เราสิผู้นำเทรนด์มาช้านาน !!! NOKIA ขายมือถือฟีเจอร์โฟนและมือถือฝาพับธรรมดา ในอเมริกาได้หลายหมื่นเครื่อง !!! หลังอินฟลู Gen Z ทำคอนเท้นต์ "เบื่อ Social หนีมาใช้แค่โทรเข้าโทรออกแล้วชีวิตดี" !!!!


ไม่รู้จะเรียกว่ากระแส Y2K ได้มั้ย แต่คงต้องบอกว่าความคิดของเด็ก Gen Z มักมีอะไรที่เราคาดเดาไม่ได้เสมอ

เรื่องของเรื่องคือ SAMMY Palazzolo เด็กสาวชาวอเมริกันวัย 18 ปี เรียนอยู่ที่ University of Illinois Urbana-Champaign เริ่มเบื่อหน่ายและคร่ำครวญถึงการเสพติดสมาร์ทโฟนของเธอและเพื่อนๆ

เธอบ่นว่า  “เรากำลังพูดถึงการที่เรา [รู้สึก] เหมือนเป็นทาสของสมาร์ทโฟน เหมือนหุ่นยนต์ที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก แม้กระทั่งตอนที่เราออกไปงานปาร์ตี้”  คนนั้นคนนี้ก็เอาแต่จ้องหน้าจอ ขอดูโทรศัพท์แลกกันไปมา ไม่มีใครสนใจกันและกันเลย นี่เราอยู่ในปาร์ตี้นะ !!!! 🎉🥳🎉😭

วันต่อมา Sammy และเพื่อนๆจึงตัดสินใจไปซื้อโทรศัพท์แบบฝาพับที่ร้าน Walmart รุ่น AT&T Cingular Flex ในราคา 40 USD (ประมาณ 1,350 บาท)

ชีวิตเปลี่ยนทันที !!!!

Sammy กลายเป็นน้องใหม่ด้านการโฆษณา โดยมีโพสต์เกี่ยวกับการนำฟีเจอร์โฟนของเธอไปงานสังคมต่างๆ แทนการใช้ iPhone ของเธอ (แน่นอนว่าค่อยกลับมาโพสหลังจบปาร์ตี้นะ 😁)

กลายเป็นว่าดังเป็นพลุแตก จนเมื่อเร็วๆนี้ ทาง Nokia ได้ส่งฟีเจอร์โฟนฝาพับ Nokia 2780 ให้เธอ และอีก 44 เครื่อง เพื่อมอบให้กับเพื่อนๆและผู้ติดตามโซเชียลมีเดีย ในการช่วยโปรโมทผลิตภัณฑ์

ในขณะที่วัยรุ่น Gen Z บางคนอาจซื้อสมาร์ทโฟนพับได้ เช่น Samsung Galaxy Z Flip4 แต่ Sammy เลือก ฟีเจอร์โฟนฝาพับ

'ไม่มีอีเมลงาน ไม่มีการอัพเดท Instagram ไม่มีอะไรจาก Facebook'

เทรนด์นี้กำลังก่อตัว !!!  Nokia ขายโทรศัพท์ฝาพับหลายหมื่นเครื่องในแต่ละเดือนในสหรัฐอเมริกา จากข้อมูลของ Lars Silberbauer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ HMD Global ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์ Nokia ของฟินแลนด์ 

ยอดขายเติบโตขึ้นตามกลุ่มประชากร เขากล่าว “มันไม่ใช่เทรนด์เล็กๆเลย”

ฟีเจอร์โฟนสมัยใหม่ปรับปรุงจากโทรศัพท์สมัยก่อนที่คุณอาจจำได้  ส่วนใหญ่มาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ เช่น บลูทูธ , 4G และ กล้อง 2 ล้านพิกเซล แต่จะยังคงการออกแบบ (และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่แข็งแรง) เหมือนในยุคแรกๆไว้ก็ตาม  บางรุ่นมีอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ แต่ใช้ระบบปฏิบัติการที่ไม่รองรับแอปอย่าง Instagram และ TikTok แล้วคุณจะเลื่อนดูอะไรได้ 😂

Osamah Qatanani นักวางกลยุทธ์ด้านเนื้อหาวัย 23 ปี ในนิวยอร์กซิตี้ พกทั้ง iPhone และ โทรศัพท์แบบฝาพับธรรมดา และประเมินว่าการใช้งานของเขาแบ่งได้ 50-50  เขามองว่า ฟีเจอร์โฟนของเขาเป็นเพียงช่องทางให้ผู้ติดต่อที่สนิทที่สุดติดต่อเขาได้  “นอกเหนือจากนั้น” จะ “ไม่มีอีเมลที่ทำงาน ไม่มีการอัปเดต Instagram ไม่มีสิ่งใดจาก Facebook ไม่มีสิ่งใดจาก TikTok  ไม่มีอะไรจากใครนอกจากคนที่สำคัญกับคุณเท่านั้น”

Melissa Range, 49, รองศาสตราจารย์ด้านภาษาอังกฤษที่ Lawrence University ใน Appleton, Wis. ไม่เคยเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนเลย  บางครั้งเธอกล่าวว่าข้อจำกัดของโทรศัพท์ฝาพับทำให้ทุกอย่างยากขึ้น “ถ้าฉันหลงทาง ฉันต้องใช้ไหวพริบหรือถามทางจากใครสักคน” เธอกล่าว  แต่ส่วนใหญ่แล้ว Prof. Range ให้ความสำคัญกับความเรียบง่าย 

“ฉันมีงานที่ยุ่งมาก" พร้อมเสริมว่าเธอไม่ต้องการให้ความสนใจที่เหลืออยู่กับในโทรศัพท์ 

แน่นอนว่าเทรนด์นี้เกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น Gen Z ในสหรัฐอเมริกา และไม่ได้มากพอจะใช้คำว่าส่วนใหญ่ ซึ่งในแต่ละมุมโลกก็คงมีแนวคิดที่ต่างกันไป แต่ก็คงมีซักคนที่แอบคิดอยู่บ้างว่า ถ้าเรากลับไปใช้ชีวิตแบบในยุคที่ไร้ซึ่ง Social Media มันจะเป็นอย่างไรกันนะ ก็เป็นได้ครับ 😁

Source : Wall Street Journal
Article By : โลกไอทีวันนี้ 

Comments