช้อินเตอร์เฟซแสดงผลแบบ Widget จาก MIUI Watcg เพื่อแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ สภาพอากาศ , การก้าวเดิน , ออกซิเจนในเลือด และข้อมูลอื่นๆ ซึ่งสวยงามและอ่านค่าได้ง่ายมากๆ และยังสามารถปรับแต่งการเรียง Widgets ผ่าน Mi Fitness ได้อีกด้วย


โดย Xiaomi Watch S1 Pro ผสานเอาการออกแบบ UI ที่ครบวงจรและแอนิเมชั่นที่ปรับแต่งแล้วเข้ามาช่วยเพิ่มความสวยงามของอินเทอร์เฟซและความลื่นไหลของหน้าจอเพื่อมอบประสบการณ์อันดีเยี่ยมให้ผู้ใช้งานขึ้นไปอีกขั้น

ในฐานะที่เป็นสมาร์ทวอทช์ สิ่งที่ขาดไม่ได้มากที่สุดคือหน้าปัด (Watch Face) การจัดการหน้าปัดทำได้ในแอป "Mi Fitness" ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากมายกว่า 100 แบบ


ไม่ว่าผู้ใช้จะต้องการรูปแบบธุรกิจหรือสไตล์กีฬา หรือว่า สายการ์ตูนก็สามารถเลือกรูปแบบที่ถูกใจได้เสมอ


Xiaomi Watch S1 Pro ยังรองรับการติดตั้งแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการจัดการจากแอป “Mi Fitness” ด้วยเช่นกัน 


Xiaomi Watch S1 Pro รองรับการโทรด้วย Bluetooth อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องการหยิบสมาร์ทโฟนออกมาเมื่อมีสายเรียกเข้าระหว่างออกกำลังกาย โดยคุณสามารถรับสายหรือวางสายได้โดยตรงผ่านนาฬิกา หรือสามารถเล่นเพลงผ่านนาฬิกาก็ได้ด้วย

การตรวจจับสุขภาพ


Xiaomi Watch S1 Pro รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด วัดอุณหภูมิผิวหนัง และ การตรวจจับการนอนหลับ แต่จะถูกปิดโดยค่าเริ่มต้น และกำหนดให้ผู้ใช้ต้องเปิดใช้งานด้วยตนเองในแอป "Mi Fitness"  


และหากอยากดูข้อมูลทั้งหมดแบบละเอียด สามารถเข้ามาดูได้ที่แอป Mi Fitness

การแจ้งเตือน


Xiaomi Watch S1 Pro รองรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนทั้งหมด รวมถึง สายเรียกเข้า และรองรับการอ่านข้อความภาษาไทย โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่แอป Mi Fitness ว่าต้องการให้แจ้งเตือนจากแอปใดบ้าง

โหมดการออกกำลังกาย


ในแง่ของกีฬา Xiaomi Watch S1 Pro รองรับโหมดกีฬาแบบเรียลไทม์มากกว่า 100 รายการ ไม่ว่าจะเป็น การจ็อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมการวิ่งกว่า 10 ประเภท ที่ถูกติดตั้งมาในอุปกรณ์เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการออกกำลังกายต่างๆของคุณ และยังรวมไปถึงคอมโบการวิ่งหรือเดินสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลัง หรือการฝึกที่เน้นการเผาผลาญไขมันหรือความทนทาน และแม้แต่การฝึกเป็นระยะๆเพื่อเสริมสร้างสุขภาพของหัวใจและปอด นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ความเร็ว ระยะทาง และติดตามข้อมูลการออกกำลังกาย เช่น ระยะเวลา ความหนัก เส้นทาง และแคลอรีที่เผาผลาญ 


รายการข้อมูลที่รองรับขณะออกกำลัง ได้แก่ เวลาออกกำลังกาย แคลอรี ระยะทางวิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจ และ เวลาพักฟื้น 


Xiaomi Watch S1 Pro ยังรองรับการระบุตำแหน่งพร้อมกันของดาวเทียมหลักห้าระบบ รวมถึง GPS Dual Band , Beidou, GLONASS, GALILEO และ QZSS ช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นกีฬา และความแม่นยำในตำแหน่งวิถีการเคลื่อนไหวของพวกผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี


ระหว่างการออกกำลังกาย สามารถแสดงเวลาออกกำลังกายปัจจุบัน ระยะทาง ก้าว และข้อมูลอื่นๆ แบบเรียลไทม์ และสามารถรับรู้โดยอัตโนมัติว่าผู้ใช้ได้หยุดการออกกำลังกายชั่วคราวหรือไม่ และจะสั่นเตือนผู้ใช้ระหว่างการออกกำลังกายได้


หลังจากออกกำลังกายเสร็จ คุณสามารถดูข้อมูลโดยละเอียดในบันทึกการออกกำลังกาย รวมถึงจังหวะการเต้นของหัวใจระหว่างการออกกำลังกาย ตลอดจนช่วงอัตราการเต้นของหัวใจและข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจในการออกกำลังกายได้ดียิ่งขึ้น 


Xiaomi Watch S1 Pro รองรับการตรวจสอบการนอนหลับ โดยสามารถตรวจจับและแสดงเป็นข้อมูลพื้นฐานได้ โดยคุณสามารถดูระยะเวลาการนอนหลับทั้งหมด ระยะเวลาระหว่างการนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ย และ ออกซิเจนในเลือดได้


หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ในแอป "Mi Fitness" ซึ่งแบ่งการนอนออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ หลับลึก หลับน้อย เคลื่อนไหวตาเร็ว และความตื่นตัว ตลอดจนอัตราการเต้นของหัวใจและข้อมูลออกซิเจนในเลือดในช่วงระยะเวลาการนอนหลับ ทั้งสองแบบสามารถให้การแสดงข้อมูลที่เข้าใจง่ายขึ้น ทำให้ผู้ใช้เข้าใจคร่าวๆว่าต้องปรับปรุงอะไรในการนอนหลับบ้าง 

แบตเตอรี่


ในแง่ของการชาร์จและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ Xiaomi Watch S1 Pro มีแบตเตอรี่ 500 mAh ในระหว่างการทดสอบนี้ เมื่อเปิดฟังก์ชันอัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด และการตรวจจับการนอนหลับ การใช้พลังงานจะอยู่ที่ประมาณ 5%-7% ต่อวัน และคาดว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่จะอยู่ที่ประมาณ 7-10 วัน หลังจากการชาร์จครั้งแรก แน่นอนว่า ถ้าผู้ใช้สามารถปิดฟังก์ชันบางอย่างตามต้องการเพื่อแลกกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานขึ้นได้  นอกจากนี้ Xiaomi Watch S1 Pro ยังมีโหมดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ซึ่งสามารถให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 24 วันเลย และแม้ว่าคุณจะใช้แบตเตอรี่ไปจนใกล้หมด แต่ Watch S1 Pro รองรับระบบชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็กขนาด 10W ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 100% ในเวลาเพียง 85 นาที เท่านั้น

สรุป


Xiaomi Watch S1 Pro ยังคงความยอดเยี่ยม ในแง่ของวัสดุและดีไซน์ ที่สร้างสัมผัสระดับไฮเอนด์ด้วยกระจกแซฟไฟร์ , เฟรมสเตนเลสสตีล และสายซิลิโคนชั้นดี ทำให้สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้มีความพรีเมี่ยมในระดับต้นๆของอุปกรณ์ในกลุ่มเดียวกันอย่างชัดเจน

นอกเหนือจากนี้ยังมีฟังก์ชันมากมาย เช่น การตรวจสอบสุขภาพ การออกกำลังกาย การตรวจสอบการนอนหลับ การตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ การตรวจจับออกซิเจนในเลือด การแจ้งเตือน และฟังก์ชันอื่นๆ ที่มีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น

หน้าจอดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น ด้วยความละเอียดสูง ชนิด AMOLED ขนาด 1.47 นิ้ว มีการทำงานที่ราบรื่นมากกว่าหน้าจอแบบ LCD อีกด้วย

ในฐานะผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์ Xiaomi Xiaomi Watch S1 Pro เรียกได้ว่าครบครันในทุกด้าน หากคุณต้องการสมาร์ทวอทช์ที่มีรูปลักษณ์สวยงาม ระบบตรวจจับสุขภาพชั้นดี และ คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย บอกได้เลยว่าคุ้มสุดๆแล้วครับ


Xiaomi Watch S1 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ตัวเรือนสีเงินมาพร้อมสายหนังสีน้ำตาล (a silver case with a brown leather strap) และตัวเรือนสีดำมาพร้อมสายยางฟลูออโรสีดำ (a black case with a black fluororubber strap) วางจำหน่ายในราคา 9,990 บาทตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ Xiaomi Store ทุกสาขา และตัวแทนวางจำหน่ายทางเป็นทาง รวมถึงช่องทางออนไลน์ LAZADA, Shopee



รีวิว : Xiaomi Buds 4 Pro


Xiaomi Buds 4 Pro หูฟังระดับไฮด์เอ็นด์รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมคุณสมบัติครบถ้วน ทั้ง การสตรีมคุณภาพสูง , ระบบตัดเสียงรบกวน , อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน , เสียงที่มีมิติยิ่งขึ้นกับระบบ Dimensional Audio เรียกได้ว่าในราคานี้ไม่มีใครให้ได้มากเท่า Xiaomi แน่นอน

Unboxing ภายในกล่องประกอบด้วย


ชุดหูฟัง Xiaomi Buds 4 Pro
Ear tips (ขนาดเล็ก S, กลาง L )  
สายชาร์จ USB Type-C
คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกันสินค้า, โค้ดในการทดลองใช้งาน 360 REALITY AUDIO 

การออกแบบ


Xiaomi เลือกใช้การออกแบบที่ดูดีมีระดับ และการเลือกสีที่ดูเป็นทางการมาก ในรุ่น Space Black ด้วยการออกแบบทูโทนพร้อมผิวด้านที่ด้านล่างและผิวมันบนฝา ปิด แต่ข้อเสียของพื้นผิวมันเงาบนฝาก็คือ จะดึงดูดรอยเปื้อนซึ่งมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนเช่นกัน


Xiaomi Buds 4 Pro ได้รับการออกแบบที่ไม่เหมือนใครด้วยสไตล์ ‘แคปซูลอวกาศ’ (Space Capsule) ภายในเคสมีแม่เหล็กหลายตัวเพื่อช่วยยึดติดหูฟังให้อยู่ในตำแหน่งอย่างมั่นคง แต่ผู้ใช้งานก็ยังสามารถหยิบถอดหูฟังออกจากเคสได้ด้วยมือข้างเดียวอย่างสะดวก 


ในส่วนด้านล่างของเคส คุณจะพบไฟแสดงสถานะ LED แสดงระดับแบตเตอรี่และระบุการชาร์จ  นอกจากนี้ยังมีปุ่มจับคู่ถัดจากพอร์ต USB Type- C ด้วย


หูฟังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่แหวกแนว แทนที่จะเป็นดีไซน์โค้งวงรี Xiaomi Buds 4 Pro มีหูฟังแบบก้านที่แบนและเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส และเช่นเดียวกับตัวเคสหูฟัง มีการใช้การออกแบบทูโทน พลาสติกที่ครอบหูเป็นแบบด้านและค่อนข้างนิ่มเมื่อสัมผัส นั่นคือจุดที่ Xiaomi รักษาความโค้งมนไว้เพื่อให้สวมใส่สบายยิ่งขึ้นเมื่อใส่ในหู


แต่เช่นเดียวกันกับการออกแบบหูฟังอินเอียร์ทั่วไป หูของคุณจะเริ่มรู้สึกล้าเล็กน้อยจากการใช้งานต่อเนื่องได้ แต่กระนั้นก็โทษการออกแบบหูฟังไม่ได้ เนื่องจากหูของคนเรานั้นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้เท่ากันทุกคน


ตัวหูฟังรองรับระบบสั่งงานแบบ Gesture Control ที่รองรับการควบคุมด้วยเซนเซอร์ตรวจจับบีบ โดยสามารถสั่งงานได้ดังต่อไปนี้


บีบค้างที่หูฟังข้างซ้าย/ขวา = เปิดระบบตัดเสียงรบกวน/ฟังเสียงภายนอก (Ambient Mode)

บีบหนึ่งครั้งที่หูฟังข้างซ้าย/ขวา = เล่น/หยุดเพลง, รับ/วางสาย

บีบสองครั้งที่หูฟังข้างซ้าย/ขวา = ข้ามไปเพลงถัดไป / ปฏิเสธสายเรียกเข้า

บีบสามครั้งที่หูฟังข้างซ้าย/ขวา = ข้ามไปเพลงก่อนหน้า

การเชื่อมต่อ


Xiaomi Buds 4 Pro รองรับการเชื่อมต่อแบบ Google Fast Pair เพียงเปิดฝาเคส ก็พร้อมจับคู่กับอุปกรณ์ Android ได้ทันที


แต่เพื่อการตั้งค่าที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แนะนำให้ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Xiaomi Earbuds ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการตั้งค่าที่สำคัญ เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน , Dual Connection และ Dimensional Audio และแน่นอน ค้นหาหูฟังของคุณในกรณีที่ทำตกหาย เป็นต้น

การเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์


Xiaomi Buds 4 Pro ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสลับการเชื่อมต่อเพื่อใช้งานระหว่างอุปกรณ์ 2 เครื่อง (สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือพีซี) ได้พร้อมกัน

ซอฟต์แวร์และคุณสมบัติต่างๆ

 
ในหน้าแรกของ Xiaomi Earbuds 4 Pro ระดับแบตเตอรี่แล้วจะแสดงที่ด้านบน และ ถัดลงมาเป็นระบบตัดเสียงรบกวน ที่สามารถเข้าถึงการเปลี่ยนโหมดได้อย่างรวดเร็ว  โดยคุณสามารถเลือกได้ระหว่างโหมด Transparency, Off และ Noise canceling 


นอกจากนี้ยังมีปุ่มสลับสำหรับการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติ ซึ่งใช้งานได้ดี โดยอัลกอริทึมจะทำงานในการปรับระดับ ANC ให้เหมาะสม ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ ณ เวลานั้น ตามทฤษฎีแล้ว วิธีนี้จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้ เนื่องจาก ANC จะไม่ถูกเปิดตลอดเวลา

ระบบตัดเสียงรบกวนที่ยอดเยี่ยม ยังถูกสร้างเพื่อการโทรที่ชัดเจนอีกระดับ ด้วยไมค์ 3 ตัว และ VPU ใช้สำหรับอัลกอริทึม AI เพื่อให้เสียงในการสนทนาของคุณชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีลมแรง

ซึ่งคุณลักษณะการตรวจจับเสียงค่อนข้างดีที่จะใช้งานจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนเดินเข้ามาคุยกับคุณ  และเมื่อหูฟังตรวจพบเสียงภายนอก ระดับเสียงในหูฟังจะลดลงและโหมดฟังเสียงภายนอกจะเปิดขึ้นเพื่อให้คุณได้ยินเสียงอีกฝ่าย  

ระบบเสียงที่มีมิติเพื่อการฟังที่สมจริง


นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การติดตามศีรษะ (Track Head Movement) ซึ่งจะทำงานเมื่อ Dimensional Audio เปิดอยู่ และทำหน้าที่ปรับระดับเสียงเมื่อคุณละสายตาจากโทรศัพท์ ซึ่งจุดนี้ถือเป็นไฮไลท์ที่โดดเด่นมาก

โดยXiaomi Buds 4 Pro มีระบบเสียงที่มีมิติในตัว (built-in dimensional audio) ซึ่งมอบประสบการณ์เสียงที่เสมือนจริงให้กับผู้ฟังด้วยฟังก์ชัน Track Head Movement โดยอุปกรณ์สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้และปรับเสียงตามการเคลื่อนไหวนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าทุกรายละเอียดเสียงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้เกิดเสียงสมจริง

จากการทดสอบพบว่าค่อนข้างประทับใจสูงมาก ด้วยมิติเสียงที่สมจริงกับทิศทางในการขยับศรีษะของเรา สุดยอดจริงๆครับ


คุณภาพเสียง


Xiaomi Buds 4 Pro มาพร้อมกับไดรเวอร์แม่เหล็กคู่ขนาด 11 มม. รองรับการสตรีมเสียงความละเอียดสูงโดยใช้ตัวแปลงสัญญาณ LDAC ของ Sony รองรับสูงสุด 990 kbps, 96 kHz/24 บิต ด้วยความผิดเพี้ยนต่ำและไดรเวอร์ที่มีความสมดุลชั้นเลิศ ทำให้มอบประสิทธิภาพเสียงที่น่าทึ่ง สามารถรับฟังเสียงที่ใกล้เคียงกับการบันทึกเสียงในสตูดิโอแบบต้นฉบับมากที่สุด 

เราได้ทดสอบในแนวเพลงที่หลากหลาย พบว่า Xiaomi Buds 4 Pro สร้างเสียงเบสได้อย่างเหมาะสม เสียงร้องก็สะอาดและเสียงความถี่สูงก็คมชัดแม้ในระดับเสียงที่สูง เพลงอะคูสติกและแทร็กที่มีเครื่องดนตรีมากมายก็ฟังดูสะอาดไม่รกหู

 
ไมโครโฟนสำหรับการโทรสนทนา


ประสิทธิภาพของไมโครโฟนนั้นยอดเยี่ยม เฉพาะสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมากและมีลมแรงด้านข้างเท่านั้นที่อาจรบกวนการโทรสนทนาไปบ้าง แต่เสียงจากท้องถนนตามปกติหรือสภาพแวดล้อมทั่วๆไป ไม่ได้รบกวนการสนทนาเลย ต้องบอกว่าไม่ค่อยเห็นประสิทธิภาพการใช้โทรสนทนาที่ดีระดับนี้จากหูฟัง TWS ขนาดเล็ก เท่าไหร่นักครับ

อายุแบตเตอรี่และการชาร์จ


เอียร์บัดแต่ละข้างมีแบตเตอรี่ขนาด 53 mAh ในขณะที่เคสมีแบตเตอรี่ขนาด 565 mAh  นั่นเป็นมาตรฐานที่ค่อนข้างดีสำหรับหูฟังระดับไฮเอนด์ แต่ Buds 4 Pro มีข้อดีอย่างหนึ่งที่เหนือกว่าคู่แข่ง นั่นคือ เคสสามารถชาร์จด้วยสายเคเบิลและแบบไร้สายได้ ซึ่งรองรับการชาร์จ Qi มาตรฐาน ดังนั้นหูฟังจึงสามารถชาร์จได้กับเครื่องแท่นชาร์จและสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ที่รองรับระบบชาร์จแบบไร้สายย้อนกลับ

จากประสบการณ์ใช้จริง เคสและหูฟังชาร์จเร็วมาก  Xiaomi อ้างว่าการชาร์จเพียง 5 นาทีจะทำให้คุณเล่นเพลงต่อเนื่องได้ 3 ชั่วโมง และนั่นดูเหมือนจะตรงกับการทดสอบใช้จริงครับ และ Xiaomi ยังเผยว่าสามารถฟังได้นานสูงสุด 38 ชั่วโมง เมื่อชาร์จกับเคสชาร์จ (แต่ต้องปิด ANC และ Dimensional Audio นะ)

สรุป


Xiaomi Buds 4 Pro มีหลายสิ่งที่ดีงาม ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือคุณภาพเสียงซึ่งยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง ไม่มีอะไรให้ติแม้แต่น้อย การออกแบบก็ดี ประสิทธิภาพของไมโครโฟนดีมากในสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยอดเยี่ยม อีกทั้งคุณสมบัติสุดเทพอย่าง Dimensional Audio ก็ไม่ได้หากันได้ง่ายๆในหูฟังที่มีราคาใกล้ๆกัน


Xiaomi Buds 4 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Star Gold และ Space Black วางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ Xiaomi Store ทุกสาขา และตัวแทนวางจำหน่ายทางเป็นทาง รวมถึงช่องทางออนไลน์ LAZADA, Shopee
 
Article By : โลกไอทีวันนี้

Comments