FullReview : HONOR Watch GS 3 นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ สวยหรู คุ้มค่า !!! ด้วยการกันน้ำ​ระดับ​ 5ATM และ อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 14 วัน !!!!


หลังจากที่​ HONOR​ ได้เริ่มกลับมาลุยตลาด​ Smartphone แบบเต็มตัว​อีกครั้ง ก็ถึงเวลาต้องส่งอุปกรณ์เสริมอย่าง HONOR Watch GS 3 ลงสู่ตลาด​ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์

โดย​ HONOR​ Watch GS 3 ที่ทางเราได้รับมานั้นเป็นรุ่น​ 46 mm. สี​ Midnight Black เราลองไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

สเปค​ HONOR Watch GS 3

หน้าปัดทรงกลมชนิด​ Amoled ขนาด​ 1.43 นิ้ว​, ความละเอียด​ 466 × 466 พิกเซล​ , ความหนาแน่น 326 PPI ,  ครอบทับด้วยกระจก​ 3D Glass
รองรับ​การวัด Heart Rate Monitoring / SpO2
รองรับการกันน้ำระดับ​ 5ATM
รองรับ​ Bluetooth 5.0
แบตเตอรี่​ 451 mAh
ระบบปฎิบัติการ​ Proprietary OS

ข้อมูลเบื้องต้น

HONOR​ Watch GS 3 โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรูที่มาพร้อมประสิทธิภาพอัดแน่น แต่ประหยัดพลังงาน ใช้งานได้นานสูงสุด 2 สัปดาห์ ใช้หน้าจอทัชสกรีน AMOLED แบบ 3 มิติ สามารถตรวจจับภาวะหัวใจเต้นในอัตราต่ำกว่าปกติหรือภาวะหัวใจล้มเหลวได้ และ ไม่พลาดทุกการติดต่อด้วยการโทรแบบ Voice Call ผ่านบลูทูธ


Design

HONOR Watch GS 3 นำเสนอด้วยหน้าปัดนาฬิกาทรงกลมแบบ​ Amoled ขนาด​ 1.43 นิ้ว​ ที่มีขอบที่บาง พร้อมครอบทับด้วยกระจกกันรอยแบบ​ 3D Glass​ ใหม่​ ที่สามารถวางกระจกแนบชิดกับ​พาแนลของจอได้แบบไม่มีช่องว่าง ซึ่งต้องบอกว่าหน้าจอมีความคมชัดสูงและสีสันสดใสมาก แม้อยู่ในกลางแจ้งก็ยังเห็นได้ดี

ตัวเรือนใช้วัสดุสแตนเลส 316L เคลือบสีดำ น้ำหนักเบา​ ด้านขอบขวาจะมีปุ่มเม็ดมะยม​ 2 ปุ่มสำหรับควบคุมการใช้งาน​ โดยปุ่มบนเป็นปุ่มกดเข้าเมนู​ หรือ​ กลับสู่หน้า​ Home​ และปุ่มด้านล่างเป็นปุ่ม​ Quick Launch เข้าสู่โหมดออกกำลังกาย

สายฟลูออรีนสีดำ เข้ากันได้ดีกับตัวเรือน เพิ่มความหรูหรามาก

ใต้ปุ่มควบคุมจะเป็นช่องลำโพงสนทนาในตัว​ ใช้สำหรับการคุยโทรศัพท์​, ฟังเพลง​ หรือฟัง​ Training Coach ส่วนตัวเวลาออกกำลังกาย

ด้านล่างใช้ฝาครอบวัสดุพลาสติก มีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ​ แบบ PPG 8 ช่อง​ และ​ Charging​ Pin

โดยรวมการออกแบบของ​ HONOR Watch​ GS 3 จะมีหน้าตาตัวเรือนที่สวยงามหรูหราแบบเรียบๆ ด้วยตัวเรือนและสายสีดำ Midnight Black


Hardware &​ Performance

HONOR​ Watch​ GS 3 มาพร้อม​การเชื่อมต่อบลูทูธ ที่มีความเสถียร ด้วยมาตราฐาน Bluetooth 5.0 ซึ่งเคลมว่าสามารถถือได้ห่างถึง 100 เมตร​ จากโทรศัพท์ของคุณ

มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ , GPS และ ไจโรสโคป มาพร้อมกับไมโครโฟนและลำโพงในตัว สำหรับรับสายสนทนาและฟังเพลงได้ในตัว

นาฬิการองรับการออกกำลังกายได้ถึง 104 โหมด และสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจใต้น้ำได้​ ที่ระดับ​ 5 ATM 

จากข้อมูล HONOR​ Watch​ GS 3 รุ่นใหม่​ สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 วัน ด้วยแบตเตอรี่ 451 mAh

โดยยังคงรองรับการเชื่อมต่อทั้งสมาร์ทโฟนในระบบปฎิบัติการ Android และ iOS


วิธีการเชื่อมต่อ​ และ​ Software

HONOR Watch​ GS 3 รองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น​ HONOR​ Health App ซึ่งสามารถดาวน์โหลดผ่าน​ Google​ Play​ S​tore​ รวมถึงฝั่งระบบ​ iOS ก็สามารถดาวน์โหลดผ่าน​ App Store ได้

โดยเมื่อเข้าแอพ​ HONOR Health แล้วให้ไปที่เมนู​ Devices​ เลือกติดตั้ง​แบบ Scan และเลือก Watch GS 3 ที่ปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอ แล้วจะเข้าสู่หน้า​ Pairing Mode ให้กดเชื่อมต่อ​ จากนั้นรอเพียงไม่กี่อึดใจก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อแล้ว​ ระบบจะพามาสู่หน้าหลัก​ สำหรับการตั้งค่าทั้งหมด​ดังต่อไปนี้

Health

สำหรับดูบันทึกการตรวจสอบสุขภาพต่างๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ , การนอนหลับ , จำนวนก้าวเดิน และ อ๊อกซิเจนในกระแสเลือด เป็นต้น

Excercise

สำหรับเปิดโหมดออกกำลังกายจากตัวเครื่องสมาร์ทโฟน

Device

สำหรับการตั้งค่าตัวนาฬิกา ประกอบด้วย

Watch​ Faces Market

สำหรับปรับเปลี่ยนหน้าจอ​ โดยมีทั้งแบบสำเร็จรูป​ และแบบ​ Custom ที่เราสามารถนำรูปในสมาร์ทโฟนมาทำเป็นหน้าปัดได้​  พร้อมการตั้งค่ารูปแบบต่างๆในการแสดงผล

ระบบตรวจสอบการนอนของผู้สวมใส่​ (Health Alert)

Healthy Sleep

คำนวณจากอัตราการหายใจ , การขยับของกล้ามเนื้อ​ แล้วสามารถวิเคราะห์ออกมาเป็นรูปแบบในการนอน​พร้อมกับปัญหาที่ควรแก้ไข อีกทั้งยังสามารถแจงค่าสถิติรูปแบบในการนอนของแต่ละคืนออกมาได้อย่างละเอียด​ พร้อมด้วยการแนะนำในการแก้ไขปัญหาการนอนเบื้องต้น​ เพื่อเพิ่มคุณภาพในการนอนให้มากกว่าเดิม

Sedentary Alert เตือนเมื่อคุณนั่งนานเกิน 1 ชั่วโมง

ระบบ​ Heart Rate Monitoring

สามารถตั้งค่าวัดหัวใจได้หลายรูปแบบ​ ทั้ง

Smart​ สำหรับตั้งค่าวัดแบบอัตโนมัติ​ โดยขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำ​ ณ​ เวลานั้นๆ

Real -​ Time  เป็นการวัดและเก็บข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา​ แต่ว่าจะเปลืองแบตเตอรี่

และยังสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนในกรณีที่อัตราการเต้นของหัวใจ​มีความผิดพลาด​ ไม่ว่าจะเต้นเร็วเกินไปหรือช้าเกิน​ไป​ ต่อเนื่องนานเกิน​ 10 นาที

ระบบวัดอ๊อกซิเจนในเลือด (Sp2O)

Stress Test หรือ​ ตรวจจับความเครียด

ซึ่งประเมินจากอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นแบบกระทันหัน​ (ยกเว้นตอนออกกำลังกาย)​ จะมีการแจ้งเตือนที่ตัวนาฬิกา และเข้าสู่โหมดการฝึกหายใจ เพื่อช่วยระบายความเครียด​ และปรับสมดุลในร่างกายให้มีสภาพที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา

นอกนั้นก็จะเป็นการตั้งค่าอื่นๆทั่วไป​ เช่น​ การตั้งปลุก​, การแจ้งเตือน​, รายชื่อในสมุดโทรศัพท์​, สภาพอากาศ, เปิดหน้าจอเมื่อยกแขนขึ้น​ และ​ การอัปเดต

การแสดงผลบนตัวเรือนและวิธีการควบคุม

HONOR​ Watch​ GS 3 รองรับการสัมผัสหน้าจอเพื่อสั่งงานและมีปุ่มเม็ดมะยมทำงานร่วมกันอีก​ 2 ปุ่ม โดยการสัมผัส​เลื่อนหน้าจอ​ไปซ้ายและขวา​ เพื่อเข้าสู่เมนูการทำงานต่างๆ​ ในหน้าแรกจะเป็นหน้า​  Watch​ Face

เมื่อเลื่อนไปทางซ้ายจะพบกับ

Heart Rate

Stress

Weather

Music Control

Activity Status

เมื่อปัดจากบนลงล่าง​ จะพบกับหน้าการตั้งค่าต่างๆ​ เช่น​ Do​ not  Disturb , Show Time, Find Phone, Alarm และการเข้าสู่เมนูตั้งค่าหลัก

และเมื่อปัดหน้าจอจากด้านล่างขึ้นบน​ จะเป็นการเรียกหน้าต่าง​ Notifications สำหรับแสดงการเเจ้งเตือนต่างๆที่เกิดขึ้น

ส่วนปุ่มเม็ดมะยมด้านล่างจะเป็นการเข้าสู่โหมดออกกำลังกายต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษอย่าง

การวัด​ Air Pressure

เข็มทิศ

ฝึกการหายใจ

การรับสายและสนทนา

HONOR Watch GS 3 มีไมโครโฟนและลำโพงสนทนาในตัว​ ซึ่งสามารถใช้รับสายและสนทนาได้ที่ตัวนาฬิกาเลย​ โดยไม่ต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมา​ และระดับความดังของลำโพงนั้นถือว่าใช้ได้​ และมีขอบเขตการได้ยินอยู่ในรัศมีของตัวเรา​ ถือว่ามีความสะดวกเพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ

แบตเตอรี่และการชาร์จ

แท่นชาร์จที่ให้มาในกล่องเป็นแบบ​ Magnet Charging​ Pin ที่จะดูดติดกับตัวเรือนของ​ HONOR​ Watch​ GS 3 แบบอัตโนมัติ​

แบตเตอรี่ของ​ HONOR​ Watch​ GS 3 มีขนาด​ 451 mAh​ ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหญ่​ เมื่อเทียบกับสมาร์ทวอชแบรนด์อื่นๆ​ และ​เคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 14 วัน ซึซึ่งจากที่ทดลองใช้มาเกือบๆ 1 สัปดาห์ ก็พบว่าแบตอึดพอสมควร ดังนั้นจึงน่าจะอยู่ได้ในระดับ​ 10 วัน ขึ้นไปตามที่​กล่าวมา​

สรุป

HONOR Watch GS 3 เป็น​ Smart​Watch​ ที่มีประสิทธิภาพ​ และ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน เมื่อเทียบกับแบรนด์คู่แข่ง โดยมีราคาเพียง​ 5,999 บาท​ ก็ถือว่าคุ้มค่าและเป็นตัวเลือกที่ดีมากในตลาดเลยครับ

Article By : โลกไอทีวันนี้​ 

Comments